‘ทนายตั้ม’ รับฟาด ‘พุทธ’ แต่ไร้ปัญหา ‘สรยุทธ-ปรเมศวร์’ – ‘สิระ’ น้อมรับถูกนายกฯตำหนิ

‘ทนายตั้ม’ รับฟาด ‘พุทธ’ แต่ไร้ปัญหา ‘สรยุทธ-ปรเมศวร์’ ลั่นดุดันแค่สไตล์ ‘สิระ’ น้อมรับถูกนายกฯตำหนิ มองเป็นความเมตตา

กรณีที่ “นายสิระ เจนจาคะ” ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ และประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน นำ “นายไชย์พล วิภา” หรือ “ลุงพล” ผู้ต้องหาคดี “น้องชมพู่” ที่อยู่ระหว่างประกันตัวชั้นศาล พร้อมทนายความมาแถลงข่าวที่รัฐสภา จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม อีกทั้งยังถูก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาตำหนิ

รายการโหนกระแสวันที่ 10 มิ.ย. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์  “ส.ส.สิระ เจนจาคะ” และ “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ทนายความฝั่งลุงพล ถึงเรื่องดังกล่าว

ตอนนี้คุณเป็นอะไร ทำไมดุดันขนาดนี้?

ทนายตั้ม : ปกติก็ไม่ใช่สไตล์นี้ เวลามีอะไรที่ผมเห็นว่าไม่ถูกต้อง ผมก็ออกมาตอบโต้ ตั้งแต่ทำงานมาทุกอัน รับงานอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นคดีหวยหรืออะไร ถ้ามีอะไรผมก็ต้องปกป้องลูกความและชี้แจงข้อเท็จจริงในมุมที่ผมรับรู้มา

Advertisement

 

อ.ปรเมศวร์บอกว่าทนายความที่ดี ไม่จำเป็นต้องไปพูดอะไรมากมาย อยู่นิ่งๆ และทำคดีไป ทำไมทนายตั้มทุกวันนี้ต้องออกมาร้องแร่แห่กระเฌอเพื่ออะไร?

ทนายตั้ม : มันเป็นสไตล์ครับ สมัยก่อนที่ผมทำคดี ผมไปร้องแร่แห่กระเฌอประชาชนชอบ ไม่เห็นจะมาว่าอะไรผมเลย ก็บอกว่าเป็นสิ่งที่ทนายควรต้องทำ แต่พอวันนี้ผมอยู่ฝั่งลุงพล ซึ่งประชาชนส่วนมากไม่ชอบลุงพล เลยไม่เห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่ผมทำไปด้วย ส่วน อ.ปรเมศวร์ ที่สื่อเอาไปลง ถ้าใครดูคลิป ผมให้ความเคารพ อ.ปรเมศวร์มาโดยตลอด แต่เขาตัดบางช่วงบางตอนไป เหมือนผมท้าทาย แต่จริงๆ ผมให้ความเคารพ อ.ปรเมศวร์ แล้วหลังจากที่เกิดข่าวขึ้นมา ผมก็ได้คุยกับปรเมศวร์นะครับ ถามว่าอาจารย์ได้ดูคลิปเต็มหรือยังครับ อาจารย์บอกว่าไม่รู้ นักข่าวมาถาม

Advertisement

 

คลิปเต็มด่ามากกว่านั้นหรือไง?

ทนายตั้ม : ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้ด่า อ.ปรเมศวร์เลย ผมบอกว่าอาจารย์เป็นคนที่ผมเคารพ และเชื่อในการทำงาน เอฟซีผมที่พูดเรื่องอื่น ที่อาจารย์ผิดพลาดไป ผมยังลบคอมเมนต์เพราะไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

 

อันนี้คุยกันเรียบร้อย กำลังจะบอกว่าสื่อตัดแค่ส่วนเดียวออกไป แล้วทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น อันนี้ไม่มีอะไรกัน?

ทนายตั้ม : ถูกต้องครับ

 

แล้วเห็นด้วยกับ อ.ปรเมศวร์มั้ย ที่แกบอกว่าทนายตั้มไม่จำเป็นต้องออกมาพูดอะไรเลย?

ทนายตั้ม : มันเป็นสไตล์ครับ

 

สไตล์หรือกับดัก ตร. หลายคนพูดแบบนั้น?

ทนายตั้ม : อ้าว ผมก็ต้องทำให้ครบทุกมิติสิครับ ใครจะมองว่าเป็นกับดักหรืออะไร แต่ผมต้องทำความจริงให้ปรากฏ

บางคนมองว่าเป็นกับดักที่ทนายตั้มวางเอาไว้ พยายามพูดว่ามีหลักฐานอะไร ดีเอ็นเอก็ไม่มี พยายามปั่นตำรวจเพื่อให้ตำรวจหลุดสำนวนในคดีออกมา?

ทนายตั้ม : ไม่จำเป็นครับ สมัยนี้ก่อนสืบพยาน 6-7 เดือน เขาต้องมีการเปิดพยานหลักฐานอยู่แล้ว ผมไม่จำเป็นต้องรู้ตอนนี้ แต่เท่าที่ผมรู้มา ตร.มีอยู่เท่านี้ ตอนแรกบอกว่ามีดีเอ็นเอ พิสูจน์ได้ว่าเกี่ยวข้องกับลุงพล พอผมไปแย้งว่าไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนใครได้ เพราะไม่ได้มีรากผมมา ตร.ก็เปลี่ยนเป็นซินโครตรอน บอกว่าสามารถระบุได้ แต่ตอนนี้ทางอาจารย์หมอหรือใครต่อใครออกมาพูดแล้วว่าเรื่องนี้มันไม่สามารถระบุอัตลักษณ์ คือระบุตัวบุคคลได้ ฉะนั้นที่เอามาพิสูจน์ เส้นผมหรืออะไรก็แล้วแต่ ระบุได้ไงว่าเป็นของป้าแต๋นหรือเป็นของใคร เรื่องนี้ผมอยากให้สื่อไปสัมภาษณ์นักวิทยาศาสตร์ อย่ามาถามผมเลย เดี๋ยวจะหาว่าผมเก่งทุกอย่างอีก ไปถามรองผู้อำนวยการนิติวิทยาศาสตร์ หรือหมอพรทิพย์ เขาให้สัมภาษณ์มาแล้ว แต่ทุกคนไม่ฟังว่าเนื้อหาคืออะไรยังไง

 

ส่วนที่เป็นนักวิทยาศาสตร์เขาบอกมาบอกว่าซินโครตรอนใช้ได้ล้านเปอร์เซ็นต์?

ทนายตั้ม : ใช้ได้ แต่วัตถุประสงค์อะไร เรื่องนี้เราต้องการพิสูจน์อัตลักษณ์คนนะครับว่าคนที่เป็นเจ้าของเส้นผมคือใคร แต่ซินโครตรอนไม่ได้มีเพื่องานนี้ครับ ผมถึงบอกว่าถ้าจะใช้อันนี้ยืนยันว่าตัวลุงพลเป็นผู้กระทำความผิด เป็นที่แรกในประเทศไทย เผลอๆ ที่แรกในโลกด้วย

 

แต่เขาบอกสิงคโปร์หรือประเทศอื่นๆ ก็มีนะ?

ทนายตั้ม : มีครับ แต่มันไม่ใช่อย่างนี้

 

ณ ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้น หลายคนบอกว่าคุณดุดัน สอง คุณสรยุทธ คุณก็ไปก้าวล่วงแกเหมือนกัน?

ทนายตั้ม : ผมก้าวล่วงคุณสรยุทธตรงไหน ผมจะบอกให้ผมชอบการทำงานของคุณสรยุทธมาตลอด เวลาให้ข่าวแกจะเนื้อข่าวจริงๆ ไม่มีอารมณ์ส่วนตัวให้ประชาชนคล้อยตาม แกเอาเนื้อจริงๆ นะครับ ตอนผมพูดในยูทูบช่องผม ไปฟังได้เลย ผมชมคุณสรยุทธต่างหาก แต่นักข่าวก็เหมือนเดิม

 

ชมแบบแซะหรือเปล่า?

ทนายตั้ม : ลองไปดูสิครับ ว่านั่นเป็นการชมแบบแซะหรือเปล่า

 

ไม่มีอะไรกับสรยุทธ?

ทนายตั้ม : แน่นอน ไม่งั้นผมไม่กล้ามาช่อง 3 หรอก ถ้าผมมีปัญหากับคุณสรยุทธ

 

คนต่อไป คุณพุทธ อมรินทร์ คุณก็ไปแซะเหมือนกัน?

ทนายตั้ม : อันนี้ยอมรับ ผมมองว่ามันไม่ถูกต้อง คืออมรินทร์ไปสัมภาษณ์หมอพรทิพย์อย่างนึง แต่ไปขึ้นหัวข้อข่าวอย่างนึง ซึ่งมันไม่ใช่ ทุกคนก็ทราบดีว่าช่องข่าวช่องนี้กับลุงพล เขาเหมือนไม้เบื่อไม้เมา ตอนแรกเขารักเขาชอบ แต่ตอนหลังเหมือนเสนอข่าวในทางที่เป็นผลร้ายกับลุงพลมาโดยตลอด

 

เขานำเสนอสองมุมนะ?

ทนายตั้ม : คนดูเขามองออกครับว่าการนำเสนอหัวข้อข่าวแบบนี้ใครจะโดนด่า และจะโน้มน้าวไปทางไหน

 

คุณติดเรื่องหัวข้อข่าว?

ทนายตั้ม : ทั้งหัวข้อข่าว ทั้งการนำเสนอทุกอย่าง

การพาดหัวข่าว อย่างสิระว่าไง นายกฯ จวกเอาผู้ต้องหามาแถลงข่าวสู้คดีที่สภาซะงั้น มันก็เป็นการพาดหัวข่าว ?

ทนายตั้ม : มันก็ใช่ อย่างนี้คือพาดหัวข่าวแบบนี้เข้าใจ แต่คนส่วนมากเขามองตรงนี้แต่ไม่ได้อ่านเนื้อหา มันก็เกิดความโน้มเอียงได้ทางใดทางหนึ่ง แต่อย่างนี้มันเป็นเรื่องข้อเท็จจริง แต่ที่ผมโพสต์ไปในเฟซบุ๊กเพจของผม มันไม่ตรงกับเนื้อหาข่าว

 

ยืนยันว่าไม่ได้อคติกับคุณพุทธ เพราะเขานำเสนอข่าวตรงไปตรงมาทำให้ลุงพลเสียผลประโยชน์หรือเปล่า?

ทนายตั้ม : ก็ผมบอกว่า ที่ผมโพสต์ไป เพราะไม่ตรงกับเนื้อหาข่าวเลยที่เขาขึ้นหัว เนื้อหามันคนละเรื่องกันเลย ทำไมไม่เอาเนื้อหามาพาดหัวตรงนี้

 

กรรชัยไม่มีอะไรด้วยนะ?

ทนายตั้ม : ก็มีนิดนึงครับ (หัวเราะ)

 

ทำไมจะสร้างบรรทัดฐานประเทศไทยใหม่เหรอ ที่เอาผู้ต้องหาคือลุงพล ซึ่งเป็นลูกความคุณไปร้องกับ กมธ. ถ้าต่อไปคดีฆ่าคนตาย คดีโน้นคดีนี้ ทนายความเอะอะพาไปร้อง กมธ.หมดเลย ร้อง ผบ.หมดเลย ทำไง?

ทนายตั้ม : คือจริงๆ เรื่องนี้ ผมไม่ได้ไปร้องในเนื้อคดีว่าลุงพลไม่ผิด เพราะเรื่องนี้ต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาล ที่ผมไปร้องคือผมไปร้องการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตร.ทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง หน่วยงานไหนตรวจสอบได้ล่ะ ก็สภาผู้แทนฯ เพราะเขามีกรรมาธิการ สามารถรับเรื่องร้องเรียนเรื่องนี้ได้ เพราะเรื่องนี้ถ้าผมไปยื่นให้ ตร.ด้วยกัน มีการตรวจสอบ ผมก็คิดว่ามันคงไม่ได้อะไรหรอก ต้องเป็นหน่วยงานภายนอกที่มีอำนาจในการเรียกคนเกี่ยวข้องมาตรวจสอบได้ ผมว่ามันเป็นบรรทัดฐานในด้านที่ดี วันนี้คนก็รู้แล้วว่าถ้าได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็สามารถร้องท่านสิระได้ หรือกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องได้ ก็เป็นอีกช่องทางนึง

 

ที่ไปร้องเพราะเขาออกหมายจับ แล้วทนายตั้มและลุงพลต้องการไปมอบตัวกับทาง ผบ. ในฐานะที่เป็นหัวหน้าของพนักงานสอบสวน แต่ท่านเองเป็นระดับนโยบาย มันจำเป็นต้องให้ ผบ.เป็นคนรับเหรอ จริงๆ คุณต้องไปกกตูมไม่ได้เหรอ?

ทนายตั้ม :  ก็วันนั้นอยู่กรุงเทพฯ ลุงพลทราบว่าตัวเองโดนหมายจับตอนอยู่ที่กรุงเทพฯ

 

จริงเหรอว่าลุงพลทราบตอนอยู่กรุงเทพฯ ผมยังรู้ตอนลุงพลอยู่ที่โน่นเลย?

ทนายตั้ม : ตอนนั้นยังไม่มีอะไรยืนยันว่าหมายจับออกมาจริงๆ อย่าง ตร.ที่ไปเบิกความในศาล ก็เบิกเลยว่าตั้งแต่วันที่ 1 จนวันที่ 2 ที่หมายออกมา ไม่ได้ไปบอกสื่อมวลชนอะไรเลย เราเป็นชาวบ้านเราจะรู้ได้ไง กระแสข่าวมีหมายจับมีมาทุกวัน แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนแท้จริงกันแน่ เรารู้แท้จริงคือวันที่ ตร.เข้าบ้านเราแหละครับ

 

แต่ ตร.ไม่มองอย่างนั้น?

ทนายตั้ม : อันนั้นสิทธิของเขา

 

ท่านสิระมองยังไง มีสิทธิมั้ย ทางสภานิติบัญญัติมีหน้าที่ออกกฎหมาย แต่เรื่องการตัดสินเป็นเรื่องตุลาการ เรื่องของ ตร.?

สิระ : ใช่ครับ ก่อนหน้านี้ประธานรัฐสภา ท่านชวน หลีกภัย บอกว่ามาร้องที่สภาได้ คือช่องทางขอความเป็นธรรม คณะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีคณะอะไรบ้าง เรื่องนี้ถ้าลุงพลสามารถร้องอย่างน้อยได้ 3 คณะ หนึ่ง คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สอง กรรมาธิการตำรวจ เพราะเกี่ยวข้อง ตร. สาม คณะกรรมาธิการปราบปรามทุจริต นี่คือช่องทางขอความยุติธรรม ตอนนี้เรามีสภาผู้แทนจากประชาชนเลือกมา อยากให้ประชาชน สังคมมาใช้ช่องทางนี้ ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหาย หรือผู้ต้องหา

จริงๆ แล้ว กมธ.กฎหมาย ยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน น่าจะเป็นเรื่องของเหยื่อ แต่อันนี้เป็นผู้ต้องหา แต่ถ้า กมธ.เปิดทางให้ผู้ต้องหาไปร้องได้ ต่อไปผู้ต้องหาทั้งประเทศไม่เข้าไปร้องเหรอ?

สิระ : เขาบอกเขาไม่ได้รับความยุติธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของ ตร. เนื้อหาสาระผมยังไม่ทราบ แต่ที่ผ่านมา มีขนาดผู้ต้องหาในคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนใต้เข้ามา และแถลงข่าวแบบนี้ปกติครับ แต่ไม่เป็นที่สนใจของประชาชน แล้วบอกว่าเจ้าหน้าที่รัฐยัดเยียดข้อหาเขา กลั่นแกล้งเขา ทำให้เขาไม่ได้รับความเป็นธรรม เป็นเรื่องปกติในการทำงานของเรา แต่จะรับไม่รับในการพิจารณาเราเอาหนังสือที่ผู้เสียหายมาร้องไปพิจารณา มติแรก เรื่องนี้อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเรามั้ยตามรัฐธรรมนูญ ถ้าอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ ค่อยกำหนดวันเวลาการประชุม และจะเชิญใครบ้าง หรือถ้าบอกว่าขอทำหนังสือที่ผู้ร้องสงสัยขอความเป็นธรรม ต่อการเชิญหรือทำหนังสือ ทำได้สองกรณี แต่อยู่ที่มติของคณะกรรมการ

 

ถ้าท่านพูดแบบนี้ มันจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่มั้ย ต่อไปเอเยนต์ค้ายาบ้าต่างๆ นานา พอ ตร.ออกหมายจับ เขาต้องการต่อสู้คดีนี้ เขาก็ให้ทนายความไปร้องทางท่านอีก?

สิระ : ปัจจุบันนี้ ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม มีช่องทางหลายช่องทาง อย่างเช่นร้องขอความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวน ร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการ ศาล ศูนย์ดำรงธรรม มีช่องทางไปร้องได้ แต่ถามว่าเจ้าหน้าที่ ตร. ถ้าบอกว่าคนเป็นผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ ตร.ออกหมายจับได้ ถามว่าร้อยเปอร์เซ็นต์มั้ยที่ศาลตัดสินว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งหรือเปล่าที่ทนายตั้มเลือกท่านในการที่จะมาร้อง เพราะรู้ว่าท่านไม้เบื่อไม้เมากับ ตร.อยู่แล้ว คิดว่าท่านน่าจะเล่น ตร.แน่?

สิระ : ถามว่าองค์กรหรือหน่วยงานไหน ต้องมีทั้งคนดีและไม่ดี เป็นเรื่องปกติ คนดีเราก็ส่งเสริม คนไม่ดีเราก็เอาออกจากสังคม

 

ทำไมทนายตั้มเลือกท่านสิระเข้าไปร้อง?

ทนายตั้ม : จริงๆ แล้วท่านสิระให้คนประสานมา ว่าเรื่องนี้จะถูกต้องชอบธรรมหรือเปล่า ผมก็เลยคิดว่าถ้าเรามีช่องทางในการตรวจสอบตรงนี้อีกทาง ผมเลยโทรไปหาท่านสิระด้วยตัวเองว่าเราสามารถร้องเรียนไปที่ท่านได้มั้ย ท่านก็บอกว่าให้ลองทำหนังสือยื่นมา เดี๋ยวให้กรรมาธิการพิจารณา มันก็เป็นช่องทางนึงที่ผมคิดว่าน่าจะใช้ตรวจสอบ ตร.ได้อีกช่องทางนึง

 

หลังทนายตั้มพาลุงพลไปร้องท่านสิระที่สภา ปรากฏว่าท่านนายกฯ ไม่สบายใจ ท่านพูดว่าเอาผู้ต้องหามาแถลงที่สภา เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยไม่รู้ มองว่าถูกตำหนิมั้ย?

สิระ : ตำหนิครับ ระดับท่านนายกฯ ได้ตำหนิ มุมมองของผู้ใหญ่ เราก็ต้องน้อมรับคำตำหนิของท่าน เราคิดว่าท่านดูแล้วไม่สบายใจ ท่านได้ตำหนิเราก็เมตตาเรา เราอาจไปปรับวิธีการในการรับหนังสือ หรือคนมายื่นให้เขามองแล้วชัดเจนกว่านี้

 

ล่าสุดทางท่านบิ๊กป้อม ประวิตร เรียกคุย จ่อคาดโทษ?

สิระ : ในระบบพรรคการเมือง ท่านเป็นหัวหน้าพรรค และผมเป็นสมาชิกพรรค เราก็มีระเบียบ วินัย ถ้าท่านเรียกผมเข้าไป ท่านพิจารณายังไงก็น้อมรับ

จะไปต่อมั้ย?

สิระ : วันเสาร์ที่เราขอมติกรรมาธิการ ไปพบแม่น้องชมพู่ พบ ตร.ที่มุกดาหารครับ ทำไมลุงพลเลือกมายื่นเรื่องกับผม เราก็สัญญากันกับลุงพลและแม่น้องชมพู่ว่า หากทุกคนไม่ได้รับความเป็นธรรม เราพร้อมเข้ามาให้ความเป็นธรรม

 

ล่าสุดคุณอัจฉริยะฝากมาบอกท่านสิระว่า ท่านไม่ต้องไปหรอก ไม่ใช่เรื่องการเมือง?

สิระ : มันไม่เกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น หนึ่งไม่มีการหาเสียง หรือได้ผลประโยชน์ทางการเมือง เราทำให้ประชาชนรู้ว่าเราไม่ได้เชื่อข้างใดข้างหนึ่ง และเราต้องไปฟังอีกด้าน การทำหน้าที่ของ ตร.ด้วย ถ้าเราได้ข้อมูลครบถ้วน เราก็นำเข้าสู่กรรมาธิการ เราได้ประสานแม่น้องชมพู่ เขาบอกว่ายินดี ถ้ามีอะไรจะบอกก็ให้บอกในวันที่เราไปพบครับ

 

เรื่องคาดผ้า เขาลือกันว่าทำแบบนี้ดูไม่เป็นกลาง ไปรับของรับอะไร มองยังไง?

สิระ : ครั้งแรกที่ไปบ้านกกกอกก็ทำแบบนี้นะครับ ลุงพลและแม่น้องชมพู่ก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ผมไปที่กกกอก ทำแบบนี้ก็ได้

 

ล่าสุดคุณอัจฉริยะออกมาแถลงเปิดตัวทนายความต่อสู้ให้กับทางแม่น้องชมพู่ หวั่นมั้ย?

ทนายตั้ม : ไม่ได้มีความหวั่นวิตกอะไรเลย ทีนี้ผมฟ้องอัจฉริยะหลายเรื่อง ที่ผ่านมาเกือบทุกศาลเขาจะอ้างว่าไม่มีทนายความ วันนี้ศาลทั่วประเทศคงได้เห็นแล้วว่าในคดีของคนอื่น อัจฉริยะสามารถหาทนายความได้ถึงสี่คน ฉะนั้นถ้าคดีตัวเองก็คงขอเหตุอ้างเพื่อเลื่อนศาลตัวเองไม่มีทนายความไม่ได้อีกแล้ว

 

จะบอกว่าคดีที่สู้ๆ กันอยู่ คุณอัจฉริยะขอเลื่อนเพราะอ้างว่าไม่มีทนายความ?

ทนายตั้ม : ใช่ครับ แต่คดีคนอื่นหาได้ ทำไมคดีตัวเองไม่มีทนายความไปสู้ในศาล ก็ฝากไป ฝากให้กระบวนการยุติธรรมดูเรื่องนี้ จะได้เห็นว่าจริงๆ แล้วคดีคนอื่นเขามีทนายความ แต่เรื่องตัวเองหาทนายไม่ได้

 

คนวิจารณ์ทนายตั้มกันเยอะมาก เรื่องการวางตัว ออกมาฟาดฟัน ปกป้องลูกความ เมื่อวานไปสัมภาษณ์ ทนายตั้มไปกระชากไมค์ออกสื่อ คนก็งงว่าทำไมกระชากไมค์?

ทนายตั้ม : จริงๆ ไม่ได้กระชากไมค์ ผมเอาไมค์ออกมา วันที่เราไปยื่นสภา เราจะมาโฟกัสเรื่องร้องเรียน ตร. ทีนี้พอตรงนั้นใกล้จบแล้ว ก็มีนักข่าวไปถามเรื่องความรู้สึกส่วนตัว ซึ่งศาลวางข้อกำหนดไว้ว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับพยานฝ่ายตรงข้าม แล้วนักข่าวเขาถามไม่หยุด ไม่เว้นวรรคเลย แล้วลูกความผมก็พูดตลอดเหมือนกัน

 

กลัวว่าจะหลุดอะไรที่เกี่ยวกับรูปคดี?

ทนายตั้ม : ใช่ครับ และจะผิดข้อกำหนดที่ศาลวางไว้ ผมในฐานะเป็นทนายความของลุงพล ผมก็ต้องเซฟไว้ก่อน เอาไมค์มาและขอให้นักข่าวถามในเรื่องที่เรามาในวันนี้ เป็นการให้เกียรติท่านสิระ หรือ ส.ส.ท่านอื่นที่ยืนอยู่ด้วย เพราะไปถามเรื่องอื่นที่ไม่ได้เกี่ยว แล้วเขายืนอยู่ เขามารับเรื่องรับเอกสาร

 

คุณสิระ มีคนตั้งคำถามว่าเหมือนเป็นกันเองไปมั้ยกับคนที่มาร้อง?

สิระ : มันก็ปกติ ประชาชนคือคนไทย เราเป็นผู้แทนราษฎร ในพื้นที่เรายิ่งกว่านี้อีก

แล้วที่ไปชมป้าแต๋น เมียลุงพลว่าเหมือนนางงามจักรวาล?

สิระ : ก็เห็นในคอมเมนต์ เขาเอารูปป้าแต๋นกับนางงามจักรวาลมาเทียบกัน น่าจะเป็นพี่น้องกัน หน้าเหมือนกัน ไม่ได้มีอะไร

 

ไม่ได้ดูลำเอียง?

สิระ : ผมเจอป้าแต๋นครั้งที่สาม ทนายตั้มเพิ่งเจอตัวจริงเมื่อวานนี้

 

มีข่าวว่าไปทานข้าวกัน จริงมั้ย?

สิระ : ผมไม่ทานข้าวนอกบ้าน

 

แล้วมีภาพอันนึง?

สิระ : มีสิระมั้ย เฟซใคร เฟซคนหนีคดี มีคดีติดตัวแล้วหนีไปต่างประเทศ ปกติเฟซเขาจาบจ้วงสถาบัน

 

ทนายตั้ม : เรื่องนี้หลังจากที่ผมเห็นปวินมีการแชร์ ลองดูสิในภาพไม่มีภาพท่านสิระอยู่เลยแล้วเอามาโยงว่ามีคุณสิระอยู่ด้วย คนเป็นเอฟซีก็เชื่อไปแล้วว่าสิ่งที่ปวินโพสต์เป็นความจริง ผมก็ถามป้าแต๋น ไลน์ไปถามเมื่อวานเขาบอกว่าเป็นภาพเก่า นานแล้วไปกับทนายสมเกียรติ ทีมมาทีหลังน่าจะ เม.ย. คนนี้มากินข้าวกับเอฟซีอีกทีค่ะ มากับคนเสื้อแดง เป็นคนของสำนักงานทนาความธรรมรังสี กินเลี้ยงที่อื่นและมาเจอกัน เป็นภาพที่ไม่มีท่านสิระอยู่ ร้านครกไม้ ไม่ได้ถามว่าจังหวัดไหน (เปิดภาพให้ดู) จะได้จบประเด็นตรงนี้ คนเอาภาพนึงมาใส่คำบรรยายก็พร้อมเชื่อแล้ว อีกภาพมีภาพทนายสมเกียรติชัดๆ

 

สิระ : อยากให้ตั้งสติครับ เสพสื่อ

 

เป็นภาพเก่า แต่ว่าไปลุงพลก็โชคดีได้กินข้าวกับ ส.ส. ผมยังไม่ได้กินเลย?

ทนายตั้ม : ไม่มี ส.ส. คุณสิระไม่มีอยู่ในภาพ

 

ทนายหลายคนเขาบอกว่าเขามั่นใจว่าลุงพลเป็นผู้กระทำจริงๆ เรื่องน้องชมพู่ ทนายมองยังไง?

ทนายตั้ม : ก่อนทำคดี ผมตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ทำให้ผมมั่นใจว่าลุงพลไม่น่าใช่ผู้กระทำความผิด ผมบอกอีกครั้ง เรื่องนี้ผมไม่ได้เงิน ฟรี ตรวจสอบได้ แม้แต่การเดินทางผมก็ไม่คิดตังค์ ค่าพักก็ไม่คิดตังค์

 

แล้วทำเพื่ออะไร?

ทนายตั้ม : ผมเห็นว่าลุงพลไม่ได้ทำความผิดไงครับ ผมไม่ได้อะไรแล้วผมออกมา คนด่ากันทั้งประเทศ เพราะคนไม่ชอบลุงพล ผมทำออกมาแล้วจะได้อะไรล่ะครับ

 

ทำไมมักมีปัญหากับ ผบ.บ่อยๆ เกิดอะไรขึ้น?

ทนายตั้ม : ใครอยากมีปัญหากับ ผบ.ครับ

 

ก็คุณไง?

ทนายตั้ม : คราวที่แล้วผมมีปัญหากับท่านจักรทิพย์ ไปฟ้องแกเรื่องไบโอเมทริกซ์ ตอนนี้เรื่องอยู่ ป.ป.ช. หลังจากนั้นผมโดนหมายจับ 2 หมายจับ โดนทั้งหมด 6 คดี คดียังคากำลังจะขึ้นศาล

 

นี่ท่านใหม่อีกแล้ว?

ทนายตั้ม : ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ว่าที่ผมทำในวันนี้ ผมไม่ได้ทำเพื่อลุงพลแล้ว ผมอยากให้เป็นบรรทัดฐานของสังคมด้วย

 

พอมีเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนกระแสตีกลับ มีแต่คนเซฟ ผบ.ตร.?

ทนายตั้ม : ผมไม่ได้สนใจตรงนี้อยู่แล้ว ผมคาดไว้ก่อนแล้วว่าต้องออกมาเป็นแบบนี้  เข้าใจว่าคนสงสารแม่ชมพู่ คนเทไปทางแม่ชมพู่ เพราะสงสาร ซึ่งต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดอยู่แล้ว มันก็อนุมานได้ว่าผมอยู่กับลุงพลตอนนี้ก็ต้องโดน ผมเตรียมใจไว้ก่อนอยู่แล้ว

 

มีคนบอกทนายตั้มแบ๊กดี?

ทนายตั้ม : เรื่องนี้แบ๊กที่ไหนจะช่วยผมได้ ตอนผมโดนคดีก็ไม่มีแบ๊กที่ไหนช่วยได้ ผมโดนอั๊กๆ อยู่ตลอดเวลา ผมโดนคดีก็ต้องทำใจ ไปสู้ในกระบวนการศาลยุติธรรม เพราะผมเชื่อในศาลยุติธรรม

 

ตกลงยังไง เรื่องนี้จะดำเนินการต่อไปยังไง จะเปิดสำนวนต่างๆ นานามั้ย?

สิระ : ประการแรกผมเป็นผู้แทนราษฎร ประชาชนร้องขอความเป็นธรรมมาที่คณะเรา สอง ผมไม่ได้ทำเพียงลำพัง ทำเป็นคณะกรรมาธิการ มีผู้แทนราษฎร 15 ท่าน ก็ให้เชื่อใจว่าจะให้ความยุติธรรมกับทุกคน ไม่ว่าจะผู้เสียหาย ผู้ต้องหา ข้าราชการผู้ปฏิบัติหน้าที่เราให้ความเป็นธรรมหมด คณะกรรมาธิการผมมีบทบาท มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ใครยื่นเข้ามาคณะกรรมาธิการชุดนี้ ได้การพิจารณาได้รับการแก้ไข

 

ถ้าบิ๊กป้อมบอกว่าเรื่องนี้ปล่อยเถอะ เพราะไม่ใช่เรื่องของเหยื่อ?

สิระ : เราก็จะอธิบายให้ท่านเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ผมกับทนายตั้มไม่รู้จักกันมาก่อน ที่ผ่านมาเราสร้างผลงานพรรคประชารัฐ สภาผู้แทนราษฎร ต้องอธิบายกันว่าเราจะทำให้รัดกุม ระมัดระวังและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

 

ท่านทราบมั้ยประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยแฮปปี้กับท่านที่มาทำแบบนี้?

สิระ : บางครั้งทำอะไรคนชอบไม่ชอบเป็นเรื่องปกติ ไปดูผลงานที่ผ่านมาแล้วกัน ผมคืนป่าไม้ที่ภูเก็ตให้คนทั้งชาติ แต่วิธีการยังไง ผมไม่รู้

 

สุดท้าย รู้สึกยังไง ตอนนี้ประชาชนจากเคยเคารพรักชื่นชอบทนายตั้ม ตอนนี้กลับตาลปัตร คนต่อว่าต่อขานต่างๆ นานา?

ทนายตั้ม : มันก็เป็นปกติครับ เวลาเราทำอะไรถูกใจใครก็เป็นที่ชื่นชอบ เวลาทำอะไรไม่ถูกใจไม่ถูกจริต คนก็ต่อว่าเรา แต่อยากบอกว่าวันนี้ผมเป็นทนายลุงพล ผมทำตามวิชาชีพของผม และผมก็ปกป้องทุกอย่างเกี่ยวกับลุงพล สิ่งที่ผมทำคือวิชาชีพ และผมก็เชื่อมั่นว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์

 

ทนายตั้มจะบอกว่าเป็นหน้าที่ทนายดูแลลูกความ ถ้าผิดก็ให้รับสารภาพ และถอน?

ทนายตั้ม : ถูกต้องครับ

 

คุณกำลังจะบอกว่าอาชีพคุณก็เหมือนหมอ เป็นโจรถูกยิงมาก็ต้องช่วยผ่าตัดให้ เหมือนกัน?

ทนายตั้ม : เหมือนกันครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image