แม่ไม่เชื่อ ‘น้องวาวา’ ลูกเสพยาจนเสียชีวิตหลังรับงานเอนฯ น้องชายข้องใจ ชี้อาจมีเงื่อนงำ

แม่ไม่เชื่อ ‘น้องวาวา’ ลูกสาวเสพยาจนเสียชีวิต หลังรับงานเอนฯ – น้องชายข้องใจ ชี้อาจมีเงื่อนงำ

จากกรณี น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือวาวา พริตตี้สาว ที่เสียชีวิตจากระบบไหลเวียนโลหิตและทางเดินหายใจล้มเหลว ใน รพ.เปาโลเกษตร ช่วงเช้าวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายหลังรับงานเอนเตอร์เทนจาก น.ส.สุ โมเดลลิ่ง ให้ไปดูแลนายเก่ง ที่บ้านพักย่านพหลโยธิน ก่อนที่ครอบครัวผู้ตายจะร้องเรียนไปยังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้ช่วยเหลือทางคดี เนื่องจากเกรงจะมีความซับซ้อนเหมือนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือพริตตี้สาวลันลาเบล เมื่อปี 2562

ข่าวเกี่ยวข้อง – ตร.บุกค้นบ้านหรูจัดปาร์ตี้ฮาเรมเด็กเอน ก่อนพริตตี้วาวาดับปริศนา เผยแชตลับ

วันที่ 26 ก.พ. 64 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดบ้านน้ำขาว หมู่ 5 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.วิชญาพร หรือน้องวาวา วิเศษสมบัติ อายุ 33 ปี พริตตี้สาวที่เสียชีวิต พบกับนางพรทิพย์ แก้วสุข อายุ 54 ปี แม่ของน้องวาวา และญาติที่กำลังอยู่ในอาการโศกเศร้าจากการเสียชีวิตของน้องวาวา โดยญาติกำลังตั้งศพสวดพระอภิธรรมคืนนี้เป็นคืนแรก และกำหนดฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ.นี้

นางพรทิพย์กล่าวว่า วันแรกที่ทราบข่าวลูกสาวเสียชีวิต ตนก็รู้สึกช็อกเพราะไม่นึกว่าลูกที่อายุยังน้อย ตอนรู้ครั้งแรกคือน้องอยู่ห้องไอซียูแล้ว โดยทราบจากน้องอุ๊ แฟนของลูกสาว ส่วนสาเหตุที่บอกว่าน้องหัวใจล้มเหลว

Advertisement

ซึ่งจากที่ได้สอบถามเรื่องการไปทำงาน นางพรทิพย์ระบุ ไม่เชื่อว่าลูกจะเสียชีวิตเพราะทำตัวเละเทะเมาไม่ได้สติ หรือเสพยา เพราะน้องวาวาจะเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดี ไม่เคยปล่อยตัวในการทำงานจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ที่สำคัญงานที่น้องไปทำทุกครั้ง น้องจะระมัดระวังเสมอ จะรับงานจากคนที่ไว้ใจได้เท่านั้นติดต่อมา

นางพรทิพย์กล่าวว่า เคสที่ไปทำงานหลังสุดน้องไปทำงานเพียงคนเดียว กลุ่มที่ไปด้วยกันไม่มีคนที่รู้จักน้อง มีเพียงคนที่ติดต่องานมาให้เท่านั้นที่น้องไว้ใจที่สุดจึงยอมไป และทุกครั้งจะบอกกับแฟนน้องตลอดว่าน้องไปทำงานกี่โมง ไปที่ไหน เลิกงานกี่โมง ก็จะให้น้องอุ๊ แฟนสาวที่เป็นทอมไปรับตลอด

นางพรทิพย์กล่าวอีกว่า หลังน้องเสียชีวิต คนที่ติดต่องานให้น้อง ก็ยังไม่ได้ติดต่อพูดคุยอะไรมาทางตนเลย ส่วนผลตรวจที่ระบุว่าพบสารเสพติดในตัวน้อง ตนไม่เชื่อว่าลูกจะเสพยาเสพติดอย่างแน่นอน ยืนยันได้ว่าลูกไม่เคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติด น้องวาวาจะเป็นคนรับผิดชอบชีวิตตัวเอง ทำงานต่อสู้ชีวิตมาตลอด ทำงานเลี้ยงแม่ เลี้ยงน้อง และเป็นคนที่ชอบทำบุญ ทุกครั้งที่มีโอกาสน้องจะไปปฏิบัติธรรม ทำบุญสร้างโรงทาน เพราะน้องบอกกับตนตลอดว่างานที่ทำเป็นงานที่ไม่ดี เป็นทางอโคจร น้องก็เลยชอบที่จะไปปฏิบัติธรรม เลี้ยงเด็กอ่อน เลี้ยงคนชรา

Advertisement

นางพรทิพย์เล่าว่า ได้มีโอกาสคุยกับลูกสาวครั้งหลังสุดเมื่อประมาณวันที่ 18-19 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้คุยอะไรที่เป็นลางบอกเหตุ แต่จะถามตนว่าตนมีเงินใช้หรือเปล่า เพราะน้องไม่ได้ทำงานมานานแล้วตั้งแต่ช่วงโควิด น้องจึงเป็นห่วงตนมาก และบอกว่าน้องวาวา พยายามหางานทำอยู่นะ แต่ก็เลือกเฉพาะงานที่มั่นใจได้จริงๆ

“อยากฝากให้ทางตำรวจช่วยสอบสวนสาเหตุการตายของลูกสาวให้ละเอียดที่สุด เพราะไม่เชื่อว่าลูกจะเสียชีวิตเอง ส่วนศพของน้องวาวา ตามกำหนดเดิมจะทำการฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ.นี้ แต่หากในทางคดี ตำรวจต้องการจะตรวจพิสูจน์ศพน้องอีกครั้ง ก็พร้อมจะเก็บศพไว้ก่อนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด” นางพรทิพย์ ระบุ

ด้าน น.ส.ศศิธร อายุ 34 ปี เพื่อนคนสนิทของน้องวาวา กล่าวด้วยว่า วันแรกที่ทราบข่าวการเสียชีวิต ตกใจมากไม่คิดว่าจะเป็นวาวา เพราะวาวาโดยเฉพาะทราบว่าหัวใจล้มเหลว ตนยิ่งไม่เชื่อ เพราะวาวาเป็นคนที่รักสุขภาพ ดูแลตัวเองดีมาก ก่อนนี้เคยทำงานด้วยกันเป็นพีอาร์ เป็นพนักงานเสิร์ฟ แต่ห่างกันไปนานจนไม่ทราบความเคลื่อนไหวมาก แต่โดยส่วนตัวที่รู้จักวาวา จะเป็นคนที่ชอบเก็บตัวไม่กิน ไม่เที่ยว ทุกครั้งที่รับงาน ก็จะมีบ้านที่ดื่มเครื่องดื่ม แต่จะรู้ว่าดื่มได้แค่ไหน จะไม่เกินตัวจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ยิ่งเรื่องยาเสพติดเชื่อว่าวาวา ไม่ยุ่งแน่นอน แม้ว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันอาจจะมีบ้างที่เสพยา เลยแปลกใจว่าทำไมเพื่อนช็อกเสียชีวิต และพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย

น.ส.ศศิธรระบุว่า ที่ผ่านมาอาจจะมีบ้างที่เกินลิมิต แต่ก็แค่เมาเครื่องดื่มแล้วหลับ ส่วนยาเสพติดที่พบในร่างกาย อาจจะเป็นไปได้ว่าคนที่ร่วมในงานแอบใส่ยาเสพติดให้วาวา ในเครื่องดื่มจนเจ้าตัวดื่มไปโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า และมีข้อสงสัยหลายอย่าง ทั้งคนที่ติดต่องานให้ ทำไมไม่แจ้งให้คนไปรับวาวา ทำไมต้องไปส่งทิ้งไว้ข้างทาง ซึ่งตนมองว่าเป็นลักษณะใกล้เคียงกับคดีลันลาเบล จึงอยากฝากให้ตำรวจช่วยติดตามคดีนี้ให้กระจ่าง

นายคเชน วิเศษสมบัติ อายุ 22 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาจาก กทม.ร่วมงานศพ โดยมีญาติจำนวนหนึ่งเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ ซึ่งทางนายคเชนได้เดินเรื่องเอกสารต่างๆ ที่ กทม. และเป็นผู้ไปร้องเรียนแก่ทนายอัจฉริยะ

โดยนายคเชนเผยว่า พี่สาวนั้นทำงานส่งเสียตนและเลี้ยงดูแม่มาตลอดหลายสิบปี รู้สึกช็อกมาก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับพี่สาว ซึ่งตนไม่เชื่อว่าพี่สาวจะเสียชีวิตแบบธรรมชาติ แต่น่าจะเป็นการเสียชีวิตที่มีเงื่อนงำ โดยเฉพาะกรณียาเสพติดที่พี่สาวของตนไม่เคยยุ่งเกี่ยว จึงขอให้เป็นเรื่องทางตำรวจที่ขอให้คลี่คลายคดีนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image