อัยการเดือด ละคร ‘ให้รักพิพากษา’ บิดเบือนข้อเท็จจริง ร้องผู้จัดแก้ไขด่วน ชี้ไม่เข้าใจปรึกษาอัยการสูงสุดได้

อ้น สราวุธ รับบทอัยการนรา

อัยการทั่วประเทศฮือไม่พอใจ ละคร ‘ให้รักพิพากษา’ ‘พชร’ ประธาน ก.อ.-‘ประยุทธ์’ รองโฆษก อสส.ประสานเสียง ชี้เนื้อหาบิดเบือน สังคมเข้าใจการทำหน้าที่อัยการผิด เรียกร้องผู้จัดเร่งแก้ไขด่วน ไม่เข้าใจตรงไหนควรติดต่อขอความรู้ได้ที่ อส.

พชร ยุติธรรมดำรง

เมื่อเวลา 20.00 น.เศษ วันที่ 12 สิงหาคม นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการการ (ก.อ.) และอดีตอัยการสูงสุด กล่าวถึงการเสนอละคร ให้รักพิพากษา ซึ่งเป็นละครทางช่อง 3 ว่า ตนได้ทราบถึงว่าเนื้อหาในละครเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับพนักงานอัยการ แต่เป็นการนำเสนอบิดเบือนจากข้อเท็จจริงที่ตนรับไม่ได้ มีการเสนอบทให้พนักงานอัยการไปไล่จีบผู้หญิง พร้อมเสนอให้มาเป็นพนักงานอัยการได้ ซึ่งข้อเท็จจริงทำไม่ได้ตามระเบียบกฎหมาย เนื้อหาในละครเรื่องนี้มีการบิดเบือนมาก หลายอย่าง

นายพชรกล่าวว่า ตอนออกศาลขึ้นบัลลังก์ก็มีผู้พิพากษาขึ้นนั่งบนบัลลังก์ 4 คน ทั้งที่จริงเวลาศาลขึ้นบัลลังก์ขึ้น 3 คน และการสวมเสื้อครุยของผู้พิพากษาก็ไม่รู้ใช้ถูกต้องหรือไม่ ตรงนี้อยากให้ไปดูจะเข้าความผิดตาม พ.ร.บ.ชุดครุยหรือไม่ บอกตรงๆ ว่านำเสนอแบบนี้รับไม่ได้ อยากให้ผู้จัดละครดำเนินการแก้ไขเนื้อหาโดยทันที ถ้าคุณไม่เข้าใจก็ควรมาปรึกษาหน่วยงานสำนักงานอัยการสูงสุด (อส.)

ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า “ให้รัก พิพากษา” ละคร ช่อง 3 เป็นละครที่มีการนำเสนอที่บิดเบือนการทำงานของอัยการที่เสียหายมาก เช่น คดีไม่สำคัญมอบอัยการผู้ช่วยทำ หรือชวนทนายมาเป็นอัยการเพราะกำลังขาดคน หรือการทำงานโดยเลือกเอาเอกสารออกจากสำนวน ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดทำให้สังคมเข้าใจบทบาทอัยการที่ไม่ถูกต้องอย่างรุนแรง กระทบต่อความรู้สึกของอัยการทั่วประเทศ

“สักครู่ผมในนามทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ประสานไปยังคุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ประกาศข่าว ช่อง 3 เพื่อประสานผู้จัดละครให้ทราบข้อเท็จจริงและหาทางแก้ไขโดยด่วนแล้วครับ” นายประยุทธระบุ

Advertisement

นายประยุทธยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า แม้เรื่องดังกล่าวจะเป็นละคร แต่ก็มีการเผยแพร่ไปยังประชาชนทั่วประเทศ อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในหลายประเด็นที่เกี่ยวกับการดำเนินกระบวนการยุติธรรม ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าถ้าหากมีคดีเล็กน้อย จะให้อัยการผู้ช่วยเป็นคนทำทั้งที่ทุกคดีมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ทางอัยการจะพิจารณาตามพยานหลักฐานอย่างรัดกุมที่สุด หรือมีการเสนอเนื้อหาที่ว่าสามารถทาบทามบุคคลมาเป็นพนักงานอัยการได้ ทั้งที่ความจริงการเข้าสู่ตำแหน่งพนักงานอัยการจะต้องสอบเข้ามาเป็นอัยการผู้ช่วย ต้องมีคุณสมบัติตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด และมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องรองรับไว้

ประยุทธ เพชรคุณ

นายประยุทธกล่าวด้วยว่า ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่ผิดอีก เช่น เป็นอัยการแล้วต่อไปจะเลื่อนขั้นเป็นผู้พิพากษา ซึ่งเนื้อหาเป็นการบิดเบือนอย่างมาก จึงอยากสะท้อนไปยังผู้จัดละครให้ดำเนินเนื้อเรื่องด้วยความระมัดระมัดระวังไม่ให้สังคมเข้าใจผิด

“เรื่องนี้อัยการทั่วประเทศไม่พอใจได้สื่อสารมาและแสดงออกลงในสื่อโซเชียลมีเดียในวันนี้จำนวนมาก ขอยกตัวอย่างละครของค่ายนาดาว เรื่องเลือดข้นคนจาง ก่อนจะการนำเสนอออกอากาศก็มีการมาปรึกษาหาความรู้จากทางสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อนำเสนอให้สังคมไม่เข้าใจผิด อยากให้ผู้จัดละครดำเนินการแก้ไข” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดระบุ

Advertisement

นอกจากนี้ นายอดิศร ไชยคุปต์ รองอธิบดีอัยการ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ส่งอีเมล์ไปยังผู้จัดละครเรื่องดังกล่าว ความว่า

เรียนผู้จัดละครเรื่อง “ให้รักพิพากษา” และผู้บริหารช่อง 3 ด้วยบทละครผู้เล่นบทพนักงานอัยการมีการส่อถึงการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการที่ไม่ชอบขัดต่อความเป็นจริง และไม่ตรงต่อหลักการดำเนินคดีของพนักงานอัยการที่ต้องมุ่งค้นหาความจริงให้ปรากฏในศาลเพื่อความยุติธรรม พนักงานอัยการไม่ใช่คู่แพ้ชนะกับผู้ต้องหาและจำเลย และการเข้าสู่ตำแหน่งพนักงานอัยการต้องมีการสอบเข้าโดยมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับการสอบเข้าเป็นผู้พิพากษา อันเป็นบทบัญญัติตามกฎหมาย

บทละครดังกล่าวทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในวิชาชีพพนักงานอัยการก่อให้เกิดความเสียหายต่อพนักงานอัยการและองค์กรอัยการ และทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม เป็นการไม่สร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ต่อสังคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image