กก.สอบสวนจเรตำรวจ เตรียมบินสอบสวน ‘ผู้กำกับโจ้’ และพวก ถึงเรือนจำ
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการสอบสวนของจเรตำรวจแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้งโดย พล.ต.อ สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร ตามคำสั่งที่ ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 408/2564 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ประกอบด้วย 1.พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช รองจเรตำรวจแห่งชาติ ประธานกรรมการ 2.พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจ (สบ 8) 3.พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 4.พล.ต.ต.ภูริวัจย์พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 6 สำนักงานจเรตำรวจ 5.พ.ต.ต.เจนกมล คำนวล รองผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ และ 6.พ.ต.ท.พงษ์ปกรณ์ พิพัฒนสมพร รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เตรียมลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก โดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อประชุมคณะกรรมการสอบสวนวินัย
ร่วมกับคณะกรรมการของตำรวจภาค 6 ที่มี พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 และพนักงานสอบสวนของตำรวจภาค 6 อีก 4 นาย ที่เป็นคณะกรรมการร่วมกัน เพื่อวางแนวทางในการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับโจ้ กับพวกรวม 7 คน ว่าจะดำเนินการอย่างไร
ทั้งนี้ มีรายงานว่า กำหนดการคณะกรรมการจากจเรตำรวจจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจในเวลา 08.00 น. ไปถึงตำรวจภาค 6 จ.พิษณุโลก ในเวลา 09.45 น.และเริ่มประชุมในเวลา 10.00 น.หลังประชุมเสร็จ
จากนั้นเวลา 13.00 น.คณะกรรมการทั้งหมดจะร่วมกันเดินทางไปที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำอดีตผู้กำกับโจ้กับพวกอันเป็นขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยต่อไป ตามเอกสารที่ปรากฏบันทึกข้อความ ประสานการปฏิบัติพร้อมแจ้งกำหนดการเดินทางไปราชการ ลงวันที่ 28 ส.ค.64 จาก พ.ต.อ.เจนกมล คำนวล รองผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจไปถึงผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อให้เตรียมการในเรื่องดังกล่าว และเอกสารหนังสือการขอเข้าสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในเรือนจำ ลงวันที่ 27 ส.ค.2564 ส่ง ถึง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ลงนามโดย พล.ต.ท.สราวุฒิ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ขออนุญาตเข้าสอบสวน พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กับพวกภายในเรือนจำ ในวันที่ 30 ส.ค.2564 เวลา 13.00 น. โดยขอให้ทางเรือนจำเตรียมสถานที่ในการสอบสวนให้ด้วย
สำหรับข้อกล่าวหาทางวินัยร้ายแรงของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กับพวกนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นข้อหาตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้, เหยียดหยาม กดขี่ข่มเหง ทำร้านคประชาชนในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ราขการ, กระทำการอันได้ขื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ซึ่งมีโทษ “ไล่ออกจากราชการ” สถานเดียว
