อัยการยื่นฟ้องอดีตปลัด-เลขานายกอบต.เกาะสาหร่าย เก็บค่าธรรมเนียม 1.5 ล้านเข้ากระเป๋าตัวเอง

อัยการปราบทุจริตภาค 9 ยื่นฟ้อง อดีตปลัด-เลขานายก อบต.เกาะสาหร่าย ทุจริต1.5 ล้านเก็บค่าธรรมเนียมเข้ากระเป๋าตัวเอง ”โกศลวัฒน์” รอง อธ.อัยการ เดือดทำลายเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของชาติ

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 64 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง โฆษกและรองอธิบดีอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เปิดเผยถึงคดีที่น่าสนใจโดยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 โดย นายชัยวัฒน์ สุวรรณยอด เจ้าของสำนวน ได้ยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย ซึ่งดำรงตำเเหน่งขณะเกิดเหตุ โดยคดีนี้เดิมมีผู้ร่วมกระทำผิดประกอบด้วย นายด. อดีตนายก อบต., นายธ. ปลัด อบต.เกาะสาหร่ายเเละ นาย น.เลขานายก อบต.เกาะสาหร่าย ในช่วง เดือน ก.พ.57 – ปลายปี พ.ศ.2558

ระหว่างการดำเนินคดี นาย ด.ถึงแก่ความตาย พนักงานอัยการจึงยุติคดี ฟ้องเฉพาะนาย ด.ฟ้องเเละผู้ต้องหาที่เหลือ 2 ราย คือนาย ธ. เเละนาย น.ในความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, 157 และ ม.86 โดยขอให้ศาลสั่งคืนเงินที่ทุจริตดังกล่าวคืนอบต.เกาะสาหร่าย ซึ่งคดีนี้อัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 รับสำนวนจาก ปปช.อัยการสูงสุดมีความเห็นรับดำเนินคดี สั่งฟ้องตามอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เสนอ

โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า คดีนี้เกิดเหตุระหว่างเดือน ก.พ.57 – ปลายปี พ.ศ.2558 นาย ธ.ปลัด อบต.เกาะสาหร่าย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้มอบหมายให้ลูกจ้างองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย กับพวกอีก 3 คน ซึ่งเป็นผู้ช่วยไปเก็บเงินค่าธรรมเนียมขยะจากนักท่องเที่ยวในแต่ละวัน โดยผู้ช่วยจะไปประจำอยู่บนโป๊ะหน้าหาดหลีเป๊ะ คอยเก็บเงินค่าธรรมเนียมขยะจากนักท่องเที่ยวคนละ 20 บาท และมอบตั๋วค่าธรรมเนียมให้กับนักท่องเที่ยวด้วย ตั๋วดังกล่าวมีตราสัญลักษณ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่ายประทับอยู่

ต่อมานาย น.เลขานายก อบต.เกาะสาหร่าย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มอบหมายให้นาย ส. นำเงินที่เก็บได้นั้นมอบให้แก่นาย น.ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ทั้งที่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่ายไม่มีอำนาจเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมขยะดังกล่าวจากนักท่องเที่ยวตามกฎหมาย ซึ่งเงินที่เก็บได้ในแต่ละวันที่ได้มอบให้แก่นาย ธ.ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และบางส่วนถูกนำไปให้นาย น. ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นั้น ไม่ได้มีการนำเงินดังกล่าวส่งคลังขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่ายแต่อย่างใด รวมประมาณ 1,553,220 บาท

Advertisement

จากการกระทำของนาย ธ.ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2  ที่ร่วมกับนาย ด.ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นายก อบต.เกาะสาหร่าย ในขณะนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเงินความเสียหายจำนวน 1,553,220 บาท ทุจริตเป็นของตน เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย และนาย น.ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 เป็นผู้สนับสนุนนาย ด.ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และนาย ธ.  ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ฐานะเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และนาย น.ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เกิดความเสียหายแก่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย

ซึ่งจำเลยมีสิทธิต่อสู้คดีตามกฏหมาย ต่อไป ผลการพิจารณาคดี จะได้แจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147  ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่5-20ปีหรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่1-4เเสนบาท ,ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10ปี หรือปรับตั้งแต่2หมื่น-2เเสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ยิ่งถ้าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐกฎหมายลงโทษหนักมากสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต ตามมาตรา 147 แต่ถ้าเป็นประชาชนหลอกลวงเก็บเงินกันเองจะผิดตาม มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปี หรือปรับไม่เกิน6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ จะเห็นได้ว่าอัตราโทษจำคุกไม่เกิน3ปี ต่ำกว่าความผิดต่อเจ้าพนักงานของรัฐมาก จึงฝากเตือนข้าราชการและหน่วยงานของรัฐทั้งหลาย อย่าทุจริต อย่าทำผิดกฎหมาย อย่าประพฤติมิชอบ ส่วนใหญ่คิดว่าเรื่องนี้เราไม่น่าจะโดนจับ โดนแฉ เมื่อถูกดำเนินคดี อัยการไม่มีสิทธิละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ต้องทำหน้าที่ไปตามกฏหมายเท่านั้น

Advertisement

นายโกศลวัฒน์กล่าวอีกว่า เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล หรือที่เรียกว่า มัลดีฟเมืองไทย สถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนอยากไปถึง รวมทั้งชาวต่างชาติ ที่นิยมมาเที่ยวชมท้องทะเลไทย ที่งดงามไม่แพ้ที่ใดในโลก ตั้งอยู่บนเขตพื้นที่ อบต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชน ในท้องถิ่น ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆมีรายได้ เลี้ยงตัวเองได้ การทุจริตหาประโยชน์จากการท่องเที่ยวอัยการถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงที่ทำลายเศรษฐกิจของประชาชน ของชาติไทย ขัดนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image