ไมค์-นนท์ ยื่นฟ้องตร.เรียกล้านบาท ละเมิดสิทธิเสรีภาพประท้วง’บิ๊กตู่’ที่ระยอง นัดชี้สองสถาน 14 มิ.ย.

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Nutchanon Payakaphan

ไมค์ ภาณุพงศ์ -นนท์ ณัฐชนน ยื่นฟ้องตร.เรียกค่าเสียหายทางเเพ่งล้านบาท ละเมิดสิทธิเสรีภาพประท้วงบิ๊กตู่ลงพื้นที่ระยอง นัดชี้สองสถาน 14 มิ.ย.

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ศาลเเพ่งกรุงเทพใต้ฯ ถนนเจริญกรุง นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก และนายณัฐชนน หรือนนท์ พยัฆพันธ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติในความผิดฐานละเมิดเรียกค่าเสียหายจำนวน1ล้านบาท

โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า วันที่ 15 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดระยองเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยองโดยมีกำหนดการลงพื้นที่คือโรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัลระยอง ห้างแหลมทอง และตลาดสดสตาร์ โจทก์ทั้งสองทราบกำหนดการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีจากการรายงานข่าวของสื่อมวลชน จึงต้องการทวงถามความรับผิดชอบมาตรการป้องกันที่เหมาะสมในอนาคตและการเยียวยาต่อเหตุการณ์ดังกล่าวของรัฐบาลที่มีต่อประชาชนชาวจังหวัดระยองโดยประสงค์จะแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างสงบและสันติเพื่อสื่อสารข้อความถึงผู้นำรัฐบาลอันเป็นสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติรับรองไว้และเป็นไปตามมาตรป้องกันโควิค ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

ในวันดังกล่าวเวลาประมาณ15.45 น. โจทก์ทั้งสองจึงเดินทางมาบริเวณฝั่งตรงข้ามโรงแรมดี วารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง ถนนสุขุมวิท อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองและได้ยืนถือป้ายข้อความเชิงสัญลักษณ์ด้วยความสงบสันติภายใต้การคุ้มครองตามความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีเพื่อเรียกร้องถามหาความรับผิดชอบของรัฐบาลซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารและผู้อำนวยการ ศบค.ต่อกรณีที่มีการอนุญาตให้กลุ่มคนยกเว้นพิเศษเข้ามาในประเทศและปล่อยปละละเลยให้นายทหารสัญชาติอียิปต์ออกจากพื้นที่กักตัวโดยไม่เป็นไปตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนดโดยเหตุการณ์การดำเนินกิจกรรมของโจทก์ทั้งสองเป็นไปโดยสงบไม่มีความวุ่นวายใด ๆ และกระบวนการแสดงออกของโจทก์ทั้งสองเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิดเคร่งครัดคือใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างจากพื้นที่หน้าโรงแรมดีวารี ดีว่าเซ็นทรัลระยอง เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดจนกระทั่งมีเจ้าพนักงานตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนหลายนายในสังกัดของจำเลยได้จงใจปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองหรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและจงใจหรือประมาทเลินเล่อ กระทำต่อโจทก์ทั้งสองโดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ทั้งสองในขณะปฏิบัติหน้าที่โดยร่วมกันใช้กำลังขัดขวางการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยความสงบและสันติตามสิทธิเสรีภาพที่รับรองในรัฐธรรมนูญฯ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) โดยมีพ.ต.อ.พรชัย แก่นเพชร เป็นผู้บังคับบัญชาสั่งการ พ.ต.อ.ฐาปนะคลอสุวรรณ และเจ้าพนักงานสืบสวนอีก 5 นายประกอบด้วย พ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ สิงห์เถือน,ดต.พิสุทธิ์ บุรุมโชติ, ส.ต.ต.ธเนศนามวงษ์, พ.ต.ท.นายฐานันดร แก้วบุดดี ,ดต.ชัยวิทย์ สุขจิตธรรมกุล ให้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย ข่มขืนใจโจทก์ทั้งสองให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือยอมจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนโจทก์ทั้งสองต้องกระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้นและให้หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังโจทก์ทั้งสองหรือกระทำด้วยประการใดให้โจทก์ทั้งสองปราศจากเสรีภาพในร่างกายอันเป็นการบังคับให้โจทก์ทั้งสอง งดเว้นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
จากการใช้กำลังขัดขวางจับกุมโจทก์ทั้งสองไปยังรถกระบะโดยไม่เเจ้งสิทธิหรือเเจ้งข้อหา โดยที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย

Advertisement

จำเลยจึงต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่เจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัดของจำเลยได้กระทำในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดยจำเลยต้องชำระค่าสินไหนทดแทนให้แก่โจทก์ทั้งสองตามตามมาตรา 5 แห่งพรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2535

จึงขอเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าพนักงานตำรวจอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสองดังนี้ 1.ค่าเสียหายแก่เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบสันติและปราศจากอาวุธจากการที่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจในสังกัดของจำเลยร่วมกันใช้กำลังบังคับหน่วงเหนี่ยวกักขังเสรีภาพในร่างกายของโจทก์ทั้งสองทำให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหายจากการที่ไม่สามารถใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบสันติและปราศจากอาวุธเพื่อทวงถามความรับผิดชอบมาตรการป้องกันที่เหมาะสมในอนาคตและการเยียวยาต่อเหตุการณ์ดังกล่าวของรัฐบาลที่มีต่อประชาชนชาวจังหวัดระยองโจทก์ทั้งสองจึงขอคิดค่าเสียหายแก่เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบสันติและปราศจากอาวุธเป็นเงินจำนวน200,000 รวมจำนวน 400,000 บาท (สี่แสนบาทถ้วน)

2.ค่าเสียหายแก่สิทธิในร่างกายเสรีภาพในการเดินทางจากการที่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจในสังกัดของจำเลยร่วมกันใช้กำลังบังคับเอาตัวโจทก์ทั้งสองไปที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดระยองโจทก์ทั้งสองจึงขอคิดค่าเสียหายแก่สิทธิในร่างกายเสรีภาพในการเดินทางเป็นจำนวนเงินคนละ 200,000บาทจำนวน 400,000 บาท (สี่แสนบาทถ้วน)

Advertisement

3.ค่าสินไหมทดแทนจากการที่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจหลายนายในสังกัดจำเลยใช้กำลังประทุษร้ายขืนใจทำร้ายร่างกายกักขังหน่วงเหนี่ยวสกัดไม่ให้โจทก์ทั้งสองเดินทางไปไหนในช่วงเวลาดังกล่าวได้บริเวณร้านขายผ้ารอแยลคล็อธ ถนนสุขุมวิท อำเภอเมืองจังหวัดระยองทำให้โจทก์ทั้งสองเกิดความกลัวได้รับผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจเป็นอย่างมากโจทก์ทั้งสองจึงขอคิดค่าเสียหายในส่วนนี้เป็นจำนวนเงินคนละ 100,000 รวมจำนวน200,000บาท. (สองแสนบาทถ้วน)

โจทก์ทั้งสองจึงขอคิดค่าเสียหายที่จำเลยต้องชดใช้แก่โจทก์ทั้งสองทั้งหมดรวมเป็นจำนวนเงินคนละ500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5ต่อปีนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้แก่โจทก์

โดยศาลรับคำฟ้องไว้ เป็นคดี พ.293/2564เพื่อนัดชี้สองสถานในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 9 00น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image