เปิดกฎ ก.ตร.โอน ‘บิ๊กโจ๊ก’จาก ขรก.พลเรือนสู่สีกากี เทียบเก้าอี้ ผช.ผบ.ตร. สะพัดแต่งตั้ง เม.ย.นี้

กรณีเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับมาดำรงตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ขณะที่ นายกรัฐมนตรี เผยว่า ไม่ใช่เรื่องการลงนาม ซึ่งเป็นเรื่องของกฎหมาย และเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะเสนอชื่อมายังนายกฯ เมื่อตรวจสอบแล้วยังไม่ได้ข้อยุติ ก็ส่งกลับไปสอบต่อ นั้น

รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า ตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการโอนข้าราชการ ซึ่งไม่ใช่ข้าราชการตำรวจ หรือการโอนพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2547 ข้อ 4 ให้ผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานที่มีผู้ยื่นคำขอโอน พิจารณารับโอนโดยคำนึงถึงอายุตัว อายุราชการ ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ความชำนาญของผู้ขอโอนเปรียบเทียบกับข้าราชการตำรวจผู้รับราชการในหน่วยงาน และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญ เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าการรับโอนผู้นั้นมารับราชการทางสังกัดแล้วจะเกิดประโยชน์ต่อทางราชการ ให้เสนอตำแหน่ง ชั้นยศ และอัตราเงินเดือนที่จะใช้รองรับการโอน พร้อมทั้งรวบรวมรายละเอียดข้อมูล หลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับประวัติการรับราชการ และประวัติส่วนตัว หน้าที่การงานของตำแหน่งที่จะรับโอน เหตุผลความจำเป็นที่ต้องรับโอน ไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณา

ตามขั้นตอนสำนักนายกรัฐมนตรีต้องส่งเรื่องมาให้สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ประมวลเรื่องเสนอให้ ผบ.ตร.พิจารณา ว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มีคุณสมบัติ จะกลับมาดำรงตำแหน่งใด หากไม่มีเก้าอี้ว่าง ผบ.ตร. ต้องเสนอ ก.ตร. ขอกำหนดตำแหน่ง จากนั้นเสนอเรื่องให้ ก.ต.ช. เห็นชอบ และส่งเรื่องกลับมาให้ ก.ตร. แต่งตั้งตัวบุคคล แล้วทูลเกล้าฯ

ซึ่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ โอนย้ายจากตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามขั้นตอนสามารถกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมคือ ผู้บัญชาการ หรือตำแหน่งเทียบเท่า หรือในตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. โดยมีกระแสว่าอาจจะมีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไปพร้อมกันในวาระเมษายน ซึ่งจะมีเก้าอี้ว่างหลายตำแหน่ง

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ขณะที่บิ๊กโจ๊กถูกย้ายพ้นตำแหน่ง ผบช.สตม.เป็นไปตามคำสั่ง คสช. เนื่องจากถูกร้องเรียน หากส่งตัวกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาจมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่ถูกร้องเรียนต่อ ซึ่งต้องดูว่ามีคำสั่งแนบท้ายให้สอบสวนต่อด้วยหรือไม่ หากมีก็มีแนวโน้มว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะถูกส่งไปดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image