เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผช.ผบ.ตร. พร้อม พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติวงษ์ กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ.และ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมแถลงผลการทลายแหล่งลักลอบผลิตและจำหน่ายยา วัตถุออกฤทธิ์ ฟิลเลอร์ และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ในพื้นที่ จ.นครปฐม ตรวจยึดของกลาง แคปซูลยาไม่ระบุชื่อ และเลขทะเบียนจำนวนกว่า 2 แสนแคปซูล แคปซูลเปล่า 1.2 ล้านเม็ด ยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์กลุ่มฟิลเลอร์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม วัตถุดิบยาและอุปกรณ์การผลิตอีกกว่า 100 รายการ รวมมูลค่าของกลางประมาณ 5 แสนบาท
พ.ต.อ.ศารุติกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับการประสานข้อมามาจากทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า เว็บไซต์ www.auraslimbeauty.com มีการลักลอบจำหน่ายยาชุด ยาไม่มีทะเบียน ยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์กลุ่มฟิลเลอร์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก โบท็อก ฟิลเลอร์ และวัตถุออกฤทธิ์จำนวนมาก โดยมีสถานที่ตั้งและจัดจำหน่ายอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม จึงได้จัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งทราบว่ามีการกระทำผิดดังกล่าวจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นเข้าตรวจสอบจนพบของกลางจำนวนมากมูลค่ารวมกว่า 5 แสนบาท เบื้องต้นจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากส่อเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510, พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559, พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 และ พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522
พ.ต.อ.เนติกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบสถานที่ดังกล่าวมี น.ส.ภัคฑิตา พลอยแก้ว แสดงตัวเป็นเจ้าของ พร้อมยอมรับว่า ได้ลักลอบผลิตยาเพื่อจำหน่ายจริง และทำเพียงคนเดียว เนื่องจากเคยเป็นอดีตผู้ช่วยเภสัช จึงพอมีความรู้เกี่ยวกับตัวยาชนิดต่างๆ อยู่บ้าง โดยเริ่มจากสั่งซื้อตัวยา และแคปซูลเปล่าต่างๆ มาจากสถานที่อื่น จากนั้นก็จะนำมาผสมและบรรจุอัดลงในไปแคปซูลเปล่าต่างๆ แล้วนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อเข้ามาผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว ต่อมาเมื่อเริ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้น จึงได้ขยายปริมาณการผลิตจนมีจำนวนเยอะดังกล่าว นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าว พบว่ามีกลุ่มลูกค้าติดตามและสั่งซื้อยาพอสมควร แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีการลักลอบจำหน่ายมานานเท่าใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะที่ตัวยาของกลางที่ตรวจยึดทั้งหมดนี้หลังจากนี้จะนำส่งตรวจพิสูจน์ยังกรมวิทยาศาสตร์ว่าเป็นตัวยาชนิดใดบ้าง เพื่อนำมาเป็นเกณฑ์พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง
ภญ.สุภัทรากล่าวว่า ที่ผ่านมา อย.มีการเฝ้าระวังและตรวจสอบกลุ่มผลิตภัณฑ์ยา อาหารเสริมจำพวกลดน้ำหนัก และยาเถื่อนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาพบเว็บไซต์ดังกล่าวมีพฤติกรรมต้องสงสัย จึงพยายามสืบสวนจนพบว่ามีการกระทำผิดดังกล่าวจริง ทั้งนี้ อยากฝากเตือนว่ายาของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดนี้เป็นยาเถื่อน ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับทาง อย. อีกทั้งจากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หรือยาลดน้ำหนักส่วนใหญ่เป็นยาออกฤทธิ์ต่อประสาท มีส่วนผสมของสารไซบูทรามีน ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อขีวิต ในอดีตเคยมีคนกินยาที่ผสมสารตัวนี้เข้าไปแล้วเสียชีวิต
