ปส. แถลงผลกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด ยึดของกลางไอซ์-โคเคน-กัญชา จำนวนมาก

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ธันวาคม ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4, พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ รอง ผบก.ปส.3 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร และ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ร่วมกันแถลงผลการกวาดล้างขบวนการเครือข่ายยาเสพติดต่างๆ จำนวน 5 คดี สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้รวม 9 คน พร้อมของกลาง ไอซ์  6 กิโลกรัม โคเคน 3 กิโลกรัม กัญชาอัดแท่งน้ำหนักรวม 870 กิโลกรัม และ รถยนต์กระบะ 3 คัน

พ.ต.อ.อดิศ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ทาง บก.ปส.3 สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้จำนวน 3 คดี โดยมีคดีสำคัญคือการติดตามจับกุมตัวนายณรงค์ชัย นันต๊ะเหล็ก และ น.ส.อรญา ประมูลพงษ์ สองสามีภรรยา ชาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการขยายผลต่อเนื่องมาจากการจับกุม น.ส.เสาวภา นาสาลี พร้อมของกลางเฮโรอีน จำนวน 228 กิโลกรัม ที่ โกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา จนทราบว่า นายณรงค์ชัย และ น.ส.อรยา ผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ทำหน้าที่เป็นผู้สั่งการและคอยประสานงานในการเตรียมลักลอบจัดส่งเฮโรอีนของกลางที่ถูกยึดไปยังประเทศไต้หวัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงกระจายกำลังลงพื้นทีติดตามตัว จนกระทั่งสืบทราบว่า  นายณรงค์ชัย และ น.ส.อรยา ได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนด้วยการล่องเรือตกปลาอยู่ในเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว  พร้อมกับทำการแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจาหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ใน ครอบครองเพื่อจาหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ กล่าวว่า ขณะที่ในส่วนของ บก.ปส.4 สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้จำนวน 2 คดี โดยคดีแรก เป็นการจับกุมนายโชคชัย หรืออ๊อด ใครสาคลี อายุ 23 ปี และ น.ส.อาทิตยา หรืออุ้ง คล้อยมูล อายุ 22 ปี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 600 กิโลกรัม หลังก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่จากพื้นที่ภาคอีสาน ลักลอบลำเลียงกัญชาล็อตใหญ่เข้ามาส่งให้กับเอเย่นต์รายย่อยในพื้นที่ภาคใต้โดยมีรถกระบะ เป็นยานพาหนะในการใช้ขนลำเลียง จึงจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางต่างๆ กระทั่งพบรถทั้งคันดังกล่าวกำลังวิ่งสัญจรอยู่บนถนนสายเอเชีย 41 บริเวณพื้นที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง มุ่งหน้า จ.สงขลา จึงวางกำลังดักตั้งจุดสกัดพร้อมกับตรวจค้นภายในรถจนพบของกลางดังกล่าว จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีในฐานความผิด “มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนอีกคดีเป็นการ จับกุมนายอิศเรศ ขุนรัตน์ อายุ 36 ปี และนายอภิชัย สลาม อายุ 38 ปี พร้อมของกลาง กัญชา 270 กิโลกรัม รถยนต์ 2 คัน โดยจับกุมได้บริเวณด่านตรวจยานพหานะชุมพร ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ต่อเนื่องบริเวณในชอยหมู่บ้านดุสิตบัญชา ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อ วันที่ 17 ธันวาคม เวลา 17.00 น. สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สนธิกำลังร่วมกันตั้งตำนตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม (กรุงเทพ-ชมพร) หน้าที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ขณะปฏิบัติหน้าที่พบรถยนต์กระบะ อีซูช ทะเบียนสงขลา ขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอทำการตรวจค้นบุคคลและทำการเอ็กช์เรย์รถยนต์ พบกัญชาน้ำหนักประมาณ 268 กิโลกรัมซุกซ่อนอยู่ในกระบะท้ายรถคันดังกล่าว โดยมีแตงโมวางปิดทับอยู่ด้านบน จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางพร้อมกับควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี ในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมกับขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมต่อไป

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image