ผบ.ตร.เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจบาดเจ็บจากชุมนุม ย้ำไม่ใช้กระสุนยาง-แก๊สน้ำตา บอกตำรวจไม่เคยเริ่มก่อน

ผบ.ตร.เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจได้รับบาดเจ็บจากเหตุชุมนุมศาลหลักเมือง เผยให้ดูเหตุตั้งแต่ต้นจนจบ ย้ำไม่ใช้กระสุนยาง-แก๊สน้ำตา บอกตำรวจไม่เคยเริ่มก่อน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ชั้น 11 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ได้ตรวจเยี่ยมและให้ขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุมบริเวณด้านหน้าศาลหลักเมือง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ซึ่งมีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว จำนวน 23 นาย ทั้งหมดเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ

แพทย์ผู้ทำการรักษาเปิดเผยว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกปาด้วยของแข็งและของเหลวคล้ายน้ำมัน ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้แสดงความห่วงใยพร้อมสั่งการให้ดูแลด้านสวัสดิการ และทำการรักษาข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บให้เป็นอย่างดี

Advertisement

ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า จากการรับรายงานจากนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจมีตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 19 คน อีก 4 คน กลับบ้านแล้ว จากการพูดคุยสอบถามมีบางคนได้รับสารเคมี สี ไม่ทราบว่าเป็นอะไร หากโดนกระจกตาก็จะมีปัญหาอาจถึงสาหัส ส่วนบางคนโดนอิฐ ของแข็ง ขว้างทำร้าย แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่มีอุปกรณ์ป้องกันตัว ถึงแม้จะป้องกันก็ยังเกิดอาการบาดเจ็บ คงต้องพักรักษาตัวกันอยู่ที่นี่จนร่างกายจะดีขึ้น ทุกครั้งในการปฏิบัติเราพยายามใช้อุปกรณ์ในการป้องกันเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญไม่ใช่ตรงนี้ ต้องฝากผู้ที่ก่อเหตุรุนแรง อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ถ้ามันจบก็ไม่มีเรื่อง เท่าที่ติดตามสถานการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมขอเจ้าหน้าที่ว่าจะส่งผู้แทนไปไหว้ศาลหลักเมืองแล้วจะยุติการชุมนุม แล้วมีการจัดอำนวยความสะดวกให้ มีการประกาศยุติการชุมนุมไปแล้ว ตนก็เชื่อว่าผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งก็ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอะไร แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งก่อเหตุความรุนแรงขึ้นมา แล้วผลก็ออกมาตามที่พวกเราเห็น มีการทำสงครามข่าวสารโจมตีกันไปมา

พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวต่อว่า ตนเรียนว่าจะดูเรื่องนี้ก็ต้องดูตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเหตุและผลมันก็เกิดเป็นเหตุเป็นผลกันมา ถ้ายุติก็จบ มันก็จบไปแล้วมันก็ไม่มีอะไร พอมาก่อเหตุกันอย่างนี้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้มาตรการในการหยุดการก่อเหตุร้าย ต้องจับกุม ก็ไปตีข่าวอะไรกันก็ต้องว่าไป และต้องฝากพี่น้องประชาชนด้วยว่ามันมีเหตุมีผลต่อเนื่องกันมา ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะไปตีกันมันไม่ใช่ ถ้าจะมีการชุมนุมอย่างแรกท่านต้องรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเขาห้ามจัดกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุด เจ้าหน้าที่ก็ประกาศห้าม แต่ว่าเราก็ไม่ถึงขนาดจะใช้กำลังจับกันตรงนั้น ก็บอกไปแล้วว่าอย่าถึงขนาดทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งเมื่อวานถ้าเลิก แล้วคุณยุติกับที่คุยกันมันก็จบไปแล้ว แต่ไม่จบอย่างนั้น

Advertisement

“ผมยืนยันว่าข้อเท็จจริงต้องดูตั้งแต่ต้นจนจบ อย่าดูเป็นท่อนๆ แล้วไปทำสงครามข่าวสารโจมตีกัน มีนำภาพไปแล้วบอกว่าคนนี้โดนกระสุนยางยิง ซึ่งมันไม่ใช่ เมื่อวานไม่มีใครใช้เลยกระสุนยาง ไม่มีใครใช้แก๊สน้ำตา เรามีของ มีอุปกรณ์ แต่เราก็ไม่ได้ใช้ เราใช้เท่าที่จำเป็น เราจับกุมผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่ไปเขียนว่าทำร้ายประชาชน ถ้ามันไม่มีเหตุใครจะไปจับ จะให้ยืนเฉยๆ โดนเอาอิฐตัวหนอนทุ่มกันแบบนั้นหรืออย่างไร คนก็มีหลายฝั่ง ประชาชนอีกฝั่งหนึ่งก็มองว่าตำรวจอ่อนแอ ไม่ทำอะไร ปล่อยให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมา” ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวอีกว่า ตนขอฝากประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่จะชุมนุมทั้งหลาย ให้ไปคุยกันให้รู้เรื่องด้วย ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุแบบนี้ ขอให้เข้าใจ แล้วคนที่ทำผิดทุกคนต้องถูกดำเนินคดี แล้วถ้าใครเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินเลยก็มาแจ้งความร้องทุกข์ ผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับไป เราก็มีระบบการตรวจร่างกายทุกคนอยู่แล้ว ตรวจร่างกายต่อหน้าแพทย์และทนายความ ใครที่เห็นว่าไม่ถูกไม่ชอบก็มาว่ากัน ก็ว่าไปตามกฎหมาย และไม่ใช่คดีแรกที่ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดแบบนี้ ใครที่ทำก็มีความผิดสะสมไปเรื่อยๆ ก็ไปว่ากันในชั้นศาลว่าจะว่าอย่างไร

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงแฮชแท็ก “ตำรวจกระทืบหมอ” ในทวิตเตอร์ขณะนี้ ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า อยากบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุจะไปอ้างว่าทำหน้าที่อะไรก็เป็นเรื่องที่ท่านอ้าง มันอยู่ที่ว่าใครก่อเหตุ ท่านก่อเหตุหรือไม่ หรือจะอ้างว่าทำหน้าที่อะไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าท่านไม่ได้ก่อเหตุท่านก็ไม่ผิด ถ้าก่อเหตุท่านก็ผิด หากเป็นความผิดซึ่งหน้าที่เขาจับก็ต้องมีพยานหลักฐานก็ว่ากันมา ซึ่งเป็นรายละเอียดทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องแจ้งข้อหาอยู่แล้ว ผู้ที่ถูกกล่าวหาต้องรู้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่เจ้าหน้าที่แจ้ง ส่วนเรื่องการพกพาอาวุธในเบื้องต้นยังไม่พบ เมื่อถามต่อว่าถึงไม่ใช่แพทย์จริงแต่การกระทำของเจ้าหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า ตนยืนยันว่าเขาจับผู้ก่อเหตุ แล้วถามว่าการเข้าทำการจับกุมเกินกว่าเหตุหรือไม่ก็ต้องดูกันไปว่าทำไมถึงทำแบบนั้น เพราะอะไร มันมีที่มาที่ไป ถ้าท่านว่าเกินกว่าเหตุก็มาว่ากันว่าเกินอย่างไร

 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะวางมาตรการหรือกำชับการปฏิบัติอย่างไร เพราะในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้จะมีการนัดรวมตัวอีกครั้ง ผบ.ตร.กล่าวว่า จริงๆ เราก็ปรับไปตามสถานการณ์อยู่แล้ว ก็จัดกำลัง และความพร้อมของเราให้พร้อม แต่อย่าลืมนะ เราไม่เคยเป็นคนที่เริ่มต้น ไม่เคย ก็ฝากไปด้วยว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องนี้ ก็ขอให้ช่วยกัน เราทำข้างเดียวไม่ได้หรอก อยากให้เกิดความเรียบร้อยก็ต้องช่วยกันให้เรียบร้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image