‘ป่าน ทะลุฟ้า’ แสดงความบริสุทธิ์ใจ รุดมอบตัว ปอท. หลัง ตร.โทรขู่ ‘มีหมายจับ’ แต่ไร้คำตอบ
เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. วันที่ 27 กันยายน 2564 น.ส.กตัญญู หมื่นคำเรือง หรือป่าน สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้า เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อแสดงความบริสุทธ์ใจ และมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดย กลุ่มทะลุฟ้า ระบุว่า มีข่าวจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกหมายจับจาก ปอท. น.ส.กตัญญูและทนายความยังไม่เคยเห็นหมายจริง พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาหาทีมงานกลุ่มทะลุฟ้า พูดถึงเรื่องหมายจับถึง 2 ครั้ง น.ส.กตัญญูจึงตัดสินใจที่จะไปมอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ทั้งนี้ ยังประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้กฎหมายในการคุกคาม ข่มขู่ประชาชน ผู้ที่ไม่ยอมจำนนต่อรัฐบาล
อย่างไรก็ดี เมื่อ น.ส.กตัญญูเดินทางไปยัง ปอท. รอประมาณ 40 นาที เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าถูกออกหมายจับหรือไม่ น.ส.กตัญญูจึงตัดสินใจเดินทางกลับ โดยก่อนกลับได้ขอให้เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้ว่าได้แสดงตัวแล้ว แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่าให้รอผู้การก่อน น.ส.กตัญญูจึงเดินทางกลับโดยไม่ได้ลงบันทึกประจำวัน เนื่องจากกลุ่มทะลุฟ้า มีนัดหมายชุมนุมในวันนี้
ด้าน โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณดังกล่าว ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เปิดเผยว่า น.ส.กตัญญูระบุว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 กลุ่มทะลุฟ้านัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนใช้กำลังสลายการชุมนุมและมีคนชี้เป้าให้เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจับตัว แต่สุดท้ายเธอยังไม่ถูกจับในวันนั้น หลังจากเหตุการณ์นั้นเธอสังเกตว่าเวลาเธอร่วมชุมนุมมักถูกชายฉกรรจ์ผมเกรียนเดินตามจนเธอรู้สึกไม่สบายใจและร้องขอให้ทีมงานหาคนมาคอยอยู่เป็นเพื่อนในพื้นที่การชุมนุม ต่อมา กลางเดือนกันยายน 2564 มีตำรวจนายหนึ่งโทรมาหาทีมงานทะลุฟ้าและถามหาเธอว่า “ไอ้ป่านอยู่ไหน มีหมาย” พร้อมกับแจ้งว่ากตัญญูถูกตำรวจจาก บก.ปอท.ขอศาลออกหมายจับและฝากมาเตือนเธอว่า อย่าออกไปไหน หากมีเวลาก็ให้ไปมอบตัว ทั้งที่กตัญญูยังไม่เคยได้รับหมายเรียกใดๆ จากตำรวจมาก่อน
“เรามาวันนี้ก็อยากมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ถ้ามีหมายคุณก็เอามาจับ แต่ถ้าไม่มีก็เลิกโทรมาหาเรา เลิกข่มขู่คุกคามกันได้แล้ว”
กตัญญูเล่าด้วยว่า ตอนที่ขึ้นไปรายงานตัวเจ้าหน้าที่คนแรกที่รับเรื่องทำเหมือนไม่ทราบเรื่องมาก่อน จากนั้นมีเจ้าหน้าที่อีกหนึ่งคนที่อยู่ในห้องเดียวกันพูดขึ้นว่า “ทะลุฟ้าใช่ไหม ไปฝั่งโน้นเลย” กตัญญูพร้อมทนายความจึงเดินไปพบเจ้าหน้าที่อีกส่วนงานหนึ่งตามที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอก แต่เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องอีกคนก็ไม่ทราบเรื่องและใช้เวลาทำการตรวจสอบอยู่นาน
กระทั่งเวลา 11.00 น. ทนายความและกตัญูญูจึงเดินจากที่นั่งรอไปพบเจ้าหน้าที่อีกครั้ง กตัญญูมีภารกิจอื่นจึงประสงค์จะเดินทางกลับแต่อยากลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนว่าเธอเดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ลงบันทึกประจำวันให้ อ้างว่า “ให้รอผู้การฯก่อน” กตัญญูกับทนายความจึงเดินทางกลับโดยไม่รอลงบันทึกประจำวันเพราะเธอมีภารกิจอื่น
นอกจากนี้ตัวเธอเองก็ไม่ทราบว่า หมายจับที่ตำรวจอ้างถึงนั้นเป็นหมายจับจริงหรือไม่และมาจากเหตุการณ์ใด ที่ผ่านมาเธอไม่ใช่คนที่มีบทบาทเด่นในการเคลื่อนไวของกลุ่มทะลุฟ้า เพียงแค่เคยบรรยายระหว่างไลฟ์การชุมนุมเท่านั้น
“ที่ผ่านมาทะลุฟ้าก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจ และเราไม่เคยหลบหนี เราไปรายงานตัวตาม สน.ต่างๆ ทุกครั้งที่ได้รับหมายเรียก วันนี้เราก็เลยมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ถ้าหากมีหมายเรียกหรือหมายจับเราก็พร้อมไปตามหมาย แต่ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เลิกทำพฤติการณ์ข่มขู่แบบนี้ หากมีเอกสารก็ให้มาให้ถูกต้อง เราพร้อมให้ความร่วมมือ”
