กรณี นายณัฐวุฒิ หรือบาส อายุ 21 ปี ชาว อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อเหตุใช้อาวุธมีดไล่แทงกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ที่ตามมาเอาเรื่องที่บ้าน 5-6 คน หลังมีเรื่องทะเลาะวิวาทขับขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนแต่ไม่ได้จอดเจรจากัน เหตุเกิดภายในหมู่บ้านสุขสันต์ 6 ซอย 42 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ จากการสอบสวนเบื้องต้นนายณัฐวุฒิให้การว่า สาเหตุที่ทำลงไปเพราะป้องกันตัว
พ.ต.อ.วิสิษฐ์ วัฒนพงษ์พิทักษ์ ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายณัฐวุฒิ ผู้ต้องหา ระบุว่า มีบ้านและทำงานเกี่ยวกับส่งพัสดุอยู่ที่ จ.นครปฐม วันเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปหาแฟนสาวบ้านหลังเกิดเหตุ ขณะขับขี่เข้ามาในหมู่บ้าน เจอกลุ่มผู้ตาย 3 คน และไม่รู้จักมาก่อน มีการขับปาดหน้ากันไปมาประมาณ 500 เมตร แล้วแยกย้ายกันไป ฝั่งคนแทงก็เข้าบ้านตามปกติ ขณะเดียวกันกลุ่มคนตายได้ไปพาพวกมาอีก รวมแล้วประมาณ 6-7 คน ตระเวนหาว่าอยู่บ้านหลังใด จนกระทั่งเจอได้ทำการปาเศษไม้ ขวดแก้ว หรือสิ่งของที่หาได้บริเวณนั้นปาเข้ามาในบ้านแล้วพูดจาท้าทายให้ออกมาเจอ ไม่นานนายณัฐวุฒิจึงถือมีดออกไปไล่ฟันจนกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นแตกกระเจิง แทงตาย 2 เจ็บ 1 ส่วนนายณัฐวุฒิก็มีอาการบาดเจ็บจากการชกต่อยนั้น ได้แจ้ง 3 ข้อหา ฆ่าคนตาย พยายามฆ่า และพกพาอาวุธมีดฯ
“ส่วนฝ่ายอรินายณัฐวุฒินั้น พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งมีรายละเอียดเยอะ มีบุคคลเกี่ยวข้องหลายคน ทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ กำลังเร่งดำเนินการ ขอเวลาอีกหน่อย จากนั้นจะแจ้งข้อหาผู้เกี่ยวข้องต่อไป” พ.ต.อ.วิสิษฐ์กล่าว
ล่าสุด ที่ สน.เพชรเกษม ตำรวจคุมตัว นายณัฐวุฒิ หรือบาส อายุ 21 ปี ส่งศาลอาญาธนบุรีเพื่อฝากขัง หลังก่อเหตุแทงวัยรุ่นเจ้าถิ่นเสียชีวิต 2 ราย ที่หน้าบ้านพักย่านบางแค โดยนายณัฐวุฒิมีสีหน้าเคร่งเครียด อิดโรยและมีผ้าปิดแผลตามร่างกายและใบหน้า โดยกล่าวว่าอยากขอโทษแม่กับแฟนของตนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมถึงผู้เสียชีวิต ทำไปเพื่อป้องกันตัว และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับฝั่งคู่กรณีด้วย เพราะเรื่องราวทั้งหมดมาจากคู่กรณียั่วยุ
มารดาของนายณัฐวุฒิกล่าวว่า ลูกชายบอกว่าเรื่องแค่นิดเดียวเอง แค่มีรถมาปาดหน้า ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องอะไรใหญ่โต ลูกก็บอกอีกฝ่ายว่าไม่อยากมีเรื่อง เพราะเป็นคนทำงาน ก็นั่งกินข้าวกับแฟนต่อ แต่ก็ยังพาพวกไปถึงที่ แต่ที่ต้องทำแบบนั้นไปเพราะลูกชายเจ็บ โดนตีมาแขนหัก แล้วตัวคนเดียวก็ต้องสู้ ก็เหมือนคนจนตรอก แม่อยากไปงานศพคนที่เสียชีวิต อยากไปขอโทษ ขอให้เรื่องมันจบ เราอยู่กับลูก 2 คน แล้วไม่ใช่คนแถวนั้น แม่ก็กลัว กลัวจะย้อนมาทำร้ายอีก
เพราะยังตามจับกันไม่ได้ ได้ยินมาว่าจะไม่ยอมจบด้วย เมื่อเช้าดูข่าวแล้วทางนั้นบอกว่าลูกเราไปหาเรื่องเขาก่อน ไม่จริงเลย ลูกเราเป็นเด็กทำงาน หาเงิน ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใคร เช้าไปทำงานเย็นกลับบ้านมากินข้าวกับแฟนเขา เฟซบุ๊กยังไม่เล่นเลย เรารู้ เข้าใจถึงความสูญเสีย เพราะตนเพิ่งเสียลูกไปเหมือนกัน น้องประสบอุบัติเหตุรถล้มหัวฟาดพื้น เข้าใจหัวอกความเป็นแม่ดี แต่มันไม่ยุติธรรมกับลูก
“ลูกบอกเราทุกอย่าง ลูกไม่อยากจะอยู่ข้างใน อยากทำงาน ลูกไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้มีเจตนาจะทำขนาดนั้น แต่ที่ต้องออกไปเพราะไม่อยากให้ยกพวกเข้ามาในบ้าน เขาห่วงแฟนเขา แต่คนต้นเหตุยังลอยนวลอยู่ ยังจับไม่ได้ ก็อยากฝากเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะคนต้นเรื่องพาเพื่อนมาตาย ลูกเราป้องกันตัว ตอนที่โดนมีด ลูกก็ยังถามถึงอาการบาดเจ็บเลย เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจ แต่สถานการณ์มันบังคับ” มารดานายณัฐวุฒิกล่าว
ด้านแฟนสาวนายณัฐวุฒิกล่าวว่า วันนั้นคนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า เรื่องเกิดจากขับรถปาดกันนิดเดียว เขาก็จอดรถ แล้วพูดอะไรไม่ทราบ แล้วอีกฝ่ายหนึ่งก็ลงรถมา ถือหมวกกันน็อกมาด้วย แต่คนแถวนั้นก็ห้ามกันไว้ว่าอย่ามีเรื่องกันเลย แล้วแฟนเราก็ยกมือโบกประมาณว่าให้ไป อย่ามีเรื่องกันเลย ตัวเองไม่อยากมีเรื่อง ต่างคนต่างไปเถอะ คนทำงานเหมือนกัน แฟนก็ขับรถเข้าบ้าน ส่วนก็โทรเรียกพวกมา แต่ก็ไม่รู้ว่ารู้บ้านได้ยังไง
หรืออาจจะเห็นเพราะซอยบ้านมันมองเห็นกันทุกซอยว่าจอดตรงไหน เข้าซอยไหน เขามาถึงท้ายซอยแล้วคงมองเข้ามาเห็นรถ เลยตะโกนเรียกให้ออก แต่แฟนตนก็ยังไม่ออก เพราะว่า 1.เราเป็นผู้หญิง เป็นแฟนเขา 2.เขาห่วงเรา แต่พอนานอีกฝ่ายเริ่มมีการปาสิ่งของเข้ามา เขาก็ต้องออกไป ถ้าเกิดไม่ออก แล้วถ้ามีอาวุธ มีปืนล่ะ ยิงเข้ามา อาจจะโดนเรา เขาเลยออกไป แต่ที่ถือมีดออกไปด้วย เพราะคิดไว้แล้วว่าออกไปยังไงเขาก็ไม่รอด มากันขนาดนั้น เขาตัวคนเดียว
“ถ้าคิดจะสู้จริงๆ ทำไมเขาไม่โทรเรียกเพื่อน แต่นี่ออกไปคนเดียว ส่วนมีดน่าจะวางอยู่แถวชั้นรองเท้า คือเล่าตามภาพกล้องวงจรปิด เพราะตัวเองอยู่ข้างบน ประกอบกับเขาเล่าให้ฟังด้วย จึงออกไปจะล่อให้ไปทางท้ายสวนจะเป็นสวน แต่ตอนนั้นเขาโดนอะไรสักอย่างที่แขนขยับไม่ได้แล้วจึงต้องใช้อาวุธที่ถือไปเพื่อป้องกันตัวด้วย คนมันเจ็บแล้ว มันก็ต้องสู้ ใช้อาวุธที่ถือติดตัวมาสู้เพื่อป้องกันตัวเอง ถ้าไม่สู้ตัวเองก็ต้องตาย” แฟนสาวของนายณัฐวุฒิกล่าว
