ฟัน 166 นาย ตั้งแต่ ผบก.-ผบ.หมู่ เอี่ยวทุจริตเบี้ยเลี้ยงโควิด

จตช.เผยผลสอบทุจริตเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ฟัน ผบก.-ผบ.หมู่ 166 นาย ด้าน ผบ.ตร.กำชับ ต้องได้ข้อยุติภายในสิ้นปี

กรณีปมข่าวกระแสโซเชียลกล่าวหาว่ามีการทุจริตเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ซึ่งทางรัฐบาลได้จัดสรรเพื่อตอบแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ร่วมปฏิบัติงานด้านการสกัดกั้นการแพร่ระบาดในช่วงวิกฤต ตั้งแต่ 27 มีนาคม-30 มิถุนายน 2563 จำนวนกว่า 2,521 ล้านบาท โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงจากจเรตำรวจ ควบคู่กับการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทุกกองบัญชาการ ซึ่งล่าสุดเมื่อ 30 พฤศจิกายน พล.ต.อ.สุวัฒน์ได้ประชุมเร่งรัดทุก บช.ให้เร่งดำเนินการโดยเด็ดขาด โดยให้หลักการไว้ 3 ข้อ คือ คืนความเป็นธรรมเยียวยา ถูกต้องตามระเบียบ และทุกคนรวมถึงสังคมพอใจ และให้เวลาทุกกองบัญชาการ ไปเร่งจัดการเข้าสู่กระบวนการทางวินัยภายใน 10 วัน นั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่บชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินการทางวินัย มี พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. พล.ต.ท.อดิศร์ งามจิตสุขศรี รอง จตช. พล.ต.ท.เชษฏา โกมลวรรธนะ จตร. (หน.) พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบช.สตส. ประชุมผ่านระบบทางไกลวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับรอง ผบช. ที่ทำหน้าที่จเรตำรวจของ บช.น. และตำรวจภูธรภาค 1-9

ผลการดำเนินการ พบว่าทุก บช. มีข้าราชการตำรวจ ที่เข้าสู่กระบวนการทางวินัย ประมาณ 166 นาย จาก 17 จังหวัด และนครบาล ทั้งระดับ บก.ภ.จว. และระดับสถานีตำรวจ โดยมีตั้งแต่ระดับ ผบก. ลงมาถึง ผบ.หมู่ ซึ่งมีการดำเนินการตามแต่มูลเจตนาของผู้กระทำผิด ตั้งแต่เบาไปถึงหนัก ทั้งการว่ากล่าวตักเตือน การภาคฑัณฑ์ การกักยาม การกักขัง 3-15 วัน และหนักสุดคือ การเสนอพิจารณาวินัยร้ายแรงซึ่งอาจจะเข้าสู่การดำเนินคดีทางอาญาต่อไป

สำหรับ บช.ที่ลงทัณฑ์ขั้นเบา ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ ทุก บช.รายงานผลมาให้กองวินัย ตร.
เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมกับมูลความผิดอีกครั้ง หากผลการลงฑัณฑ์ไม่เหมาะสม จะสั่งเพิ่มโทษต่อไป นอกจากนั้น ได้สั่งการให้รอง ผบช.ภ.1 ไปตรวจสอบ ภ.จว.อยุธยา และให้รอง ผบช.ภ.2 ไปตรวจสอบ สภ.ใน จว.ระยอง ทุกแห่งโดยละเอียดเพิ่มเติม แล้วรายงานผลโดยเร็ว

Advertisement

ทั้งนี้ ที่ประชุม พล.ต.อ.สุวัฒน์ได้ย้ำให้ทุก บช.ระมัดระวัง การเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกประเภท โดยเฉพาะเบี้ยเลี้ยงตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) หากพบการกระทำผิดต้องถูกลงโทษ และมีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้าย โดยให้ทุก บช.ไปตรวจสอบบัญชีเสนอแต่งตั้งให้เรียบร้อย โดยขั้นต่อไป จะต้องได้ข้อยุติภายในสิ้นปีว่า เข้าสู่การพิจารณาโทษวินัยร้ายแรง หรือไม่ร้ายแรง อย่างไร หากสิ้นปียังไม่เสร็จสิ้น จะพิจารณาข้อบกพร่องคณะกรรมการฯด้วย นอกจากนั้น ยังสั่งการให้สำนักงานตรวจสอบภายในลงพื้นที่ตรวจสอบคู่ขนานไปด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image