รองผบช.น.เผย คฝ.ตรึงพื้นที่ดินแดงถึงเช้า ไม่พบ ‘ทะลุแก๊ซ’ แกะภาพกล้องวงจรปิด พอทราบตัวมือยิงหมู่เดวิด

รอง ผบช.น.เผยตำรวจ คฝ.ตรึงพื้นที่ดินแดง ไม่พบกลุ่มทะลุแก๊ซ แกะภาพกล้องวงจรปิดพอทราบตัวมือยิงหมู่เดวิด

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยถึงสถานการณ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการชุมนุมในเขตกรุงเทพมหานคร ว่าจากข้อมูลด้านการข่าวทราบว่าวันนี้จะมีการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 เป็นกลุ่มพลเมืองโต้กลับ จะชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลฎีกา เริ่มชุมนุมเวลา 17.00 น. นำโดย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุม จุดประสงค์เพื่อจัดกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง ปล่อยเพื่อนเรา” เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที โดยให้ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวโดยกลุ่มนี้ จะไม่เคลื่อนที่ไปจุดอื่น ส่วนจุดกระทบการจราจรบริเวณแยกใต้ด่วนดินแดง ขอให้วางแผนเดินทางบริเวณดังกล่าว

พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า จุดที่ 2 กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ร่วมกับพนักงาน บ.บิลเลียน จะเดินทางมาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.30 น. นำโดย น.ส.ธนพร วิจันทร์นายเซี๊ย จำปาทอง และ น.ส.ศรีไพร นนทรีย์ เพื่อนัดหมายประชุมหารือ กรณีขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาข้อพิพาท เพื่อทวงถาม และเรียกร้องเงินค่าชดเชยของทางกลุ่มกรณีนายจ้างประกาศเลิกจ้างงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า คาดว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 50 คน โดยกลุ่มนี้จะไม่เคลื่อนที่ไปจุดอื่น

พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวต่อว่า และ จุดที่ 3 เป็นกลุ่มเยาวรุ่นทะลุแก๊ซ จะชุมนุมที่บริเวณแยกใต้ด่วนดินแดง เริ่มชุมนุมเวลา 17.30 น. วัตถุประสงค์เพื่อก่อความวุ่นวายในพื้นที่ ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะมีการก่อความไม่สงบ และเคลื่อนที่ไปยังบริเวณใกล้เคียง ส่วนการปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และมอบหมายผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุด ขอให้ประชาชนไม่ออกมาบริเวณนอกเคหสถานในบริเวณที่เกิดเหตุ รวมถึงคนที่สัญจรไปมา มีข้อมูลการกระทำผิดสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบทันที

“จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา กรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุม จำนวน 3 กลุ่ม ในการปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย พบว่ากลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ซึ่งมีการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบ ไม่มีเหตุความวุ่นวายแต่อย่างใด กรณีที่กลุ่มเยาวรุ่นทะลุแก๊ซ มีการนัดหมาย เพื่อทำการชุมนุมที่บริเวณใต้ด่วนดินแดง ตั้งแต่เวลา 17.55 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ.เข้าตรึงกำลังอยู่บริเวณซอยมิตรไมตรี 2 ซึ่งไม่พบกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ

Advertisement

“ต่อมา เวลา 20.30 น. มีเสียงประทัด 1 ครั้ง บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง จนกระทั่งเวลา 21.00 น. บริเวณรอบแฟลตดินแดง, บริเวณซอยต้นโพธิ์ และถนนมิตรไมตรี 2 ไม่พบการรวมตัวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแต่อย่างใด จนถึงเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ คฝ.ถอนกำลัง หากมีผู้ก่อความไม่สงบจะก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่เตรียมกำลังในรัศมี 5-10 กม.ไว้ทั้งหมดแล้ว มีชุดสายตรวจเคลื่อนที่ดูแลความสงบเรียบร้อย เชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณดังกล่าวได้อย่างแน่นอน

“ส่วนกรณี ส.ต.ต.เดชวิทย์ เลทเท็สสัน ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 5 กก.อารักขา 1 บก.อคฝ. ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ทำการรักษาตัวที่ รพ.ตร. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์” พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าว

Advertisement

พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า ภาพรวมตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบัน มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 646 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 302 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 344 คดี

ส่วนการออกหมายจับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ส่วนภาพกล้องวงจรปิดเป็นข้อมูลทางการสืบสวน พอทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องสงสัย 73 คนนั้น ส่วนใหญ่ถูกชักชวนผ่านโซเชียลมีเดีย มีการใช้อาวุธปืน และระเบิดแสวงเครื่อง ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ ผู้ก่อเหตุยิงตำรวจนั้น ทุกคนถูกแจ้งข้อหาต่างกัน

พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า ส่วนกรณียิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ.ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนวิถีกระสุนซุ่มยิง กรณีแนวกระสุนจากที่สูงลงมา ส่วนชนิดกระสุนอยู่ระหว่าง พฐ.ทำการตรวจสอบ ส่วนเจตนาฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ข้อหาเป็นพยายามฆ่าอยู่แล้ว กรณียิงเข้าไปย่อมเล็งเห็นผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตได้ ขอให้ผู้เชี่ยวชาญตำรวจ พฐ.ตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อน ส่วนการตรวจสอบกระสุนปืนที่ยิง อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นชนิดใด มาจากแหล่งไหน เจ้าหน้าที่ต้องค้นหาพยายามหลักฐาน

ส่วนเศษกระสุนแตกกระจายนั้น พล.ต.ต.จิรสันต์ระบุว่า กรณีดังกล่าวต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตอบ เบื้องต้นเศษกระสุนเป็นทองแดง ส่วนการเพิ่มอุปกรณ์นั้น ผบ.ตร.เน้นย้ำความปลอดภัยหมวกกันกระสุน หน้ากากกันกระสุน เสื้อเกราะกันกระสุน ทาง ตร.พยายามจัดหา นอกจากนี้ มีการปรับยุทธวิธี โดยใช้งานป้องกันปราบปรามพื้นที่ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ ป้องกันการรวมกลุ่มซุกซ่อนอาวุธ ทำให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

“ส่วนการเปิดเผยภาพกล้องวงจรปิดเรียกรวมพลเหมือนเด็กอาชีวะนั้น ข้อมูลทุกอย่างที่เข้ามาร่วมในการก่อความไม่สงบ ยานพาหนะ ทุกเรื่องเป็นเบาะแส ตำรวจต้องดำเนินการทุกเรื่อง ส่วนจะมีการประกาศเขตห้ามผ่านหน้าแฟลตดินแดงหรือไม่ ยังใช้ได้ตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยบริเวณดังกล่าว ส่วนการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่จะเป็นจุดที่ทำให้หนื่อยเพิ่มขึ้นนั้น กำลังพลจาก บช.น.ไม่เพียงพอ ก็จะมีการประสานขอกำลังจากหน่วยอื่นมาช่วยเหลือ จะบริหารกำลังไม่ให้กระทบกับการใช้ชีวิตปกติของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่” พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image