เหยี่ยวถลาลม : จะให้ตำรวจเป็นอย่างไร
ได้ยินได้ฟังเรื่องราวนอกรีตนอกรอยของตำรวจมากันมากแล้วน่าจะลองชั่งน้ำหนักดูบ้างว่า “พฤติการณ์” แบบไหนอย่างไรที่เลวร้าย น่ารังเกียจ รับไม่ได้ ถ้าถึงขั้นไม่ผิดกฎหมาย ตำรวจก็ควรจับกุมตำรวจด้วยกันดำเนินคดีด้วยซ้ำไป
ได้ยินว่าวันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะไปเป็นประธานประชุม
คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และจะเปิดเพิ่มตำแหน่งระดับ “ผบช.” ยศพลตำรวจโท 4 เก้าอี้
กับ “ผบก.” ยศพลตำรวจตรี 4 เก้าอี้
เอาไว้รองรับการย้ายนายตำรวจที่ปล่อยปละละเลย ย่อหย่อนหรือพัวพันกับบ่อนการพนันและการขนแรงงานเถื่อนเข้าประเทศ
กล่าวตามจริง วิธีการ “เปิดตำแหน่ง” แบบนี้ไม่มีความหมายทั้งต่อการปรับเปลี่ยนทัศนติและจิตสำนึกตำรวจแม้แต่น้อย
วิธีเดียวกันนี้เคยใช้เมื่อ 50 ปีก่อน ตอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังเรียนชั้นมัธยม และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ก็ยังเรียนอยู่ชั้นประถม
ย้ายตำรวจไปแขวนด้วยเหตุจาก “บ่อนการพนัน” แค่ดับร้อนผ่อนกระแส
รู้ทั้งรู้ว่า “นาย” ของตำรวจบางคนในอดีตเป็น “นายทุนใหญ่” บ่อนพนันกับตู้ม้าไฟฟ้ากับอีกหลายคนก็เป็นนักเล่นมือหนักเชี่ยวชาญการพนันทุกชนิด
การแก้ไขปัญหาตำรวจที่พัวพันบ่อนหรือปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนด้วยการ “ย้าย” ไปแขวนนั้นไม่ได้เรื่อง
ไม่ได้ความ ไม่มีผลต่อการปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม
ถ้านายกรัฐมนตรีกับ ผบ.ตร.อยากจะ “เปลี่ยน” ตำรวจให้ดีขึ้นจริงๆ จะต้องเรียงลำดับ “พฤติกรรมเลวร้าย” เสียก่อน
ที่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นนักเลงเปิดบ่อนนั้นแค่ “เลวร้าย” ขั้นอ่อนๆ
ที่นายกรัฐมนตรีและ ผบ.ตร.ไม่ควร “เพิกเฉย” คือตำรวจที่พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ !
ทำไมไม่มีใครคิด ทำไมไม่มีใครกล้าออกมาพูดเสียงดังๆ ว่า ตำรวจทุกชั้นยศที่พัวพัวหรือรับเงินจากใครก็ตามที่อยู่ในขบวนการค้ายาเสพติด ไม่ว่ารับเงินเพื่อเปิดเส้นทางลำเลียง ขายภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งรู้เห็นเป็นใจบิดเบือนทำลายพยานหลักฐานในสำนวนสอบสวน นั่นเป็น “พวกเลวร้าย” ที่รับไม่ได้
ต้องปลุกให้ตำรวจ “กล้าหาญ” ช่วยสอดส่องพฤติกรรมตำรวจด้วยกัน ช่วยป้อนข้อมูลหลักฐาน แล้วเอาจริงเอาจังดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ต้องกล้าที่จะปราบตำรวจด้วยกันเพราะตำรวจต้องเป็นตำรวจ
ที่เป็น “อาชญากร” นั่นไม่ใช่ตำรวจ !?!!
