ทีมแพทย์อาสา เล่านาทีถูก คฝ.ตื้บ ‘บิ๊กปั๊ด’ รับม็อบ 20 ก.พ.ตามยุทธวิธี

ทีมแพทย์อาสา เล่านาทีถูก คฝ.ตื้บ ‘บิ๊กปั๊ด’ รับม็อบ 20 ก.พ.ตามยุทธวิธี

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ สน.ชนะสงคราม ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวม 6 ราย หนึ่งในนั้นมี นายปุรพล วงศ์เจียก อายุ 19 ปี อาสาสมัคร ทีมเเพทย์ DNA ที่มีภาพถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนทำร้ายร่างกายขณะเข้าจับกุมจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ชี้แจงผ่านสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ในวันที่เกิดขึ้น พร้อมรับสิ่งของที่ถูกยึดไว้กลับมา

นายปุรพลกล่าวว่า หลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุม พวกตนกำลังช่วยเหลือคนเจ็บที่ถูกมีดบาด แล้วตำรวจ คฝ.ก็ประกาศให้ยุติการชุมนุมใน 30 นาที แต่พวกตนต้องตรวจเช็กสิ่งของและเก็บอุปกรณ์ ซึ่งผ่านไปเพียง 10 นาที คฝ.ก็เข้ามา พวกตนก็รีบออกทันที โดยมีรุ่นพี่ขี่จักรยานยนต์ออกมา และพวกตนอยู่บนรถกระบะ แต่รถพี่ดับ จึงจอดแล้วลงไปช่วย แต่ คฝ.ก็วิ่งเข้าหาตน แล้วบอกว่าให้ใจเย็นๆ ระวัง คฝ.ชุดหลังจะเข้ามาทำร้าย และให้ตนคร่อมรถจักรยานยนต์รอไว้ แต่ คฝ.ก็วิ่งเข้ามาก่อนตนถูกตีจนสลบไปชั่วขณะ เจ้าหน้าที่ถึงจะตรวจค้นตัว แล้วยึดกรรไกรตัดผ้าที่ใช้การแพทย์ ซึ่งมีปลายกลมที่ตนพกไว้กับตัวไป

นายปุรพลกล่าวว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้ต่อสู้ขัดขืน และเป็นแพทย์อาสา ไม่ใช่ผู้ชุมนุมแฝงตัวเข้ามา ส่วนเรื่องแจ้งความกลับ ต้องรอปรึกษาทนายความก่อน

Advertisement

ขณะที่ นายอดิศักดิ์ ผาราม ผู้ถูกจับอีกราย กล่าวว่า ตนมาช่วยเพื่อนที่ถูกแก๊สน้ำตา ระหว่างนั้นกำลังล้างหน้าให้ ก็ถูก คฝ.วิ่งเข้ามาใช้กระบองตี

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาต (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยที่กลุ่มราษฎรนัดชุมนุมอีกครั้งวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวนายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายปฏิวัติ สาหร่ายแย้ม แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎรที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนพิเศษกรุงเทพ ว่า ทุกครั้งที่ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่มีการประเมินด้านการข่าว เตรียมกำลังและความพร้อม แต่ถามว่าเตรียมอย่างไร คงทำไปตามยุทธวิธี อะไรที่ผ่านมาเป็นบทเรียนก็เอาไปดู แต่ไม่สามารถระบุในรายละเอียดว่าเตรียมกำลังแบบไหน หรืออย่างไร

พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เมื่อเกิดขึ้นแล้วมีคนบาดเจ็บสูญเสีย ไม่เป็นผลดีอะไรเลย โดยเฉพาะคนในชาติประเทศขของเรา ขอฝากว่าจะทำอะไรต้องตรึกตรองให้ดีคิดถึงผลดีผลเสียให้มาก เจ้าหน้าที่เองทุกครั้งมีการทบทวนบทเรียนของเรา การดำเนินการอะไรก็แล้วแต่ไม่มีทางที่จะไปยุติด้วยกำลัง

Advertisement

พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า ส่วนคำถามที่ว่าม็อบพยายามยั่วยุเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความรุนแรงนั้น เราก็ดำเนินการตามสถานการณ์โดยยึดหลักของกฎหมายเป็นหลัก และเรื่องของการรักษาความปลอดภัยความสงบเรียบร้อยควบคู่กันไป

“ส่วนภาพที่เจ้าหน้าที่ทำร้ายผู้ชุมนุม ต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจ ทีมงานโฆษกต้องมีภาระที่มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อทำความเข้าใจ เอาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมานำเสนอให้ได้ เช่นเดียวกับภาพที่เจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์ได้มีการชี้แจงไปแล้ว กระบวนการทั้งหมดจะต้องไปจบที่กระบวนการยุติธรรม ชั้นตำรวจ ชั้นอัยการ ชั้นศาล ก็ต้องไปว่ากันตามกระบวนการ” พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image