เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ตุลาคมที่ กองบังคับการปราบปราม ( บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พร้อมพล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม.
ร่วมกันเเถลงผลการจับกุมตัว นายประเสริฐ สุขขี หรือ โกลัก อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1303/2559 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันเป็นผู้เเสวงหาผลประโยชน์จากบุคคล หรือเด็ก (บุคคลผู้มีอายุตํ่ากว่า18ปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปเเบบอื่น การบังคับใช้เเรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามด้วยวิธีการฉ้อฉลหลอกลวง หรือใช้อำนาจโดยมิชอบซึ่งเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์” เเละหมายจับศาลอาญาที่ 1659/2563 ในฐานความผิด “ร่วมกันฟอกเงิน” โดยผู้ต้องหาถูกจับกุมได้ที่ บริเวณถนนวังหลัง เเขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ภายหลังจากหลบหนีคดีมาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากวันที่ 7 มิถุนายน 2559 เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และ เจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ผสานกำลังกันภายใต้“ปฏิบัติการสังขร” โดยเป้าหมายคือ นาตารี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ อาบอบนวด หลังจากได้รับการร้องเรียนจากองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ ภายหลังได้รับเบาะแสมาว่า มีการค้ามนุษย์ภายในสถานบริการดังกล่าว เเละมีการเปิดลักลอบให้หญิงต่างด้าวอายุตํ่ากว่า 18 ปี เข้ามาเเอบเเฝงค้าประเวณี
โดยผลการเข้าตรวจสอบในครั้งนั้นพบว่ามีการเเอบเเฝงค้าประเวณีจำนวน 121 คนเป็นคน
ต้างด้าวกว่า 90% ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาร์(ไทยใหญ่)โดยในจำนวนนี้มีหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 8 ราย (ต่างด้าว 7 ราย คนไทย 1 ราย ) หลังจากนั้นตำรวจร่วมกับ ปปง. จึงทำการสืบสวนขยายผลโดยสามารถยึดทรัพย์เกือบ 1,000 ล้านบาท (ยึดทรัพย์ บ้าน ที่ดิน เงินสด)
ซึ่งในส่วนของ นายประเสริฐหรือ โกลัก เจ้าของ สถานบริการอาบอบนวด นาตารี นั้นอยู่ระหว่างการหลบหนีคดี หลายข้อหาเช่น ร่วมกันค้ามนุษย์,ร่วมกันเเสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยการค้าประเวณี, ร่วมกันเป็นผู้ดูเเลสถานค้าประเวณี, ให้สถานที่พักพิงต่างด้าว, ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งได้หลบหนีคดีมากว่า 7 ปีเเล้ว เเละอีก 3 รายที่ยังคงหลบหนีคดีอยู่ประกอบด้วย
1.นายสมหมาย พัดสิง อายุ 49ปี 2.นายธีรเดช สุขขี อายุ 39ปี 3.นางสาวสมใจ หยวกเเตง อายุ 30ปี
จนมาโดนจับกุมตัวเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้สืบทราบว่า โกลัก นั้นได้หลบหนีมาพักอาศัยในพื้นที่บางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่จับกุมตัวโกลักได้ในที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ส่งตัว โกลัก ให้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีต่อไป
