“สมยศ-ไผ่-หมอลำแบงค์” รับปากศาล หากได้ประกันตัว จะไม่พูดพาดพิงสถาบันฯ

“สมยศ-ไผ่-หมอลำแบงค์” รับปากศาลหากได้ประกันตัว จะไม่พูดพาดพิงสถาบันฯ “รุ้ง” จ่ออดอาหารประท้วงตาม “เพนกวิน”

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2564 ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน กับพวกรวม 22 คน แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร เป็นจำเลย ในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตาม ป.อาญา ม.112, ยุยงปลุกปั่นฯ ม.116 และข้อหาอื่นๆ จากกรณีร่วมกันชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ – สนามหลวง โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยซึ่งถูกคุมขังไม่ได้รับการประกันตัวมาศาล ส่วนจำเลยที่ได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาลครบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการพิจารณาช่วงเช้า ที่ศาลอนุญาตเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยาน ไปเป็นวันที่ 8 เม.ย. 2564 เวลา 9.00 น. แล้วนั้น ในช่วงบ่ายได้มีการดำเนินกระบวนพิจารณาต่อจนเสร็จสิ้น ซึ่งตามรายงานกระบวนพิจารณา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 4 แถลงว่า เนื่องจากจำเลยที่ 4 ไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว ทำให้ไม่อาจหาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ และไม่สามารถตรวจดูพยานหลักฐานโจทก์ได้โดยละเอียด เกรงว่าหากไม่ได้รับโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ จะเป็นเหตุให้ตนไม่ได้รับความยุติธรรม หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะไม่พูดพาดพิงเกี่ยวกับสถาบันฯ อีก

ขณะที่ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง จำเลยที่ 5 แถลงว่า ขณะนี้กำลังศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสังคมและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ การถูกคุมขังในระหว่างพิจารณา โดยไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เป็นอุปสรรคต่อการเรียนและสอบ ทำให้ไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษา ทั้งเป็นเหตุให้ไม่อาจตรวจดูพยานหลักฐานของโจทก์ และหาพยานหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ ทั้งขาดโอกาสในการปรึกษาทนายความเพื่อจะต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ขอศาลพิจารณาเกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อให้มีโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่

Advertisement

สำหรับ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ จำเลยที่ 7 แถลงว่า หากได้รับการปล่อยชั่วคราวจะไม่พูดกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อีก

ส่วน นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ จำเลยที่ 3 แถลงว่า หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองและพูดพาดพิงสถาบันฯ อีกอย่างเด็ดขาด โดยจะไปประกอบอาชีพร้องหมอลำเพื่อหาเลี้ยงชีพต่อไป

ทั้งยินดีที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราวทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่เครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) การวางเงื่อนไขห้ามออกนอกเขตกำหนด หรือการวางเงื่อนไขห้ามยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุม และจะมาศาลทุกนัด หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือไม่มาศาลนัดหนึ่งนัดใด ก็ยินดีที่จะให้ศาลถอนประกัน

Advertisement

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำแถลงของจำเลยที่ 3 กรณีมีข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป โดยจำเลยที่ 3 มีการเสนอเงื่อนไขที่จะไม่เข้ายุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมพูดพาดพิงถึงสถาบันฯ หากได้รับการปล่อยชั่วคราว ยินยอมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด ไม่ว่าจะเป็นการติดเครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) หรือห้ามออกนอกเขตกำหนดและจะมาศาลตามนัดทุกนัด จึงบันทึกไว้เพื่อประกอบดุลพินิจในการปล่อยชั่วคราว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับกรณีทนายจำเลยแถลงเกี่ยวกับการไม่สามารถนำคลิปวิดีโอพยานหลักฐานเปิดภายในเรือนจำให้จำเลยดูได้นั้น จึงขอศาลเบิกจำเลยที่ถูกคุมขังมาเพื่อเปิดคลิป จะได้เป็นข้อมูลที่ใช้เพื่อต่อสู้คดีอย่างเต็มที่

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เพื่อให้โอกาสจำเลยที่ถูกคุมขังตรวจสอบวัตถุพยานและต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ จึงให้นัดพร้อมตรวจสอบวัตถุพยานในวันที่ 7 เม.ย. 2564 เวลา 9.00 น. ซึ่งเป็นการนัดอัยการโจทก์และทนายจำเลยมาตรวจพยานวัตถุล่วงหน้าก่อนวันที่ 8 เม.ย. 2564

นอกจากนี้ ในการแถลงของ น.ส.ปนัสยา จำเลยที่ 5 ยังมีการระบายความอัดอั้นตันใจต่อศาล ขอโอกาสได้รับการประกันตัวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถ้าไม่ได้รับการประกันตัวในวันนี้จำเป็นจะต้องอดอาหารประท้วงเป็นเพื่อนเพนกวิน

เวลา 18.00 น.นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความเปิดเผยว่า วันนี้ในทีเเรกได้ยื่นประกันจำเลยทั้ง 7 ต่อศาลในช่วงเช้า เเต่ต่อมาพบว่าเอกสารบางอย่างที่ เกี่ยวกับตัวจำเลยซึ่งเป็นเอกสารสำคัญยังไม่คร บเลยยื่นขอถอนคำร้องออกมาก่อนเเละเมื่อรอเอกสารครบเเละจะยื่นประกันใหม่ภายใน2วัน ในส่วนของนายไชยอมร แก้ววิบูลย์ที่ได้ยื่นประกันวันนี้เช่นเดียวกัน ในคดีเผาหน้าเรือนจำศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องโดยให้เหตุผลว่าศาลอาญาเคยมีคำสั่งยกคำร้องมาเเล้ว กรณียังไม่ทีเหตุเปลี่ยนเเปลงคำสั่ง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image