ปธ.ก.อ.ขีดเส้นสอบ’เนตร นาคสุข’สั่งไม่ฟ้อง บอส อยู่วิทยา ให้เสร็จก.ค.

พชร ยุติธรรมดำรง ปธ.กอ.ขีดเส้นเร่งผลสอบ เนตร นาคสุข เสร็จก.ค.นี้ชี้เป็นอัยการอาวุโสอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ต้องมาให้ถ้อยคำ ไม่เช่นนั้นเสี่ยงโดนขาดราชการ15วัน

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.)เป็นประธานการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 6/2564 โดยมีวาระน่าสนใจเกี่ยวกับเสนอชื่อ อัยการสูงสุดคนใหม่ เเละการพิจารณากรณีอัยการเป็นความเเล้วยังมีความคืบหน้ากรณีที่ก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ในคดีขับรถชนคนตาย ภายหลังมีการเปลี่ยนคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมาแล้ว 3 ชุด

โดยภายหลังประชุมเสร็จประมาณ 14.00 น.เศษ นายพชร กล่าวว่า คดีนายวรยุทธ หลังจากที่นายเนตร มีคำสั่งไม่ฟ้องในภายหลังก็มีคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาใหม่กลับความเห็นเป็นสั่งฟ้องคดีเช่นเดิม และยังมีข้อหาเกี่ยวกัยสารเสพติดในร่างกาย ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนเรื่องนายเนตรมีคำสั่งไม่ฟ้องนั้นตนได้กำชับให้กรรมการสอบสวนเร่งดำเนินการรีบสอบสวนโดยเร็ว ส่วนที่อ้างว่ามีอัยการชื่อย่อ ช.ช้างเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในการเปลี่ยนเเปลงความเร็ว หากสามารถสอบสวนได้เสร็จก่อนก็จะต้องแยกออกมาดำเนินคดี กับกรณีของนายเนตร
ซึ่งในรายงานของ นายวิชา มหาคุณ ปธ.คณะทำงานที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงก็มีการกล่าวถึงอัยการ ช.ช้างไว้ เเม้ตนจะยังไม่เห็น รายงานของ นายวิชา แต่ได้กำชับไว้แล้วในที่ประชุม กอ. ว่าต้องไปสืบมาให้ได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นอัยการใช่หรือไม่และมีพฤติการณ์เป็นอย่างไร ต้องดำเนินการตามกฎหมายไม่มีละเว้น

เมื่อถามว่า การโปรดเกล้าฯแต่งตั้งอัยการ ที่มีการประกาศราชกิจจาฯไม่มีชื่อนายเนตร และนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการคดีอาญาธนบุรีนั้น นายพชร กล่าวว่า วันนี้มีการพิจารณาในส่วนของนายปรเมศวร์ที่ศาลมีคำพิพากษาคดีเมาสุราขับรถชน เราก็ต้องมาพิจารณาโดยละเอียดว่าการต้องคดีดังกล่าว นั้นนำไปเทียบเคียงกับกฎหมายอื่น และจะเป็นเรื่องที่ผิดวินัยหรือไม่ เรื่องนี้จึงได้ให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดไปตรวจสอบให้ชัดเจนว่ากรณีการทำความผิดในลักษณะนี้ เป็นความผิดทางวินัยหรือไม่และจะต้องเสนอทูลเกล้าฯอย่างไร ก็ให้รีบไปตรวจสอบและนำกลับมาพิจารณาในเดือนหน้า

Advertisement

เมื่อถามว่าเรื่องการดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส ของนายเนตร ยังต้องดำรงอยู่หรือไม่เพราะไม่มีการโปรดเกล้าฯลงมา นายพชรตอบว่าตอนนี้นายเนตรยังเป็นข้าราชการอัยการอยู่ แต่ตนเห็นว่านายเนตรคงจะไม่ได้สั่งคดีอะไรอีก ส่วนเรื่องพักราชการตอนนี้ยังพักไม่ได้เพราะยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนวินัยเพราะตนไปดูระเบียบมาแล้วว่าการพักราชการจะต้องโดนวินัยร้ายแรง หรือถูกฟ้องคดีอาญา เมื่อ2ข้อนี้ยังไม่ได้ เราก็ยังไม่สามารถสั่งพักราชการได้

ส่วนเรื่องที่ผ่านมาหากนายเนตรไม่ยอมให้ความร่วมมือมาให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการสอบฯ นั้นเป็นเรื่องของทางคณะกรรมการฯต้องเร่งรัดสอบสวน แต่ความจริงแล้วนายเนตรต้องมา ให้ถ้อยคำเพราะยังอยู่ในราชการอยู่ ถ้าไม่มาก็อาจจะถือว่าเป็นการขาดราชการเกิน 15 วัน จะต้องมีเรื่องว่ากันไปอีกเรื่อง เพราะตอนนี้นายเนตรต้องปฎิบัติราชการอยู่ แต่ไม่มาให้ถ้อยคำจะถือไม่มาปฏิบัติราชการใช่หรือไม่ ตรงนี้มีระเบียบรองรับอยู่แล้ว การดำรงตำแหน่งของอัยการอาวุโสจะมีความสมบูรณ์ได้คือ มีตำแหน่งของ ก.อ.รองรับไว้ ถ้ามีต้องให้นายเนตรปฎิบัติหน้าที่และรอโปรดเกล้าฯ แต่เมื่อมีเรื่องว่าหากการเสนอโปรดเกล้าไม่เป็นการมิบังควรที่จะเสนอไปก็ถอดชื่อนายเนตรออกจากการเสนอชื่อโปรดเกล้าฯ ในวันนี้คณะกรรมการควรจะรีบสอบสวนเรื่องการสั่งคดีของนายเนตรให้เสร็จโดยเร็ว เพราะเรื่องไม่ได้สลับซับซ้อนได้กำชับไว้แล้ว

“ขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในราชการอยู่ เพราะแต่ระหว่างนี้คิดว่าต้องชะลอการปฎิบัติหน้าที่ และเป็นเรื่องของสำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการ การชะลอก็คือ การที่ไม่อาจให้สั่งคดีได้ ภายในเดือนกรกฎาคมน่าจะต้องได้ข้อยุติในการสอบ”ประธานก.อ.กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image