ฟื้นด่านจับเมา ตั้งเป้าดีเดย์ 1 เม.ย.

ดีเดย์ 1 เมษายนนี้ ในการฟื้นด่านตรวจแอลกอฮอล์ จุดตรวจกวดขันวินัยจราจร และจุดตรวจวัดมลภาวะอันเกิดจากยานพาหนะ ตามคำสั่งเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาของ บิ๊กปั๊ด” พล...สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่ลงนามหนังสือเรื่องมาตรการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งจุดตรวจเพื่อบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกและความผิดอื่น ที่เกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง

เพื่อกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานจราจรให้เป็นไปตามหลักกฎหมาย เป็นมาตรฐานสากล มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่กระทบสิทธิกับประชาชนเกินสมควร สร้างความเชื่อมั่น และเกิดภาพลักษณ์ที่ดีในการบังคับใช้กฎหมาย จึงกำหนดมาตรการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งจุดตรวจ

สาระหลักของคำสั่งดังกล่าว เน้นการกำหนดแผนการตั้งจุดตรวจ และการปฏิบัติในการตั้งจุดตรวจประเภทต่างๆ, หลักปฏิบัติการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร, หลักปฏิบัติการตั้งจุดตรวจวัดมลภาวะอันเกิดจากยานพาหนะ อย่างชัดเจน

โดยเฉพาะ “การตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์” ที่ประชาชนค่อนข้างให้ความสนใจมี 9 ข้อ

Advertisement

ประกอบด้วย 1.กำหนดรูปแบบพื้นที่ปฏิบัติ ชุดปฏิบัติการ และวัสดุอุปกรณ์ในการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ เป็นสถานที่เปิดเผย เพื่อเป็นหลักประกันให้เกิดความโปร่งใสและป้องกันความเคลือบแคลงสงสัยจากประชาชน

2.จัดสถานที่สำหรับตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบยืนยันผลในจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ

3.กั้นพื้นที่การตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบยืนยันผล และพื้นที่บันทึกข้อมูลผู้ขับขี่และผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ให้เป็นสัดส่วนที่ชัดเจน เพื่อแสดงให้ประชาชนทราบว่าเป็นพื้นที่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และป้องกันมีให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว

Advertisement

4.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ยุทธวิธีและขั้นตอนการปฏิบัติของชุดปฏิบัติการประจำจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ และกรณีมีการจับกุมผู้กระทำความผิด ให้ใช้แบบบันทึกจับกุมโดยให้มีสาระสำคัญหรือรายละเอียด

5.การตรวจวัดแอลกอฮอล์ ให้มีการตรวจเบื้องต้นและการตรวจยืนยันผล สำหรับการตรวจยืนยันผล ต้องมีการบันทึกการตรวจวัดแอลกอฮอล์ด้วยกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวชนิดที่สามารถดูภาพได้แบบปัจจุบัน (เรียลไทม์) หรืออุปกรณ์บันทึกภาพเคลื่อนไหวใช้คู่กับอุปกรณ์ที่สามารถถ่ายทอดสดการตรวจวัด เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสามารถดูการตรวจวัดได้แบบปัจจุบัน (เรียลไทม์)

6.เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ต้องใช้เครื่องของทางราชการ และต้องมีการสอบเทียบตามกำหนดระยะเวลาของอุปกรณ์นั้น จากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ทั้งนี้ ห้ามมิให้นำเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ยังไม่ได้ผ่านการสอบเทียบ หรือเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ไม่ใช่ของทางราชการมาใช้ในการปฏิบัติงานโดยเด็ดขาด

7.บันทึกข้อมูลผู้ขับขี่และผลตรวจวัดแอลกอฮอล์ลงในระบบ TPCC (Trafic Police Checkpoint Control) กรณีผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้พิมพ์เอกสารรายการตรวจวัดแอลกอฮอล์จากระบบดังกล่าวให้ผู้ขับขี่ สำหรับใช้แสดงในจุดตรวจต่อไป แต่ในกรณีที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

8.เมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติแล้วให้หัวหน้าจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์รายงานผลการปฏิบัติเป็นลายลักษณ์อักษรเสนอหัวหน้าสถานีตำรวจ หรือหัวหน้าหน่วยงานภายในวันถัดไป โดยการรายงานต้องมีข้อมูลผลการตรวจวัดที่พิมพ์จากเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ บันทึกรายการผู้ขับขี่ที่รับการตรวจวัด และรายงานสรุปผลการจับกุมผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดในข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น

9.ให้หัวหน้าสถานีตำรวจหรือหัวหน้าหน่วยงาน ตรวจสอบข้อมูลที่พิมพ์จากเครื่องตรวจแอลกอฮอล์ ตามข้อ 8.ว่าตรงกับที่หัวหน้าจุดตรวจรายงานหรือไม่ หากพบข้อมูลผิดปกติตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

นอกจากนี้ยังกำหนดวิธี “การกำกับดูแล การควบคุม การตรวจสอบการปฏิบัติ และมาตรการลงโทษ” ไว้ค่อนข้างเข้มงวด อาทิ ให้ผู้บังคับบัญชาระดับ บก/ภ.จว. บช/ภ.ตรวจสอบการปฏิบัติในการตั้งจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อมีให้มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตหรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ มิให้ฉวยโอกาส เรียก รับ หรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากผู้ใช้รถใช้ถนน

หากตรวจสอบพบว่าจุดตรวจใดมีพฤติการณ์ดังกล่าว จะพิจารณาข้อบกพร่องผู้บังคับบัญชา ผู้มีหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแลทันที ร่วมทั้งให้ตรวจสอบและกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด และหากตรวจพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใดประพฤติมิชอบในลักษณะดังกล่าว ให้รีบพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทั้งทางอาญาและทางวินัยทันที แล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึง ตร. ทราบโดยมิชักช้า

อีกทั้งยังให้ประเมินผลการปฏิบัติ โดยสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งจุดตรวจในภาพรวมของ ตร. ทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี ตามความเหมาะสม

ไทม์ไลน์ของการฟื้นด่านของ “บิ๊กปั๊ด” ย้อนไปเมื่อปีที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ได้สร้างความฮือฮาด้วยการสั่ง  “เซตซีโร่” จุดตรวจ จุดสกัด ด่านเป่าเมา เนื่องจากยังมีการร้องเรียน

จากนั้น 4 พฤศจิกายน 2563 พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันทดลองการตั้งจุดตรวจ ที่บริเวณหน้า สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)

เมื่อทดลองตั้งด่านแล้วเสร็จจึงเป็นขั้นตอนเปิดรับฟังความคิดเห็นถึงข้อดี-ข้อเสีย จากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ และภาคีเครือข่าย อาทิ มูลนิธิเมาไม่ขับ รวมไปถึงภาคประชาชน

การฟื้นด่านขึ้นมาอีกครั้ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ย้ำว่า หลังกำหนดมาตรการตั้งด่านแล้ว ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ รอง ผบ.ตร. ไปประชุมแนวทางการปฏิบัติกับทุกกองบัญชาการ (บช.) ดำเนินการเตรียมความพร้อมตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ และจุดตรวจวัดมลภาวะอันเกิดจากยานพาหนะ ซึ่งตามกำหนดการ ทุก บช. จะเริ่มตั้งด่านในวันที่ 1 เมษายนนี้ แต่หาก บช.ใด ยังไม่มีความพร้อม อาจจะต้องเลื่อนไปก่อน

อย่างไรก็ตาม ก่อนตั้งด่านจริงจะแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ประชาชนให้รับทราบอย่างทั่วถึงต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image