เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่ สน.บางชัน พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สินเลิศ สุขุม รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สน.บางชัน พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.เด่นโดม ลาภานันต์ รอง ผกก.สส.สน.บางชัน ร่วมแถลงจับกุมนายหัทเมธ หรือดิว (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ลูกทรพีก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงพ่อ 12 แผล จนเสียชีวิต พร้อมของกลาง กางเกงยีนส์ 1 ตัว เสื้อยืดสีดำ 1 ตัว รองเท้าแตะ 1 คู่ กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ ร่มสีชมพู 1 คัน อาวุธมีดปลายแหลมพร้อมปลอก 1 ด้าม โดยจับกุมได้ที่ห้องพักในแมนชั่นแห่งหนึ่งแขวงคลองกุ่ม เขตบึ่งกุ่ม กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.พรชัยกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตบริเวณบ้านหลังหนึ่งในซอยรามคำแหง 142 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ก่อนหลบหนี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบศพนายสมบูรณ์ ทิพหา อายุ 66 ปี นอนเสียชีวิตใกล้กับประตูบ้าน ตามร่างกายมีบาดแผลถูกของมีคมแทงหลายแห่ง จากการสืบสวนทราบว่าบุตรชายของผู้ตาย ได้หลบหนีไปซ่อนตัวที่แมนชั่นแห่งหนึ่งภายในซอยนวมินทร์ 54 แขวงคลองกุ่ม เขตบึ่งกุ่ม กรุงเทพมหานคร จึงติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นบุตรชายของผู้ตาย วันเกิดเหตุตนไปเอาสิ่งของบางอย่างที่บ้าน จากนั้นได้มีปากเสียงกัน เพราะพ่อเป็นคนคลั่งไคล้ไสยศาสตร์ มีอารมณ์ฉุนเฉียว เคยทำของใส่ตนและแม่ เป็นสาเหตุให้ตนออกจากบ้านไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว โดยวันเกิดเหตุตนถูกพ่อทุบตีทำร้าย และไม่ให้ออกจากบ้าน จึงเกิดการยื้อยุดกัน จึงคว้ามีดของพ่อซึ่งลงอักขระอาคม แทงไปหลายแผล เพื่อป้องกันตัว ซึ่งบาดแผลทุกจุดสามารถทำให้ถึงแก่ความตายได้
จากการตรวจสอบประวัตินายหัทเมธ ไม่พบประวัติอาชญากรรม หรือเสพยาเสพติด ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ต้องรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ทั้งพยานแวดล้อม พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าบุพการีและพกพาอาวุธมีดไปในเมืองและหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และในเวลา 13.00 น. ตำรวจจะคุมตัวนายหัทเมธ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบ้านที่เกิดเหตุต่อไป
ตร.คุมลูกทรพีแทงพ่อแท้ๆ ดับคาบ้าน ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สน.บางชัน พร้อมด้วยตำรวจ สน.บางชัน นำตัว นายหัทเมธ หรือดิว ลูกทรพีที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงพ่อแท้ๆจนเสียชีวิตมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 2 จุด โดยจุดแรก คือ ที่บ้านในซอยรามคำแหง 142 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดที่นายหัทเมธ ใช้มีดแทงพ่อของตัวเองเสียชีวิต
เมื่อมาถึงบริเวณหน้าบ้านดังกล่าว นายหัทเมธ ได้ปลดล็อคกุญแจที่ต้องใส่รหัส เนื่องจากจำรหัสได้ จากนั้นเข้าไปหยิบของใช้ส่วนตัวในบ้าน ก่อนมีปากเสียงกับพ่อแท้ๆ ของตัวเอง ก่อนคว้ามีดของพ่อแล้วมีการยื้อยุดกันจนกระทั่งนายสมบูรณ์ ถูกแทงเข้าที่บริเวณหน้าอกและตามร่างกายหลายแผลก่อนล้มลงเสียชีวิตจมกองเลือด จากนั้นนายหัทเมธได้นำมีดและร่มติดตัวออกมาจากบ้าน เมื่อมาถึงหน้าบ้านทำร่มตกจึงก้มเก็บแล้วเดินออกไปยังจุดที่ 2 ที่ร้านขายยาบริเวณปากซอยรามคำแหง 142 เพื่อซื้อหน้ากากอนามัย จำนวน 3 ชิ้น กับผ้าก๊อซปิดแผลจำนวนหนึ่ง เมื่อซื้อเสร็จแล้วได้เรียกรถแท็กซี่หลบหนีไป
ทั้งนี้ ภายหลังทำแผนประกอบรับคำสารภาพเสร็จสิ้น ทางตำรวจได้คุมตัวนายหัทเมธ กลับไปที่สน.บางชัน โดยระหว่างนำตัวผู้ต้องหาเดินขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้ถามกับนายหัทเมธ ว่ามีอะไรจะพูดหรือไม่ แต่นายหัทเมธ ไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (19 ตุลาคม) ทางตำรวจจะนำตัวนายหัทเมธ ไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรีต่อไป
