กุมารแพทย์ชี้ ‘เด่นภูมิ’ ยากต่อการเยียวยา เหยื่อรับผวาเอชไอวี ร่ำไห้ปรึกษาจิตแพทย์

‘เด่นภูมิ’ ก่อเหตุข่มขืน ชิงทรัพย์ แต่บอกตัวเองไม่ผิด ‘นพ.สุริยเดว’ รับยากเยียวยา เหยื่อผวา HIV ร่ำไห้ปรึกษาจิตแพทย์

กรณี “เด่นภูมิ” บุคคลอันตราย ผู้ต้องหาก่อเหตุลวงสาวพริตตี้ไปข่มขืนในหลายพื้นที่ มีเหยื่อออกมาแจ้งความแล้ว 36 ราย ล่าสุดเด่นภูมิถูกตำรวจจับเรียบร้อยแล้วโดยอ้างว่าเหยื่อสมยอมเอง ขณะที่ พ่อเลี้ยงเด่นภูมิ อ้างอีกฝ่ายมีพฤติกรรมแบบนี้เพราะขาดความอบอุ่นมาตั้งแต่เด็กๆ รวมทั้งมีสิ่งเร้า อีกทั้งยังเชื่อว่าเด่นภูมิน่าจะมีปัญหามาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา

รายการโหนกระแสวันที่ 13 พ.ค. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “พราว-ฝน-จูน” 3 ผู้เสียหาย มาพร้อม “รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี” กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น

เหยื่อมีทั้งหมด 36 คน ตั้งแต่ปีไหน?
ฝน : น่าจะกลางปีที่แล้ว สะสมมาเรื่อยๆ แต่จริงๆ แล้วตัวเขาน่าจะกระทำมาก่อนหน้านั้นแล้ว ตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งเหยื่อจริงๆ มีบริเวณกว้าง เกือบร้อยคนได้ ครั้งแรกที่เขาโดนจับได้แต่ไม่มีเจ้าทุกข์ไงคะ ไม่มีใครเอาเรื่อง ครั้งแรกก็ 20 แล้ว

เขาทำยังไง?
ฝน : สร้างโปรไฟล์ตัวเอง เป็นผู้หญิงทักมาเสนองานให้ในราคาค่อนข้างดี มีการพูดจาหว่านล้อมให้เราเชื่อถือว่าในงานมีผู้หญิงด้วย ปลอดภัย

Advertisement

พราว เหตุการณ์ของหนูเป็นยังไง?
พราว : เหตุเกิดวันที่ 7 เม.ย. เขาใช้ไลน์ทักมาส่วนตัวว่ารับงานมั้ย ตอนแรกก็ปฏิเสธไปเพราะเดินทางไกล หนูอยู่ที่พัทยา เขาก็เพิ่มจำนวนเงินมาให้ เป็น 2 หมื่นบาท ค่ารถต่างหาก เราก็เลยไปค่ะ เพราะคิดว่าทำงานไม่กี่ชั่วโมง

เอนอัพ หรือเอนอย่างเดียว?
พราว : เอนอย่างเดียวค่ะ ดื่มเหล้ากับลูกค้า ไปสนุกปาร์ตี้ เสร็จงานก็กลับบ้านได้ พอเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ หนูก็ทักแชตไปว่าถึงแล้ว จะให้ไปลงที่ไหน เขาก็นัดจุดให้ลงเซเว่นแถวจรัญฯ แล้วโทรมาบอกอีกรอบว่าลูกค้าติดงาน มาไม่ได้ มารับหนูได้ช่วงบ่าย ให้เราไปเปิดห้องก่อน ก็ไม่ได้เอะใจ คิดว่าเป็นโรงแรมดี แต่เป็นโรงแรมม่านรูด เขาบอกไม่ใช่โรงแรมลูกค้าจองไว้ ให้นอนรอที่นี่ไปก่อน

เข้าไปเกิดอะไรขึ้น?
พราว : ก่อนเข้าไปหนูก็ทำการเปิดห้อง จ่ายเงินเองก่อน เขาบอกจะเก็บเงินจากลูกค้าทีหลัง เรายื่นแบงก์ 500 ให้พนักงานไป เข้าไปในห้องไม่เกิน 5 นาที เขามาเคาะประตูห้อง แต่หนูคิดว่าเป็นพนักงาน ตอนแรกจะดูช่องตาแมวแต่ไม่มี เลยเปิดประตูแง้มมาดู แล้วเขาก็ผลักเข้ามาเลย ใช้มีดจี้ แล้วบอกให้ฟังกู เงียบ ไม่งั้นตาย หมั่นไส้เด็กพัทยามานานแล้ว พูดคำนี้

Advertisement

และสั่งให้เราทำตามที่เขาบอก ถอดเสื้อผ้า เขาก็ดันโซฟาปิดหน้าห้องไว้ เขาขู่ตางๆ นานาว่าคิดเหรอว่าถ้าร้องคนอื่นจะได้ยิน เราก็ทำตามที่เขาบอก เขาก็ปู้ยี้ปู้ยำเรา และบังคับให้เสพยา จนเราขอร้องเขาว่าพี่ หนูขอกลับบ้านได้มั้ย หนูไม่เอาอะไรก็ได้ ขอกลับบ้านอย่างเดียว เขาบอกอยากกลับก็หาผู้หญิงคนต่อไปมาสิ ผู้หญิงมาปุ๊บ มึงก็กลับบ้านไป

เราโทรมั้ย?
พราว : เราไม่ได้โทร เราบอกว่าเรารับงานนี้ครั้งแรก ไม่ได้มีเพื่อนเยอะ เขาก็เอาโทรศัพท์เราไปเช็ก และเอาโทรศัพท์เราเข้ากลุ่มไลน์ที่เขามี เขามีกลุ่มไลน์ร้อยกว่ากลุ่ม ดึงหนูเข้ากลุ่มไลน์นั้น และใช้โทรศัพท์หนูในการพูดคุย ทำให้เหยื่อคิดว่าเราเป็นคนหางาน

เหยื่อรายที่สองต่อจากน้องคือฝน ฝนคือเหยื่อที่ถูกเขากดเพื่อเสนอให้รับงาน คุณไปรับงาน พอไปถึงห้องตะโกนเรียกว่ามาแล้ว เป็นเสียงน้องคนนี้ตะโกนให้เข้ามาเลย ฝนเข้าไปก็โดนมีดจ่อ ล่วงละเมิด เอาเงินและให้ไปติดต่อเหยื่อรายที่สาม สองคนแรก หนูกับฝนทำอะไรอยู่?
ฝน : ตอนนั้นโดนบังคับให้อยู่ในห้องน้ำ เขาก็เก็บกวาดห้องทุกอย่างให้เหมือนเป็นเป็นห้องที่เข้ามาใหม่เพื่อหลอกคนที่สาม

ชั่วจริงๆ ถอนหายใจเลยเหรอ?
ฝน : มันสุดคนอ่ะ จะด่าเหี้่…ยังสงสารเหี้…เลย

หนูแยกมาเป็นเหยื่ออีกคน?
จูน : ใช่ค่ะ ของหนูเหตุการณ์เกิด 31 ธ.ค.63 ประมาณตีสอง เป็นโมเดลลิ่งทักมาเสนอเงิน น่าสนใจ หนูขับรถออกไปหาเขา แต่เขาเข้าไปปุ๊บบังคับเอาเงิน และบังคับมีอะไรกัน หนูเป็นประจำเดือนด้วย ก็ยัง…

เราเป็นเหยื่อของเขา เขาให้โทรต่ออีกมั้ย?
จูน : ไม่ค่ะ มีการขู่ ทำร้าย เอาเงินเราไป 4 พันกว่าบาท เป็นเงินสดค่ะ

ของเราโดนยังไง?
ฝน : โดนเงินสดด้วยค่ะ 5 พันบาท และเงินโอนด้วยอีก 2,500 บาท และให้โทรไปยืมเพื่อนอีก แต่เรายืมใครไม่ได้ เขาเลยพยายามหาคนที่สามมา

ที่หนีรอดมาได้ หลายคนชมเป็นความฉลาดของหนูมาก ทำยังไงถึงออกมาได้?
ฝน : เขาชอบให้คนพูดยอเขา ก็บอกว่าพี่หล่อจังเลย พี่เก่งจังเลย เขาจะเปิดคลิปให้ฟัง ถามว่าเพราะมั้ย เราต้องชมว่าเพราะจังเลย เปิดอีกได้มั้ย พยายามให้เขาเชื่อใจพอ พอเข้าไปในห้องน้ำคุยกับน้องว่าเป็นมายังไง จะหนียังไง หนูรู้แล้วว่ากับคนที่สามเขาต้องทำเหมือนกับหนู ต้องปล้นเงินแน่ๆ เวลาเขาเดินมาดูเรา ก็บอกว่าถ้าพี่ให้เขาโอนเงินให้พี่ เขาจะรู้บัญชีพี่นะ พี่ไม่ปลอดภัยนะ หนูห่วงพี่นะ เขาถามจะให้กูทำไง เดี๋ยวหนูส่งเลขบัญชีให้พี่ พี่ให้เขาโอนให้หนู เดี๋ยวหนูโอนให้พี่ พี่จะได้ปลอดภัย

เขาก็ถามว่าแล้วมึงต้องการอะไร ก็บอกว่าพี่เอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวหนูพิมพ์เลขบัญชีส่งให้ เขาก็ส่งโทรศัพท์ให้เรา ตอนนั้นเราก็เลยเรียกแกร็บ พิมพ์ไปบอกว่าพี่ตอนนี้หนูอยู่ห้องนี้ พี่บอกพนักงานให้มาเคาะเลยนะ แกร็บก็มา ตอนนั้นพิมพ์ว่ารีบมานะ พนักงานก็มาเคาะ บอกแกร็บมาแล้วครับ เขาก็ตกใจ เขาบอกมึงไปดูดิ เหมือนเชื่อใจเราแล้ว ไปเปิดดูดิ

เพราะชมเพลงมัน ชมว่าหล่อมาก?
ฝน : ใช่ หนูพยายามชมเขาและบอกน้องว่าถ้าพี่เปิดประตู วิ่งออกไปเลยนะ ไม่ต้องห่วงพี่ น้องก็โอเค เตรียมตัวทุกอย่าง

ฝนบอกพราวว่าวิ่งไปเลย ไม่ต้องห่วงพี่ ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน?
ฝน : ใช่พี่ สภาพที่เจอตอนนั้นเหมือนน้องจะตาย น้องก็โอเค พอเปิดประตู วิ่งขึ้นรถเลย น้องก็วิ่งไปเลย

เหยื่อรายที่สาม?
ฝน : อยู่ในห้องค่ะ ตอนนั้นเขาน่าจะเปลือยอยู่ด้วย

เด่นภูมิทำยังไง?
ฝน : มันตกใจ วิ่งตามเราออกมา

หนูหนียังไง?
จูน : เขาหลับ หนูก็หยิบของออกมา ย่องๆ ออกไปเลย ไม่ทันรู้ตัว แต่หนูไม่อยากได้อะไรแล้ว พอออกมาปุ๊บก็โทรหาฝน

ฝน : เราเป็นเพื่อนกัน เป็นรูมเมตกัน

จูนโทรหาฝน เหตุการณ์เกิดขึ้น 31 ธ.ค. ตอนนั้นฝนยังไม่เกิดเรื่องเลยนะ สุดท้ายมาโดนคนเดียวกัน?
จูน : หนูโทรหาฝน บอกว่าหนูโดนแล้ว

ฝนเห็นหน้าเด่นภูมิ รู้มั้ย?
ฝน : ตอนแรกไม่เห็นหน้า เขาใส่แมสก์ แต่พอเปิดหน้าก็รู้แล้วว่าคนเดียวกัน

ล่าสุดเด่นภูมิถูกจับ มีพฤติกรรมคือขึ้นแท็กซี่แล้วไม่จ่ายเงิน ลงรถปุ๊บมันหนีเลย ตร.แกะรอย ไปถูกจับที่บ้านเพื่อนมันแถวๆ สายไหม ที่สำคัญตอนถูกจับเด่นภูมิบอกว่าผมไม่ผิด มันบอกพริตตี้ใส่ร้ายเอายาไปเองให้มันเสพ?
ฝน : ไม่ต้องดูอะไรเลยนะพี่ วันโดนจับตำรวจต้องอัพเดตทุกอย่างกับเราอยู่แล้ว ในห้องยังมีอุปกรณ์การเสพยาอยู่เลย แล้วจะมาบอกว่าเราเอาไปเองได้ไง งง

ฟังแล้วเดือดมั้ย?
ฝน : เดือดสิพี่ หนูกล้าตรวจเลบ ให้เจาะเลือด ตรวจฉี่ ตรวจอะไรตรวจเลย

ไปดักรอที่ สน.โดนเต็มๆ มั้ย?
ฝน : โดนหน้าเต็มๆ สั่นเลย แค้นจริงๆ อยากทำมากกว่านี้นะ อยากให้มันนอนกองกับพื้น อยากกระทืบมัน ให้มันนอนร้องขอชีวิตหนู เหมือนที่มันทำกับทุกคน จากที่ฟังน้องเล่า น้องโดนเยอะมาก โดนบีบคอ โดนเตะช้อนหน้า

เด่นภูมิไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ปฏิเสธทุกอย่างโดยสิ้นเชิง เขาบอกว่าไม่ผิด น้องพราวบอกว่ายกมือไหว้ท่วมหัว ให้ปล่อยไป สงสารพ่อแม่หนู ถ้าหนูตายไป พ่อแม่จะอยู่ยังไง เด่นภูมิบอกว่ามันใช่พ่อแม่กูมั้ย คนแบบนี้เกิดจากพฤติกรรมที่โตมาจากการขาดความอบอุ่น หรือเป็นพฤติกรรมที่เป็นมาแต่กำเนิดและไม่เคยมีความสำนึก ตกลงมันยังไง เป็นไซโคพาธหรือเปล่า?
นพ.สุริยเดว : ไซโคพาธเป็นคำเรียกแบบสภาวการณ์ แต่จริงๆ ทางการแพทย์ ใช้คำว่า ASPD (Antisocial Personality Disorder) พูดง่ายๆ บุคลิกต่อต้านสังคม พวกนี้ส่วนใหญ่มีดีกรีของมันด้วย ระดับความรุนแรง เวลาเกิดระดับความรุนแรงที่สุดโต่ง คือผิดทั้งกฎหมาย ผิดทั้งศีลธรรม ผิดทั้งมนุษยธรรม มันมีหมดครบเลย ฉะนั้นกลุ่มในอาการ ASPD แรงๆ ส่วนใหญ่จะไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อน หรือเห็นใจผู้อื่น

พวกนี้เป็นมาตั้งแต่เกิดมั้ย หรือถูกปลูกฝังแบบนี้?
นพ.สุริยเดว : มันมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยว สมองส่วนที่เกิดมา จะมีส่วนบกพร่องตรงสมองส่วนอารมณ์ ถ้าพูดถึงปัจจัยทางแง่ของทางสมอง อาจมียีนส์พันธุกรรมขณะเดียวกันเอง สมองมีรอยด่างพร้อย ทำให้โอกาสเกิดการพัฒนามันยาก เวลาเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี ส่วนใหญ่พวกนี้จะถูกวินิจฉัยให้เป็นในลักษณะพฤติกรรมก้าวร้าว มีการใช้ความรุนแรง ถ้าเป็นเด็กก็หนีเรียน ไม่เข้าเรียน ทะเลาะ ทุกอย่าง แม้กระทั่งขโมยเงิน ทำร้ายผู้อื่น รับกับกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ ไม่ได้ ในที่สุดต้องออกจากการเรียน

แต่พูดตรงๆ ไม่ได้โง่นะ เป็นจุดนึงที่สังเกตเห็นได้เลย แต่เนื่องจากเขามีพฤติกรรมเกเร ก้าวร้าวมาตั้งแต่เล็กๆ เลย ไม่ใช่คนโง่ แต่เรียนกับระบบไม่ได้ ก็ไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้ หัวใจหลักๆ ไปที่การใช้เงิน เซ็กซ์

กรณีเด่นภูมิ พ่อเลี้ยงบอกว่าเลี้ยงอย่างดี แต่สุดท้ายทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของเขา เลิกเป็นพ่อบุญธรรมตอนปี 45 แต่ก็มีการส่งเสียให้เงินเดือนละ 2 หมื่นจนปัจจุบัน แม้แต่ลูกตัวเด่นภูมิเองก็บอกไม่เอาพ่อคนนี้เหมือนกัน เพราะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เหมือนไม่ใช่คน ลูกเขาพูดแบบนี้เลยนะ มองยังไง?
นพ.สุริยเดว : จริงๆ ถ้าพูดในยีนส์ พันธุกรรมแล้ว ไม่ได้หมายถึง ASPD ทุกคนจะมาเรื่องยีนส์ พันธุกรรมอย่างเดียว มันจะมีสารเคมีหลั่งออกมาในสมองทำให้ผิดปกติได้ ทำให้เกิดภาวะก้าวร้าว ปรากฏมาตั้งแต่เล็ก แล้วมาประจวบเหมาะ มันมีสองสามปัจจัย

หนี่งสมองส่วนอารมณ์ที่มีจุดอ่อน มันด่างพร้อยมาตั้งแต่กำเนิด บวกกับถูกทอดทิ้ง โดยเฉพาะเด็กขวบปีแรก ไม่ได้รับความอบอุ่นความรัก ก็เป็นจุดที่สอง พอโตมาต่อเนื่องก็เริ่มปรากฏอาการก้าวร้าว ทะเลาะเบาะแว้ง และไม่ได้รับการเยียวยา บวกกับอีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีความหมายมาก ถ้าย้อนไปดูประวัติแต่ละราย บางรายมีครอบครัวที่มีประวัติใช้ความรุนแรง อยู่ในสภาพแวดล้อมทะเลาะเบาะแว้งก้าวร้าว โอกาสก็จะอุบัติเร็วขึ้น

เด่นภูมิที่บ้านก็เลี้ยงมาอย่างดี พ่อบุญธรรมก็ดูแลมาอย่างดี มองน่าจะเป็นยีนส์ของเขาหรือเปล่า?
นพ.สุริยเดว : คงมีส่วนอยู่แล้วล่ะถ้าดูในลักษณะนี้ ยีนส์พันธุกรรมเองก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้สมองอารมณ์เป็นจุดเด่นขึ้นมา สมองอารมณ์เป็นจุดเด่นได้ มีจากสารเคมีที่เลือกเกิดไม่ได้ แนวโน้มเกิดขึ้นได้ ถ้าในครอบครัวมีประวัติ เช่น พ่อก็กระทำคนอื่น โอกาสที่ลูกออกมามีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น

ในกรณีเด่นภูมิ เข้าคุกไปออกมาทำอีก แบบนี้ คนประเภทนี้ต้องกำจัดออกจากสังคมมั้ย?
นพ.สุริยเดว : เข้าใจว่าคงเป็นเรื่องของกฎหมาย แต่หมอคงไปฟันธงลักษณะนั้นไม่ได้ แต่พูดได้อย่างว่า ASPD ยากต่อการเยียวยา ในการแพทย์เราพูดเองว่าแม้กระทั่งตอนอายุน้อยกว่า 18 ปี เวลาเราวินิจฉัย ASPD ต้องอายุเกิน 18 ปี และมีประวัติเป็นคอนดักซ์มาก่อนหน้านี้ แม้แต่ตัวคอนดักซ์เอง ในกลุ่มจิตเวชหรือจิตแพทย์เองก็เหนื่อยนะ เพราะรักษายากมาก

เด่นภูมิสนุกกับการก่อเหตุ?
นพ.สุริยเดว : ใช่ครับ ผมใช้คำว่า ณ ขณะนี้ มันไปถึงจุดที่สมองส่วนเบรกเกอร์พังไปหมดแล้ว โอกาสทำให้มีจิตสำนึก รับผิดชอบชั่วดี หรือเห็นอกเห็นใจกับมนุษยธรรมแทบไม่มี

คนมีอาการแบบนี้ ไม่มีทางกลับมาเป็นคนใหม่ได้เหรอ?
นพ.สุริยเดว : ยากที่จะกลับมาเยียวยา

ถ้านักวิชาการบอกว่าอย่าไปทำอะไรเขาเลย เอากระดาษทรายมาขัดเขา ให้ความรู้เป็นไปได้มั้ย?
นพ.สุริยเดว : กรณีนี้ยาก และต้องบอกว่าความน่ากลัวอย่างหนึ่งคือไอคิวไม่ได้เสียไปด้วย พูดง่ายๆ เอาความฉลาดนั้นไปใช้ในทางที่ผิด ในกลุ่ม ASPD แบบสุดโต่ง มันจะมีอีกอันนึงคือไม่กินเส้น หรือมีเซนส์เรื่องกฎหมาย พูดง่ายๆ ว่าไม่แคร์กฎหมาย ผิดแล้วไง โดนทำโทษกลับมาอีก แล้วยังไง พวกนี้ไม่สามารถดึงจิตสำนึกพวกนี้ออกมาได้

สังเกตได้เลยว่ามีความเฉลียวฉลาดในการวางแผนการหว่านเสน่ห์ ทางการแพทย์ใช้คำว่าโกหกได้ สร้างเรื่องได้ เนื่องจากฮอร์โมนที่เกิดจากความผิดปกติ รวมไปถึงยีนส์ ขออนุญาตไม่ก้าวล่วงไม่ได้รู้รายละเอียดทั้งหมด แต่พูดง่ายๆ สนใจอยู่อย่างเดียว เงิน อำนาจ และเซ็กซ์

ถ้าบางคนฆ่าก็ฆ่าไปเรื่อยๆ สนุกกับการฆ่า คนข่มขืนก็ข่มขืนต่อไปเรื่อยๆ เป็นสมองที่สั่งแบบนั้นเองคนแบบนี้ยากต่อการขัดเกลา ต้องกำจัด?
นพ. สุริยเดว : (หัวเราะ) อันนี้ไม่ทราบ อันนั้นตอบยาก

ตอนนี้กลัวอะไรบ้าง?
ฝน : กลัวเรื่อง HIV เพราะทุกคนที่เขากระทำ เขาไม่ได้ป้องกัน

ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย เลยกังวลใจเรื่องนี้?
ฝน : ใช่ค่ะ มากถึงขนาดโทรไปร้องไห้กับหมอ และจิตแพทย์

เลิกมั้ยอาชีพนี้?
ฝน : มันยังต้องทำ แต่ก็ระวังตัว เพราะเรามีภาระ มีครอบครัวต้องดูแล

พราว : หนูเลิก ไม่เอาแล้ว

ฝน : คงต้องทำอยู่บ้าง

จูน : ก็ต้องทำค่ะ มันเลี่ยงไม่ได้ แต่เราเลือกเซฟระวังตัวเองให้มากขึ้น

อาจารย์ชมว่าไหวพริบเป็นยังไง?
นพ.สุริยเดว : จุดอ่อนคนกลุ่มนี้คือเขาหลงตัวเอง เป็นกลุ่มอาการอย่างหนึ่ง พอใช้จุดอ่อนตรงนั้นก็เป็นที่น่าชื่นชม ที่เขาเอาตัวเองรอดออกมาได้ เป็นกำลังใจเช่นเดียวกัน

คิดว่าเด่นภูมิต้องทำยังไง?
นพ.สุริยเดว : ประเด็นแรกว่ากันไปตามข้อกฎหมาย แต่ในทางการแพทย์ ผมพูดได้คำเดียวว่ายากต่อการเยียวยา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image