จากกรณีมีผู้สูงอายุได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกคืนเบี้ยยังชีพคนชราที่จ่ายโดยกรมบัญชีกลาง 2 กรณีติดๆ เช่น กรณีจ.บุรีรัมย์ กรมบัญชีกลางขอเรียกคืนเบี้ยยังชีพคนชราย้อนหลังรวมดอกเบี้ย ด้วยเหตุทับซ้อนจากการได้เงินบำนาญของลูกชายที่เป็นทหารและเสียชีวิตทำให้เป็นการได้รับเบี้ยคนชราโดยไม่มีสิทธิ
เมื่อวันที่ 26 มกราคม ว่าที่ ร.ต. ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวทางสภาทนายฯ ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคาดว่าน่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก และผู้ที่รับเบี้ยยังชีพชราภาพไม่ได้เจตนากระทำผิด เพียงแต่ไม่ทราบเงื่อนไขหลักเกณฑ์การรับเงิน ซึ่งต้องหาทางตรวจสอบและหามาตรการช่วยเหลือ
เมื่อถามถึงข้อกฎหมายที่สามารถช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีนี้ ดร.ถวัลย์ กล่าวว่า ต้องกลับไปศึกษาข้อกฎหมายก่อน เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับหลายหน่วยงาน แต่ทางสภาทนายความก็พร้อมช่วยเหลือ โดยเรามีหน่วยงานสภาทนายประจำทุกจังหวัดที่พร้อมให้คำปรึกษา และให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาไม่เคยมีคนมาร้องเรียนกรณีดังกล่าวเพียงแต่มีผู้สูงอายุมาปรึกษาเรื่องอื่นๆ เท่านั้น
เมื่อถามว่าในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามจังหวัดต่างๆ ทางสภาทนายฯความได้ลงไปให้ความช่วยเหลือหรือไม่ ดร.ถวัลย์ กล่าวว่า เราไปประชุมปรึกษาหาแนวทางเพื่อตั้งคณะทำงานเพื่อลงดูแลช่วยเหลือต่อไป