เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 ธันวาคม ที่ รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล พร้อมนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ นำเงินสด 2 ล้านบาท ใส่กระเป๋าล้อลากมาบริจาคให้มูลนิธิศิริราช สมทบทุนการสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โดยมี นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการโครงการบริจาคสมทบทุนอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิศิริราชร่วมกันรับมอบ พร้อมรับมอบนำเสื้อสีชมพู 20,000 ตัว นำไปแจกจ่ายให้ประชาชนตามความประสงค์
นายสันธนะกล่าวว่า ตนและนายเสี่ยโป้ พูดจริงทำจริงบริจาคกันจริงๆ โดยบริจาคเงินทั้งหมดและรับเสื้อ 20,000 ตัวจากประธานกรรมการโครงการตัวจริง หลังจากนี้จะขอเปิดโปงขบวนการเหลือบไรทั้งหลาย ที่ลงประจำวันที่แจ้งความไว้เป็นหลักฐานจากกองปราบปรามมามอบให้สื่อมวลชน ทั้งนี้ ตนยังมีคลิปสนทนา ยาว 7 นาที 54 วินาทีที่ฝ่ายคู่กรณีพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเป็นหลักฐานด้วย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยการแจ้งความดำเนินคดีนี้ กระทำจากประสบการณ์ที่ตนเคยเป็นพนักงานสอบสวน ได้แจ้งความโดยมีนายเสี่ยโป้ เป็นผู้ร้องทุกข์ ส่วนตนเป็นผู้กล่าวโทษ ตนจะดำเนินการให้หมดไม่เฉพาะเพียงเรื่องเงิน 2 ล้านบาทที่บริจาคในวันนี้ แต่จะย้อนไปดำเนินคดีเรื่องเงิน 1 ล้านบาทที่นายเสี่ยโป้ เคยบริจาคน้ำท่วมไปด้วย
นายสันธนะกล่าวอีกว่า สังคมเคยต้องการคำตอบมาแล้วรอบหนึ่ง คือเงินบริจาคน้ำท่วมยอดรวม 400 กว่าล้านบาท แต่สุดท้ายความจริงก็เงียบหาย ส่วนตอนนี้มีคนถามว่าตนจะออกมาเต้นทำไมเรื่องเงิน 2 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อเชิญดารา 1 มาร่วมแถลงข่าวกันแล้วไม่ยอมมา ยังมี ตัวละครชื่อนายนิรันดร มาประกาศตอบโต้ในคลิปที่ตนเก็บไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมอีก บอกเลยตนไม่ให้ราคาคนพวกนี้ พร้อมดำเนินคดีกับทุกคนหากหลักฐานสาวไปถึงผู้ใด
นายเสี่ยโป้กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้รับการติดต่อจากคู่กรณีว่าให้ช่วยนำเงินร่วมบริจาคซื้อเสื้อสีชมพู ซึ่งตนก็ได้ตอบตกลงไป ขณะเจรจาตอนนั้นฝ่ายคู่กรณีได้แอบอ้างว่า เป็นผู้แทนของโครงการนี้เพียงคนเดียว ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะวันนี้ นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการโครงการบริจาคสมทบทุนอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา ตัวจริงก็ยืนยันแล้ว ว่า ฝ่ายคู่กรณีและพวกไม่ได้มีส่วนร่วมกับโครงการแต่อย่างใด ดังนั้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา จึงไปแจ้งความที่กองปราบปราม เพื่อดำเนินการกับคู่กรณีและพวกเอาไว้แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา นายเสี่ยโป้ ได้แจ้งความกับ พ.ต.ท.ทรงพล หมอกกลั่น สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.ให้ดำเนินคดีกับนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ฐานพยายามฉ้อโกง หลังจากที่ตรวจสอบแล้วพบว่า นายบิณฑ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการของ รพ.ศิริราช ขณะที่ นายสันธนะ ก็ได้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคนเดียวกันให้ดำเนินคดีกับนายบิณฑ์ ในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการเรี่ยไร และการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ท้ายคำกล่าวโทษระบุว่า หากมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องก็ประสงค์ให้ดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน
