แนทเธอรีน ดุสิตา อดีต BNK48 ยิ้มออก ศาลพิพากษาไม่ผิด ปมต้นสังกัดฟ้องหมิ่น

“แนทเธอรีน ดุสิตา” อดีต BNK48 ยิ้มออก ศาลพิพากษาไม่ผิด ปมต้นสังกัดฟ้องหมิ่น ส่วนสัญญาลาออกมีผลทันที แต่ให้ชดใช้ 1 แสนค่าครู พร้อมคืนบัญชีสื่อโซเชียลมีเดียเล็งอุทธรณ์บางประเด็น

เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ห้องพิจารณา 712 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ พ1806/2563 ที่บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด (หรือ iAM ต้นสังกัดของศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปไอดอล BNK48) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง แนทเธอรีน – น.ส.ดุสิตา กิติสาระกุลชัย ศิลปิน อดีตสมาชิก BNK48 รุ่น 2 เป็นจำเลย ในข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาและการระบุเรื่องของขวัญจากแฟนคลับที่ไม่ได้รับ ซึ่งทางโจทก์มองว่าเป็นการหมิ่นประมาท

โดยโจทก์ฟ้องขอค่าเสียหายต่อชื่อเสียงที่เสียไป จากการที่จำเลยกล่าวหาว่าลักของขวัญจากแฟนคลับ 1 ล้านบาท และค่าพัฒนาศิลปินอีกต่างหาก รวมเป็นค่าเสียหาย 1,588,298 บ.พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป ให้จำเลยส่งมอบ User (ชื่อผู้ใช้) และ Password (รหัสผ่าน) ของ เฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม ซึ่งเป็นสิทธิในทางทรัพย์สินของโจทก์คืนให้กับโจทก์, ให้จำเลยลบโพสต์หมิ่นประมาทโจทก์ทั้งหมดออกจากระบบคอมพิวเตอร์และระบบอินเตอร์เน็ต, ให้จำเลยขอขมาโจทก์ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ และแถลงข่าวขอขมาโจทก์

วันนี้ น.ส.ดุสิตา, นายดุสิต กิติสาระกุลชัย บิดา พร้อมนายพงศธร เอมอ่อน ทนายความจำเลย พร้อมทีมงานบุคคลใกล้ชิดเดินทางมาศาล ฝ่ายโจทก์มีเสมียนทนายความมาศาล นอกจากนี้ ยังมีแฟนคลับของ น.ส.ดุสิตา เดินทางมาให้กำลังใจอีกจำนวนหนึ่ง

Advertisement

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์กับจำเลยแล้ว เห็นว่า กรณีจำเลยโพสต์ข้อความว่าของหายหมดเลยนั้น จำเลยไม่ได้ระบุชัดเจนว่าใครเอาของขวัญไป คนทั่วไปไม่ทราบว่าใครเอาไป จึงไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ไม่ทำให้โจทก์เสียหายแก่ชื่อเสียง จึงไม่มีค่าเสียหายส่วนนี้ที่จะให้จำเลยต้องชดใช้ แต่จำเลยเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดในสัญญาโดยไม่ได้บอกกล่าวก่อนเป็นกำหนดระยะเวลาอันสมควร ถือว่าจำเลยผิดสัญญาพัฒนาศิลปิน จึงกำหนดค่าเสียหายในส่วนค่าพัฒนาศิลปิน 100,000 บาท พร้อมส่งมอบบัญชี เฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม คืนให้แก่โจทก์

ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว น.ส.ดุสิตา หรือแนทเธอรีน เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ออกจากวงได้ หลังจากก่อนหน้านี้ตนส่งจดหมายลาออกไป แต่ทางวงแจ้งว่ายังไม่อนุมัติให้ลาออก แต่ศาลระบุการลาออกของตนมีผลตั้งแต่วันที่ส่งจดหมายลาออกแล้ว ดีใจที่เป็นอิสระรับงานได้อย่างไม่มีข้อผูกมัดอะไร ตอนนี้มีงานเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแสดง งานเพลง ซึ่งเพลงที่ 2 เพิ่งเขียนเสร็จ กำลังจะทำการอัดในไม่ช้านี้ การที่เรามาศาลเพราะตกลงกันไม่ได้ มีประเด็นที่เห็นไม่ตรงกันต้องมาจบกันที่ศาล ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีในฐานะเด็กคนหนึ่ง ที่เรามาสู้เพื่อตัวเอง

น.ส.ดุสิตา กล่าวถึงกรณีหมิ่นประมาทที่ศาลยกฟ้องส่วนนี้ว่า ตนบอกไม่ได้รับของจากแฟนคลับ ของหายไป ตอนนั้นคุยกับแฟนคลับทาง Messenger หลังพ้นสภาพเป็น BNK48 แล้ว เขาถามได้รับของหรือยัง ตนบอกยังไม่ได้ ของหายไปไหนไม่รู้ เขาก็แคปข้อความไปลงทางเฟซบุ๊กพิมพ์ด่าต้นสังกัด แต่ตนไม่รู้เห็นด้วย และคำว่าของหายไปแปลว่าเราไม่ได้รับ ไม่ได้แปลว่าเราบอกว่าเขาขโมยไป ตนไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ทั้งนี้ ตนพอใจกับคำพิพากษา รู้สึกโล่ง หายกังวล ตนไม่ได้หมิ่นประมาท การถูกฟ้องทำให้ตนเสียใจมาก กระทบความรู้สึกมาโดยตลอด เพียงเท่านี้ก็ดีใจมาก ยิ้มกว้างได้เสียที

Advertisement

ด้าน นายดุสิต บิดาของแนทเธอรีน เปิดเผยว่า เราเคารพคำพิพากษาของศาล และศาลตัดสินแล้วว่า น.ส.ดุสิตา พ้นสภาพจากการเป็น BNK48 ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 2563 แล้ว ที่ยังไม่อนุมัติให้ออกไม่ถูกต้อง มีผลกับคนอื่นที่อยู่ในวงด้วย ถ้าคนไหนต้องการลาออกก็สามารถลาออกได้ ไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาต ทันทีที่ลูกจ้างต้องการยกเลิกสัญญา สามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที ทั้งนี้ นายดุสิตยังมองว่า งานบางอย่างที่ไม่อยู่ในสัญญาแต่ไปให้คนในวงไปทำงาน ถ้าหาเงินได้จากตรงนั้น ทุกคนก็ควรจะได้รับค่าตอบแทนด้วยความเป็นธรรม คนในวงเหมือนลูกตนทั้งนั้น พ่อแม่ก็รักกันสนิทกัน

ส่วนประเด็นการส่งคืนบัญชี Instagram (ไอจี) นั้น นายดุสิต บิดาของแนทเธอรีน ระบุว่า สภาพบังคับยาก หลัง น.ส.ดุสิตา ออกจากวงมาแล้ว ศาลให้เหตุผลว่าผลงานในสื่อสังคมเป็นผลงานของต้นสังกัด ในข้อเท็จจริงหลังออกจากวง รูปภาพทั้งหมดที่ใส่ไปคือรูปหลังออกจากวง รูปก่อนหน้านี้ไม่มีแล้ว ถ้าเอากลับไปก็เป็นผลงานของ น.ส.ดุสิตา ใช้อะไรไม่ได้ ถ้าเอาไปปิดเฉยๆ ปัญหานี้ตนว่าต้องอุทธรณ์ ถ้าศาลสูงตัดสินให้ไอจีเป็นของ น.ส.ดุสิตา ทางนั้นปิดไปแล้วจะมาคืนได้อย่างไร ไอจีจะเปิดหรือทำใหม่ไม่เป็นปัญหา แต่ปัญหาคือเราไม่เห็นด้วย น่าจะสร้างบรรทัดฐานให้รู้ว่าน่าจะเป็นข้อตกลงว่าไอจีเป็นของใคร น่าจะทำตั้งแต่แรก สัญญาไม่ได้กำหนด ตอนแรกน่าจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าไม่ฟ้องเรื่องหมิ่นประมาท คงไม่มีอะไรเลยตั้งแต่แรก ฟ้องมาก็เสียใจ เพราะในวง น.ส.ดุสิตา ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใครเลย

ส่วน นายพงศธร ทนายความของ น.ส.ดุสิตา จำเลย เปิดเผยว่า กรณีที่มีปัญหากันมีทั้งหมด 3 ประเด็น ศาลพิพากษาออกมาแล้ว ประเด็นแรก เรื่องการยกเลิกสัญญา มีผลไปแล้วตั้งแต่วันที่เราบอกเลิกสัญญา แต่ศาลให้ชดเชยค่าเสียหายจากการยกเลิกสัญญา (ค่าครูสอน/เทรนเนอร์) จำนวน 1 แสนบาท ซึ่งสมเหตุสมผล เราก็ยินดี เพราะว่าจะทำให้ยุติสัญญาไปด้วยความสบายใจ แล้วก็จะเป็นบรรทัดฐานให้กับสมาชิกในวงคนอื่นๆ ต่อไปอีกด้วย ถ้าหากวันใดวันหนึ่ง ถ้าเกิดไม่พอใจในวงแล้วอยากจะเลิกสัญญาก็สามารถทำได้ ประเด็นที่สอง เรื่องเฟซบุ๊กและไอจี ศาลให้คืนชื่อและพาสเวิร์ดให้กับบริษัท ซึ่งเราจะปรึกษากันในการอุทธรณ์ต่อไป ส่วนประเด็นที่ 3 ศาลพิพากษาว่าการโพสต์ข้อความนั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ทั้งนี้ คดีเป็นเพียงศาลชั้นต้น ยังไม่ถึงที่สุด จึงจะต้องปรึกษาหารือกับ น.ส.ดุสิตา, บิดา และทีมทนายความว่าจะทำอย่างไรต่อไป โดยอาจจะอุทธรณ์ในบางประเด็นที่เรายังไม่พอใจ ซึ่งหากจะอุทธรณ์เมื่อไหร่ก็จะให้ข่าวอีกครั้ง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image