เลื่อนนัดส่งสำนวน 3 ผู้ต้องหา คดี ม.110 กรณีขบวนเสด็จฯ เหตุ 2 ผู้ต้องหายังไม่มาตามนัด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มกราคม ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายเอกชัย หงส์กังวาน, นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายสุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือตัน ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง (Active Youth) สามผู้ต้องหา ที่ถูกแจ้งข้อหาตาม ป.อาญา ม.110 กับข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ และกีดขวางการจราจรฯ กรณีชุมนุมใกล้ขบวนเสด็จพระราชินีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 เดินทางมาตามที่ตำรวจนัดส่งตัวพร้อมสำนวนคดีต่ออัยการ อย่างไรก็ตาม คดียังมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 2 คนภายหลัง รวมเป็นทั้งหมด 5 คน
นายเอกชัย เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจนัดส่งตัวพร้อมสำนวนให้อัยการพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ โดยภายหลังตนออกจากเรือนจำ ตำรวจได้เรียกไปรับทราบข้อหาเพิ่มเติม คือข้อหากีดขวางจราจรฯ และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ รวม 3 ข้อหา เช่นเดียวกับนายบุญเกื้อหนุนและนายสุรนาถ ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เพิ่มเติมนั้น โดนหมายเรียกรับทราบข้อหาประมาณปลายเดือน พ.ย. 2563 ตนไม่รู้จัก อย่างไรก็ตาม ได้รับแจ้งจากทนายความว่าทั้ง 2 คน ขอเลื่อนนัดไปก่อน
ด้าน นายบุญเกื้อหนุน เปิดเผยถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า ตำรวจนำรถมาปิดล้อมสะพานชมัยมรุเชฐ สักพักมีตำรวจสองกองร้อยตั้งแถว ไม่มีใครพูดเลยว่าจะมีขบวนเสด็จฯมา ทุกคนคิดว่าจะสลายการชุมนุมหรือเปล่า ตนเลยยืนข้างหน้า ถ้ามีอะไรก็โดนตนก่อน ประชาชนโดนช้ากว่า ตำรวจก็คล้องแขนตั้งเป็นสามเหลี่ยมพุ่งเข้ามาเลย ผู้ชุมนุมก็เข้ามาปิดทางตำรวจ พอรู้ว่ามีขบวนเสด็จฯมาข้างหลัง ตนมีโทรโข่งก็บอกให้ผู้ชุมนุมถอน ไม่ได้ยืนตรงนั้นนานอยู่แล้ว ถอยมาให้มีอากาศหายใจ
นายบุญเกื้อหนุน กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นก็ได้รับหมายจับคดี ม.110 เป็นคดีอาญาครั้งแรกในชีวิตและแรงที่สุด การใช้ ม.110 เป็นการใช้กฎหมายรุนแรงเกินกว่าเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาทราบชื่อผู้ต้องหาอีก 2 ราย คือนายชนาธิป ชัยชะยางกูร และนายภาณุภัทร ไผ่เกาะ ภูมิลำเนา จ.นครราชสีมา ถูกแจ้ง 3 ข้อหาเช่นเดียวกัน ได้ขอเลื่อนนัดส่งตัวพร้อมสำนวน เนื่องจากไม่ได้รับหมายจากพนักงานสอบสวน และตัวอยู่ต่างจังหวัด จึงไม่สะดวกเดินทางมาในวันนี้ ดังนั้น พนักงานอัยการจึงให้เลื่อนนัดส่งสำนวนคดีนี้ออกไปก่อน โดยให้พนักงานสอบสวนนัดหมายในครั้งหน้าใหม่ เรื่องวันเวลาจะแจ้งผ่านทนายความอีกครั้ง
