เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 4 มกราคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนบ่อนการพนันแพร่ระบาดโควิด-19 ใน 4 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ว่า ตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมกันเช็คไทม์ไลน์ของผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาส่วนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ เพราะได้รับความร่วมมือจากประชาชน ที่ไม่ทำกิจกรรมมั่วสุม และเว้นระยะห่างทางสังคม
ทั้งนี้พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับทุกพื้นที่ต้องไม่มีบ่อนการพนัน และสถานที่มั่วสุม และให้ปฏิบัติตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 234/2548 เรื่อง การพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันปราบปรามอบายมุข อย่างเคร่งครัด คำสั่งดังกล่าวระบุว่ากรณีที่มีหน่วยงานระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขึ้นไป สั่งการหรือไปทำการจับกุม นอกจากเจ้าของพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ต้องรับผิดชอบแล้ว หน่วยในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง คือ กองปราบปราม กองตำรวจรถไฟ กองตำรวจน้ำ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ กองทะเบียนที่รับผิดชอบพื้นที่ที่พบการกระทำผิด และ/หรือรับผิดชอบในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข จะต้องถูกพิจารณาข้อบกพร่องด้วย
พร้อมสั่งให้เช็คประวัติ ว่าใครมีพฤติการณ์ลักลอบทำบ่อน ลักลอบเล่นพนันทุกประเภท ซึ่งช่วงนี้ต้องขอความร่วมมือกับทุกคนทั้งผู้เล่น และคนที่ทำบ่อนต้องเลิกทำ ทั้งนี้ยืนยันว่าดำเนินการทางปกครองกับตำรวจในพื้นที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะนี้มีการสั่งย้ายผู้บังคับการใน จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี แล้ว เหลือ จันทบุรี กับตราด ที่คณะกรรมการจเรตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบ อีก 2 วันน่าจะเสนอให้ตนทราบเพื่อพิจารณาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในภาคตะวันออกมีบ่อนแพร่โควิด-19 เกือบทุกจังหวัด จะพิจารณาปรับย้ายผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่าผู้บังคับการหรือไม่ พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า ต้องดูว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่ง พล.ต.ท.วีระ จิระวีระ ผบช.ภ.2 ทำงานเต็มที่ แต่ช่วงนี้มีโควิด-19 แพร่ระบาด และจุดแรกที่พบมาจากภาคตะวันออกทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ก็ได้กำชับไปทุกพื้นที่ตำรวจภูธรภาค1-9 ว่าห้ามมีบ่อนการพนัน ใครมีเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่ 1599
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินคดีกับเจ้าของบ่อนการพนัน หรือจัดให้มีการเล่นพนัน จะต้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน ซึ่งนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ตรวจสอบเส้นทางทางเงิน และดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์แล้ว ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ก็ให้เบาะแสมาแล้วส่วนหนึ่ง
