‘บิ๊กปั๊ด’ แฉ ‘ลูแปง ไต้หวัน’ มือผสมเคนมผง หนีกบดานไทย-เปลี่ยนชื่อนามสกุลถี่ยิบ

‘บิ๊กปั๊ด’ แฉ ‘ลูแปง ไต้หวัน’ มือผสมเคนมผง หนีกบดานไทย-เปลี่ยนชื่อนามสกุลถี่ยิบ

เมื่อวันที่ 26 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมนำกำลังปฏิบัติการพิเศษสยบไพรี จับกุม นายโช วาย เชิน (chou yi Shen) หรือ Mr.Liu chun chen ชาวไต้หวัน อายุ 38 ปี

พร้อมของกลาง 1.เคตามีน 4 กิโลกรัม 2.ยาอี 376 เม็ด 3.ไอซ์ 4 กิโลกรัม 4.เฮโรอีน 8 กิโลกรัม 5.โคเคน 11.6 กรัม 6.LSD 48 แผ่น 7.โดมิคุ่ม หรือยานอนหลับ 2 ขวด 8.ยานอนหลับชนิดเม็ดไฟว์ไฟว์ 265 เม็ด 9.เครื่องซีลพลาสติก 2 เครื่อง 10.เครื่องปั่น 2 เครื่อง 11.เครื่องชั่งดิจิทัล 2 เครื่อง 12.แก้วบีกเกอร์พลาสติก 2 ใบ 13.ถุงพลาสติกใส 14.แพคเกจใส่สารเสพติด 15.อาวุธปืน 9 มม.ซิกซาวเออร์ P320 พร้อมแม็กกาซีน และกระสุน 9 มม. 8 นัด ได้ที่คอนโดมิเนียมริมถนนอโศกมนตรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2563 บก.ปส.3 บช.ปส.ได้ตรวจยึดเคนมผงที่ซุกซ่อนอยู่ในกล่องขนมเตรียมส่งบริการขนส่งพัสดุ ปลายทางประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากการตรวจพิสูจน์มีส่วนผสมของยาเคตามีนและไอซ์ หรือที่เรียกว่าเคนมผง โดยคนร้ายได้ใช้ชื่อและนามสกุลปลอมหลบกบดานตามคอนโดหรูในกรุงเทพฯ อาทิ ย่านลุมพินี, พระราม 9, ทาวน์อินทาวน์, รามคำแหง และสุขุมวิท ก่อนสืบสวนรวบรวมหลักฐานจนทราบตัวคนร้ายคือนายโช จึงขอศาลอาญาออกหมายจับ

ต่อมา เมื่อตำรวจตามจับกุมนายโชได้ที่คอนโดย่านอโศกจึงเข้าตรวจค้นห้องพัก ชั้น 8 พบยาเสพติดหลายชนิด พร้อมอุปกรณ์การผสมสารเสพติด แล้วขยายผลตรวจค้นคอนโดย่านรัชดา-พระราม 9 ย่านทาวน์อินทาวน์ และสุขุมวิท ยึดของกลางได้อีกหลายรายการ จากการตรวจสอบพบสูตรการผสมยาเสพติดบันทึกอยู่ในโทรศัพท์มือถือ มีคราบสารเสพติดในเครื่องปั่นที่ตรวจยึด จำนวน 3 ชนิด คือ ยาเค ยาอี และยานอนหลับ ลักษณะเดียวกับยาเคนมผงที่ตำรวจจับกุมได้ในหลายพื้นที่ เพื่อให้สะดวกต่อการเสพและออกฤทธิ์เร็วขึ้น

ADVERTISMENT

จากการสอบปากคำผู้ต้องหารับว่า ตนเป็นนักผสมและค้ายาเสพติดให้กับกลุ่มชาวต่างชาติ โดยได้สั่งโคเคน 280 กรัม กัญชา 80 กรัม จากประเทศสหรัฐอเมริกาส่งมายังไต้หวัน จนถูกทางการไต้หวันออกหมายจับข้อหาครอบครองยาเสพติดและส่งออก จึงหลบหนีมายังประเทศไทยตั้งแต่ปี 2556 โดยใช้หนังสือเดินทางปลอม ชื่อว่า Mr.CHOU Y SHEN และยังคงค้ายาเสพติดส่งออกเรื่อยมาเพียงลำพัง โดยขายยาเสพติดผ่านดาร์กเว็บ และทำธุรกรรมด้วยบิทคอยน์เพื่อให้ยากแก่การติดตามตัว จนเป็นที่มาของฉายาว่าลูแปง ไต้หวัน เนื่องจากเป็นตัวละครจอมโจรที่ชื่นชอบและตนเองมีพฤติกรรมคล้ายกัน เพราะยังเคยเปลี่ยนชื่อนามสกุลและถือหนังสือเดินทางหลายเล่มเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่มาแล้ว 7-8 ครั้ง

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับศาลอาญา ฐานพยายามส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟมตามีน หรือยาอี) เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และพยายามส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ (คีตามีน) เพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน, ยาอี, ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน, แอลเอสดี) ไว้ในครอบครองโดยเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน, ไฟว์ไฟว์, โดมิคุม) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติม

รายงานข่าวแจ้งว่า นายโชเป็นนักค้ายาเป็นที่รู้จักในประเทศเมียนมา มีเครดิตมากพอสมควร เจ้าตัวได้พักอาศัยอยู่คอนโดแห่งนี้กับแฟนสาวชาวไทย 2 คน โดยเช่าห้องจากชาวไทยโดยไม่ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่อ้างว่าขายอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เสริมความงามในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ คาดว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการในระดับที่สูงกว่านี้ ซึ่งกำลังสืบสวนขยายผล

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เนื่องจากเคตามีนเป็นที่นิยมของกลุ่มนักเสพในประเทศไต้หวัน จึงมีนายทุนชาวไต้หวันมาเปิดโรงงานผลิตเคตามีนอยู่ตามแนวชายแดนไทยฝั่งเมียนมา ยาเสพติดที่ได้จะแบ่งเป็นสามส่วนคือ ขายในประเทศไทย, ส่งกลับไปจำหน่ายที่ประเทศไต้หวัน และส่งขายในประเทศโซนยุโรป จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มักพบชาวไต้หวันไปมีส่วนพัวพันกับการค้าเคตามีน