สิ้นท่า’ลูแปง ไต้หวัน’ต้นตำรับ’เคนมผง’โดนรวบคาคอนโดกลางกรุง’บิ๊กปั๊ด’นำทีมสอบเอง(คลิป)

สิ้นท่า ‘ลูแปง ไต้หวัน’ ต้นตำรับ ‘เคนมผง’โดนรวบคาคอนโดหรู กลางกรุง พร้อมของกลางอื้อ พบใช้ชื่อ-สกุลปลอมในพาสปอร์ต ‘บิ๊กปั๊ด’นำทีมสอบเอง

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มกราคม ได้เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน จำนวน 7 รายพบสาเหตุจากการเสพสารเสพติดที่เรียกว่า เคนมผง ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร และยังมีผู้เสียชีวิตจากการเสพยาเสพติดดังกล่าวอีก รวมจำนวนทั้งสิ้น 11 ราย และยังรักษาตัวอยู่ใน รพ. จำนวน 5 ราย สร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคมเป็นอย่างมาก

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้ลงมาดูคดีด้วยตนเอง พร้อมด้วย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งรับผิดชอบงานด้านยาเสพติด และสั่งการให้บูรณาการทำงานร่วมกันระหว่าง บช.ปส. กับ บช.น. เพื่อทลายขบวนการให้สิ้นซาก

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 มกราคม พล.ต.อ.สุวัฒน์, พล.ต.อ.มนู., พล.ต.ท.ชินภัทร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี. ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3พ.ต.อ.พิศาล เอิบอาบ รอง ผบก.ขส. พ.ต.อ.กฤษฎา ศรีอิสาน ผกก.2 บก.ปส.3 พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.1 บก.ปส.1 และ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหา
นาย โช วาย เชิน (chou yi Shen) หรือ Mr.Liu chun chen สัญชาติไต้หวัน อายุ 38 ปี อยู่ที่ตามหนังสือเดินทาง เลขที่ 8 ชั้น 5 ซอย 200 ถนนธงฮั้ว เมืองไทเป
พร้อมด้วยของกลาง
1. คีตามีน น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม 2.ยาอี จำนวน 376 เม็ด
3.ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม 4.เฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม
5.โคเคน น้ำหนัก 11.6 กรัม 6.LSD หรือแสตมป์มรณะ จำนวน 48 แผ่น
7.โดมิคุ่ม หรือยานอนหลับ จำนวน 2 ขวด 8.ยานอนหลับชนิดเม็ด ไฟว์ไฟว์ จำนวน 265 เม็ด
9.เครื่องซีลพลาสติก จำนวน 2 เครื่อง 10.เครื่องปั่น จำนวน 2 เครื่อง (มีคราบลักษณะยาเสพติด)
11.เครื่องชั่งดิจิทัล 2 เครื่อง 12.แก้วบีกเกอร์พลาสติก จำนวน 2 ใบ มีคราบยาเสพติด
13.ถุงพลาสติกใส จำนวน 1 แพค และอีก 30 ถุง 14. แพคเกจใส่สารเสพติด
15.อาวุธปืน 9 มม. ซิกซาวเออร์ P320 พร้อมแม็กกาซีน และกระสุน 9 มม. จำนวน 8 นัด
โดยกล่าวหาว่า “พยายามส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟมตามีน หรือยาอี) เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ฯและพยายามส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ (คีตามีน) เพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” (ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 56/2564 ลงวันที่ 19 ม.ค. 64) และ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน,ยาอี,ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน,แอลเอสดี) ไว้ในครอบครองโดยเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน,ไฟว์ไฟว์,โดมิคุม) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ” และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต”

Advertisement
รายงานข่าวแจ้งว่า จากข้อมูลของ บช.ปส.พบว่าประมาณเดือนตุลาคม 2563 บก.ปส.3 สามารถตรวจยึด เคนมผง เป็นครั้งแรกมีการซุกซ่อนอยู่ในกล่องขนมเตรียมส่งบริการขนส่งพัสดุ ปลายทางประเทศสหรัฐอารับเอมิเรตส์ จากการตรวจพิสูจน์มีส่วนผสมของยาคีตามี และไอซ์ หรือที่เรียกว่า เคนมผง โดยคนร้ายได้ใช้ชื่อและนามสกุลปลอม จนกระทั่ง ผบ.ตร.นำทีมสืบสวนชุดจับกุมของ บช.ปส. ดำเนินการไล่กล้องวรจรปิดจนกระทั่งพบภาพคนร้ายจึงได้ออกหมายจับของศาลอาญาที่ 56/2564 ลงวันที่ 19 ม.ค.64 ตามภาพวงจรปิดพบว่าคนร้ายลักษณะเป็นชาวจีน และต่อมาสืบหาจนทราบชื่อภายหลังว่า นาย โช วาย เชิน เป็นสัญชาติไต้หวัน หลบกบดานในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีห้องพักอยู่ตามคอนโดหรูระดับ 5 ดาว ย่าน ลุมพินี, พระราม 9, ทาวน์อินทาว, รามคำแหง และสุขุมวิท กรุงเทพฯ เนื่องจากตรงตามตำหนิรูปพรรณจากภาพวงจรปิดที่ชุดสืบสวนของ บช.ปส.จึงได้เข้าทำการจับกุมโดยนาย โช วาย เชิน ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพวงจรปิดจริง และตรวจค้นห้องพัก ชั้น 8 ของคอนโดฯ (ขอสงวน) ถนนอโศกมนตรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พบสารเสพติด ได้แก่ ยาอี ยาไอซ์ ยาไฟว์ไฟว์ คีตามีน โดมิคุ่ม โคเคน แอลเอสดี พร้อมอุปกรณ์การผสมสารเสพติดที่ยึดเป็นของกลาง, ขยายผลตรวจค้นคอนโด ย่านรัชดา-พระราม 9 ชั้น 15 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พบสารเสพติด ได้แก่ คีตามีน, ยาอี, แอลเอสดี จำนวน 48 แผ่น, โคเคน, เฮโรอีน และไอซ์ ขยายผลตรวจค้นคอนโดย่านทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ได้แก่ กล่องพัสดุบริการไปรษณีย์จำนวนมาก และขยายผลตรวจค้นคอนโด สุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พบ ยาไอซ์, ยาคิตามีน และอุปกรณ์การซีนการแพค จึงยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง จึงแจ้งข้อกล่าวให้ผู้ต้องหาทราบ และใช้อำนาจ ปปส.ตามกฎหมายขยายผล และประสานการทำงานร่วมกับ บก.น.5 และ บช.น.

 

จากการสอบถามผู้ต้องหายอมรับว่าตนเองเป็นชาวไต้หวัน เมื่อปี 2555 Mr. CHOU Y SHEN (โช วาย เชิน) หรือ Mr.Liu chun chen ตนเป็นนักค้ายาเสพติดให้กับกลุ่มชาวต่างชาติ โดยได้สั่งยาเสพติดโคเคน 280 กรัม กัญชา 80 กรัม จากประเทศอเมริกา มายังไต้หวัน และได้ถูกทางการไต้หวันออกหมายจับดำเนินคดีข้อหาครอบครองยาเสพติดและส่งออก จึงได้หลบหนีมายังประเทศไทยในปี 2556 โดยใช้หนังสือเดินทางปลอม ชื่อว่า Mr.CHOU Y SHEN (โช วาย เชิน) แต่ยังคงค้ายาเสพติดต่ออีก และยอมรับอีกว่าตนเองได้เป็นผู้ผสมสารเสพติดที่เรียกกันว่า เคนมผง โดยมีสูตรการผสมปรากฏบันทึกอยู่ในโทรศัพท์ โดยคราบในเครื่องปั่นที่ตรวจยึดได้ตนเองได้มีการผสมยาเสพติด จำนวน 3 ชนิด คือ ยาเค ยาอี และยานอนหลับ มาปั่นรวมกันให้เป็นผงละเอียด สะดวกต่อการต่อเสพ วิธีการเสพใช้สูดดม เพื่อให้ออกฤทธิ์เร็วขึ้น และซึ่งถ้าเสพในปริมาณมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยมีส่งออกไปยังต่างประเทศโดยใช้ผ่านดาร์กเว็บ และบิทคอย และมีการขายให้กับชาวต่างชาติและคนไทย ทางออนไลน์ ตลอดจนมีวิธีการเปิดคอนโดหรูไว้หลายที่เพื่อความปลอดภัย และคิดว่าเจ้าหน้าที่ ตำรวจไม่สามารถจับกุมจนมีฉายาว่า “ลูแปง ไต้หวัน” แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศไทยจับกุมตัวจนได้ และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี

จับกุมตัวได้ที่บริเวณอโศก ถนนอโศกมนตรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 13.20 น.

Advertisement

ข่าวแจ้งว่า นายโช เป็นนักค้ายาซึ่งเป็นที่รู้จักในประเทศเมียนมา มีเครดิตมากพอสมควร ซึ่งเจ้าตัวได้พักอาศัยอยู่คอนโดแห่งนี้กับแฟนสาวชาวไทย 2 คน โดยเช่าห้องจากชาวไทยโดยไม่ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่อ้างว่าขายอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ความเสริมความงามในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ คาดว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการในระดับที่สูงกว่านี้ ซึ่งกำลังสืบสวนขยายผล

ข่าวแจ้งอีกว่าเนื่องจากเคตามีนเป็นที่นิยมของกลุ่มนักเสพในประเทศไต้หวัน จึงมีนายทุนชาวไต้หวันมาเปิดโรงงานผลิตเคตามีนอยู่ตามแนวชายแดนไทยฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งยาเสพติดที่ได้จะแบ่งเป็นสามส่วนคือ ขายในประเทศไทย, ส่งกลับไปจำหน่ายที่ประเทศไต้หวัน และส่งขายในประเทศโซนยุโรป จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มักพบชาวไต้หวันไปมีส่วนพัวพันกับการค้าเคตามีน



QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image