สุดเหี้ยม รัวกระสุนไม่ยั้ง แล้วเผารถซ้ำ ดับยกครัว 3 ศพ
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ร.ต.ท.กิตติชาติ สังข์แก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงแล้วเผามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ม.5 ต.ละหาร อ.สายบุรี
หลังได้รับแจ้งจึงรีบนำกำลังไปที่เกิดเหตุ และเมื่อไปถึงพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ แบบตอนเดียวสีบรอนซ์ ทะเบียน ผต 1917 สงขลา บรรทุกสินค้าเกิดไฟลุกไหม้ทั้งคัน อยู่บริเวณร่องน้ำเกาะกลางถนน จึงประสานรถดับเพลิงเข้ามาระงับเหตุ จากการตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงอาการสาหัส จึงรีบนำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี แพทย์ได้ทำการยื้อช่วยชีวิตแต่เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์เสียเลือดมากและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นายสันติพัฒนา กิตติประภานันท์ ในที่เกิดเหตุยังพบผู้เสียชีวิต นอนคว่ำหน้าอยู่ข้างรถด้านคนขับ ทราบชื่อ นายสุพร กิตติประภานันท์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 บ้านคลองยาเหนือ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าศีรษะและลำตัว ในขณะที่ในรถบริเวณใต้คอนโซลที่นั่งข้างคนขับพบซากศพถูกเผาไหม้ร่างเกรียม ทราบชื่อ น.ส.จิราภรณ์ กิตติประภานนท์ ซึ่งเป็นลูกสาวของนายสุพร ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน เอ็ม16 และขนาด 9 มม. ตกเกลื่อนรอบบริเวณกว่า 30 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ทั้ง 3 รายเป็นครอบครัวเดียวกัน โดย น.ส.จิราภรณ์ เป็นลูกสาว และนายสันติพัฒนา เป็นหลายชายของนายสมพร ซึ่งทั้งสามคนเดินทางมาจากบ้านใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ช่วงเช้ามืด เพื่อไปส่งสินค้าประเภทโฟมและพลาสติกเต็มคันรถที่ จ.นราธิวาส โดยมีนายสมพรเป็นคนขับ ส่วนลูกสาวกับหลานชายนั่งอยู่ด้านข้าง
ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 4 คนใช้รถ จยย. 2 คันเป็นพาหนะ ขับตามหลังก่อนจะขับประชิดแล้วคนร้ายที่ซ้อนท้ายชักอาวุธปืนออกมากราดยิงทันที นายสมพรจึงรีบเร่งเครื่องหวังจะหนีตายให้ได้ ลูกสาวได้ลงไปแอบใต้คอนโซล หลานชายหมอบอยู่ข้างๆ คนร้ายยังคงขับไล่ยิงอย่างต่อเนื่องกระทั่งรถของนายสมพรเสียหลักชนต้นไม้ข้างทางแล้วไถลตกลงร่องน้ำเกาะกลางถนน คนร้ายจึงได้ลากนายสมพรและนายสันติพัฒนาออกจากรถแล้วยิงซ้ำอีกจนนายสมพรเสียชีวิตทันที ส่วนนายสันติพัฒนาแกล้งตาย จากนั้นคนร้ายยังกราดยิงใส่รถอีกชุด ทำให้ น.ส.จิราภรณ์เสียชีวิตคารถทันที ก่อนจะราดน้ำมันจุดไฟเผารถซ้ำอย่างโหดเหี้ยม หลังก่อเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่ามีความโหดร้ายและรุนแรงมาก ซึ่งผู้ประสบเหตุเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ เหตุแบบนี้เคยเกิดขึ้นมานานมาแล้วในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะคงไม่ปล่อยให้ผู้ก่อเหตุลอยนวลแน่นอน หลักฐานต่างๆ จะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะปลอกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นหลักฐานที่สามารถจะรู้ได้ว่าเป็นฝีมือของใครและกลุ่มใด
เมื่อหลักฐานชัดเจนก็สามารถดำเนินการขอหมายจับได้ทันที ซึ่งหลังเกิดเหตุ หน่วยความมั่นคงก็ได้ทำการปิดพื้นที่ ตรวจค้นเป้าหมายทุกจุดที่อยู่ในข้อมูลความมั่นคง เชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มเดิมๆ คือ กลุ่มของนายอับดุลเลาะ มูดอ ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญที่สั่งการในการก่อเหตุในพื้นที่ อ.สายบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งแนวร่วมบางคนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวแล้ว การก่อเหตุครั้งนี่น่าจะเป็นการตอบโต้หลังการวิสามัญคนร้ายในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส และอาจจะเป็นการแสดงศักยภาพในการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ ตนได้กำชับให้ทุกหน่วยในพื้นที่เพิ่มมาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้นในการดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะการลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ
