พี่สาว ‘วันเฉลิม’ ยื่นเอกสารสำคัญให้ดีเอสไอ บ่งชี้ทางการไทยรู้ตลอด น้องชายอยู่-หายตัวไปในกัมพูชา
จากกรณี น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาว นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้สูญหายในประเทศกัมพูชา พร้อม น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เดินทางเข้ายื่นหลักฐานสำคัญให้อัยการสูงสุด ขอให้สอบสวนกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2563 ซึ่งได้ยื่นต่อศาลพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2563 แล้ว เพื่อให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้พนักงานอัยการสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าวร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต่อไป โดยมีนายกฤษฎา กสานติกุล รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนรับเรื่องนั้น
ต่อมา มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (Cross Cultural Foundation) เปิดเผยว่า วันที่ 25 มีนาคม เวลา 09.30 น. น.ส.สิตานันจะเดินทางไปตามหนังสือเชิญไปให้ข้อมูลกับกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นั้น
ล่าสุด วันนี้ (25 มีนาคม) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม รายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมด้วยทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เดินทางมาให้คำให้การกับกองคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หายตัวไปจากที่พักในประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ น.ส.สิตานันได้เปิดเผยเอกสารสำคัญบางประการ อาทิ หนังสือเรื่องการสอบสวนความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทำลงนอกราชอาณาจักร ของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภาพจากกล้องวงจรปิดในที่พักของวันเฉลิม ที่บันทึกไว้ว่าวันเฉลิมอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา บันทึกข้อความจาก กก.3 บก.ปอท. เอกสารคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 44/2557 หรือแม้แต่หนังสือเดินทางของวันเฉลิมที่ออกโดยทางการกัมพูชา
เอกสารทั้งหมดคือข้อบ่งชี้ชัดว่า วันเฉลิมพำนักอยู่ในประเทศกัมพูชา ก่อนจะถูกบังคับให้หายไปในวันที่ 4 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน น.ส.สิตานัน พร้อมด้วยทนายความ ได้เข้าพบ พ.ต.อ.กู้เกียรติ เจริญบุญ พนักงานฝ่ายสืบสวนสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ที่สำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน โดยให้การเพิ่มเติมจากเอกสารจำนวน 100 หน้า พร้อมคำให้การที่ส่งให้กับนายกฤษฎา กสานติกุล รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา
