สืบทองหล่อทลายปาร์ตี้ยา ซ.สุขุมวิท เปิดเพลงกระหึ่ม ไฟ แสง สี จับ 10 ผู้ต้องหา

สืบทองหล่อทลายปาร์ตี้มั่วยาเค รวบ 10 ผู้ต้องหาทั้ง นายแบบ ดีเจ บาร์โฮส พริตตี้ พีอาร์ ในบ้านเช่าย่านสุขุมวิท 49 อ้างตกงาน โควิดพ่นพิษ

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์  พ.ต.ต.อิธิธร ประเสริฐศักดิ์ สว.สส.สน.ทองหล่อ นำกำลังฝ่ายสืบสวนปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดที่บ้านพักใน ซ.สุขุมวิท 49/19 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 10 ราย ได้แก่ นายเอกอนันต์ ตติยกาญจน์ อายุ 31 ปี กับพวกชายหญิงอายุตั้งแต่ 24-51 ปี พร้อมของกลางเคตามีน ลักษณะผงสีขาว อยู่ในจานแก้ว ชั่งน้ำหนักรวมถุงได้ 0.7 กรัม เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา ภายหลังฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ สืบทราบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีการประกาศผ่านสื่อโซเชียลว่าได้ปล่อยให้เช่าเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดงานสังสรรค์เป็นประจำ จึงเป็นเป้าหมายเฝ้าระวังบุคคลที่จะจัดกิจกรรมรวมกลุ่มที่มีจำนวนหลายคน เนื่องจากสุ่มเสี่ยงอาจเป็นสาเหตุการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้ออกตรวจเพื่อเฝ้าระวังพบว่ามีเสียงเพลงดังกระหึ่มออกมาจากบ้านดังกล่าว และมีไฟแสงสี จึงเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งเห็นคนเดินเข้าไปภายในบ้านหลายคน จึงเข้าตรวจสอบภายใน พบกลุ่มชายหญิง 10 คน กำลังนั่งดื่มสุรา พร้อมเปิดเพลงกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีการป้องกันโรคแต่อย่างใด จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมกลุ่มบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ภายในยังพบเคตามีนวางอยู่ในจานแก้ว จึงยึดไว้เป็นของกลางก่อนคุมตัวทั้งหมดมาสอบปากคำ โดยมีผู้ต้องหาให้การว่า ผู้ต้องหา 7 คนได้สังสรรค์จากที่อื่นกันมาก่อน และได้เสพยาอีไปก่อนหน้านี้ และรวมเงิน 10,000 บาท ไปซื้อยาเคมาเสพด้วยกันจากนายบี ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง และมีพวกอีก 3 คน มาร่วมสนุกด้วย

เจ้าหน้าที่จึงตรวจปัสสาวะผลการตรวจพบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนในร่างกายผู้ต้องหาทั้ง 7 รายแรก ส่วนอีก 3 คนหลัง ให้การว่าเพียงมาสังสรรค์แต่ไม่ได้เสพยาเสพติด ทั้งนี้เมื่อตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท (คีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท2(คีตามีน)โดยผิดกฎหมายและร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย, ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 ข้อ3(2) ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด-19), กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34(6)” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดี

Advertisement

ต่อมาพ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบ้านพักใน ซ.สุขุมวิท 49/19 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เพื่อหาหลักฐานมารวบรวมในสำนวนคดีเพิ่มเติม หลังเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ต้องหา 10 ราย ที่มั่วสุมเสพยาเสพติด พร้อมของกลางเคตามีน 0.7 กรัม

พ.ต.อ.ดวงโชติ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้สั่งการกำชับให้ตำรวจทุกท้องที่สืบสวนหาข่าว ป้องกันการมั่วสุม สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จึงออกตรวจเพื่อเฝ้าระวังบ้านเช่า ป้องกันการมั่วสุมในช่วงโควิด-19 จนไปพบว่าบ้านดังกล่าวมีการจัดปาร์ตี้ จึงเข้าตรวจสอบ พบกลุ่มชายหญิงอายุระหว่าง 22 ขึ้นไปจนถึง 51 ปี รวมทั้งหมด 10 คน เป็นชาย 6 คน ทำอาชีพนายแบบ ดีเจ บาร์โฮส และนักเที่ยว ส่วนอีก 4 คน เป็นพริตตี้ พีอาร์สาว เบื้องต้นจากการส่งตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด 7 คน เป็นชาย 3 คน และหญิงพริตตี้ 4 คน ส่วนนายแบบจากบาร์โฮสท์ 2 คน และดีเจ 1 ที่ถูกจ้างมา ให้บริการชงเหล้า เปิดเพลง ไม่พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าเป็นกลุ่มเพื่อนที่ทำงานกลางคืน และตกงานตั้งแต่มีการปิดสถานบันเทิงในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงตระเวนเช่าบ้าน หรือห้องพักรายวัน เพื่อมั่วสุมจัดปาร์ตี้ยาเสพติด โดยติดต่อนัดแนะกันผ่านทางกลุ่มไลน์ ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้ง ทั้งบริเวณเลียบทางด่วนรามอินทรา และย่านเตาปูน ครั้งนี้ตัดสินเช่าบ้านพักรายวันผ่านทางออนไลน์ 1 วัน วันละกว่า 1 หมื่นบาท และจ้างดีเจ รวมถึงนายแบบวาบหวิว กับเพื่อน ส่วนยาเสพติดต่างคนต่างนำมาเอง และบางส่วนก็ไลน์สั่งซื้อเพิ่ม แต่ไม่ใช่เคนมผง ซึ่งตำรวจกำลังขยายผลตรวจสอบที่มาของยาเสพติด พร้อมสอบปากคำเจ้าของบ้าน หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย โดยในวันพรุ่งนี้(4 กุมภาพันธ์) จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ ฝากขังต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image