จับตา วันพรุ่งนี้ ‘ตัวแทนวีโว่-ปชช.ผู้ถูกจับกุม’ ยื่นฟ้อง ตร.ใช้กำลังเข้าจับกุมโดยมิชอบ ปมขายกุ้งวันสิ้นปี 63

จับตา วันพรุ่งนี้ ‘ตัวแทนกลุ่มวีโว่-ปชช.ผู้ถูกจับกุม’ ยื่นฟ้อง ตร.ใช้กำลังเข้าจับกุมโดยมิชอบ ปมขายกุ้งวันสิ้นปี 63

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ เวลา10.00 น. ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ตัวแทนกลุ่ม WE Volunteer หรือวีโว่ และประชาชนที่ถูกจับกุม พร้อมกับทนายความจากภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เตรียมยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เหตุเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าจับกุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายจากกรณีวีโว่จัดกิจกรรมขายกุ้งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเลี้ยงกุ้งที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บริเวณท้องสนามหลวงและอนุสรณ์ 14 ตุลา เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563

ทั้งนี้ ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ระบุว่า สามารถแบ่งการเข้าจับกุมออกเป็น 2 ครั้ง คือ 1.การจับกุมครั้งแรกที่บริเวณท้องสนามหลวง ขณะที่สมาชิกวีโว่กำลังจัดเตรียมสถานที่ ซึ่งในเวลานั้นยังไม่ได้มีการขายกุ้งแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาประกาศให้ยกเลิกการขายกุ้ง และเมื่อเริ่มการขาย เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้ยุติการขายกุ้ง และได้เข้าจับกุมสมาชิกวีโว่โดยไม่ได้ให้เวลาผู้จัดกิจกรรมในการขนย้ายอุปกรณ์อย่างเพียงพอ ทั้งยังมีการทำร้ายผู้ที่ถูกจับกุมและยึดรถเครื่องเสียงสำหรับการประชาสัมพันธ์ไปด้วย

2.การจับกุมครั้งที่สองที่บริเวณอนุสรณ์ 14 ตุลา แยกคอกวัว ภายหลังจากการเข้าจับกุมที่บริเวณท้องสนามหลวง กลุ่มวีโว่จึงย้ายมาขายกุ้งที่บริเวณอนุสรณ์ 14 ตุลา ซึ่งเป็นพื้นที่ของเอกชน

Advertisement

ในพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่เปิดและได้จัดให้มีมาตรการคัดกรองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาใช้กำลังสลายการชุมนุมและบุกจับกุมสมาชิกวีโว่ รวมถึงมีการจับกุมประชาชนที่เข้ามาช่วยขายกุ้ง ทำให้สมาชิกที่เหลือต้องย้ายไปขายกุ้งที่บริเวณกองสลากเก่า

จากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้มีผู้ถูกจับกุมไปกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ทั้งหมด 11 ราย และมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐได้ใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้ที่ถูกจับกุมบางส่วน มีการใช้สายเคเบิลรัดข้อมือแทนการใช้กุญแจมือ

นอกจากนี้ การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ดำเนินกิจกรรมถึง 2 ครั้งยังเป็นการสร้างอุปสรรคในการขายกุ้ง ทำให้มีกุ้งเสียหาย ไม่สามารถขายต่อได้ ราวๆ 1,000 กิโลกรัม ทั้งยังมีความเสียหายจากน้ำอัดลมที่ค้างอยู่ ไม่สามารถนำไปขายต่อได้อีก

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

จากความเสียหายที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ตัวแทนกลุ่มวีโว่ และประชาชนที่ถูกจับกุม จึงเข้าเป็นโจทก์ร่วมทั้งหมด 5 คน ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฐานเจ้าหน้าที่กระทำละเมิด สืบเนื่องจากการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่รัฐเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ทั้งที่บริเวณท้องสนามหลวงและบริเวณอนุสรณ์ 14 ตุลานั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่เกินจำเป็น ไม่ได้สัดส่วน และเกินสมควรแก่เหตุ

เนื่องด้วยการจัดกิจกรรมขายกุ้งนั้น จัดในพื้นที่ที่เปิดโล่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก ทั้งยังมีการจัดให้มีการมาตรการคัดกรองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยจัดให้มีทีมแพทย์อาสาประจำในพื้นที่ มีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิ จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาด มีการเว้นระยะห่างและมีการประกาศให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสวมหน้ากากอนามัย

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมขายกุ้งดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ที่สุจริต ทำไปเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเลี้ยงกุ้งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงไม่มีเหตุที่จะเข้าจับกุมผู้ดำเนินกิจกรรมแต่อย่างใด การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐจึงเป็นการกระทำเกินจำเป็น ไม่ได้สัดส่วน เป็นการใช้อำนาจเพื่อริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนเกินสมควร ซ้ำยังเป็นก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกาย อนามัย จิตใจ เสรีภาพ ชื่อเสียงและทรัพย์สินของโจทก์อีกด้วย

นอกจากนี้ การเข้าจับกุมผู้ดำเนินกิจกรรมขายกุ้งดังกล่าว ยังเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยเลือกปฏิบัติ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 25 และ 28 ธันวาคม 2563 บิณฑ์และเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ได้มีการจัดกิจกรรมขายกุ้งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเลี้ยงกุ้งที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยกิจกรรมที่จัดนั้น เป็นไปในลักษณะเดียวกันกับที่ทางวีโว่จัดขึ้น

แต่ข้อแตกต่างคือ กลุ่มวีโว่ถูกจับกุมและถูกดำเนินคดี แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับการจัดกิจกรรมขายกุ้งที่จังหวัดสมุทรปราการเลย ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐจึงเป็นการบังคับใช้กฎหมายโดยเป็นการเลือกปฏิบัติ

เมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จึงยื่นฟ้องคดีแพ่งตามฐานเจ้าหน้าที่กระทำละเมิด เพื่อเรียกค่าเสียหายจากรัฐ ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image