จับ 2 ผู้ต้องหาค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ป.ป.ส.เร่งขยายผลสืบสวนถึงผู้สั่งการส่งออก

จับ 2 ผู้ต้องหาค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ป.ป.ส.เร่ง ขยายผลสืบสวนถึงผู้สั่งการส่งออก

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม หน่วยปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าเรือสากลของอาเซียน หรือ Seaport Interdiction Task Force (SITF) ประกอบด้วย ป.ป.ส. บช.ปส ศุลกากร ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 รายคือ 1.นายอลิจันโด ครูส (MR.ALIJANDRO CRUZ) อายุ 30 ปี สัญชาติจีน-ฮ่องกง เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 675 ลว. 15 ตุลาคม 2564 และ 2.น.ส.ทิวา ตรีนพ (MS.TIWA TREENOP) อายุ 32 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 677 ลว. 15 ตุลาคม 2564 ณ บ้านพักเลขที่ 55/18 หมู่ 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 1 ถุงเล็ก และตรวจค้นพบเครื่องซีล (ใช้ในการแพคซุกซ่อนยาเสพติดในห่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่ง อยู่ในรถยนต์ส่วนตัวของนายอลิจันโดที่จอดไว้หน้าบ้าน
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายครั้งนี้เป็นการจับกุมตามหมายจับ ความผิดในฐานสมคบกันกระทำความผิดในคดียาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 8 และร่วมกันมีส่วนร่วมในอาชญากรรมข้ามชาติ (มีพฤติการณ์ลักลอบส่งยาเสพติดไปต่างประเทศ)
สืบเนื่องจากกรณีที่สำนักงาน ป.ป.ส.ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรฮ่องกง ว่าเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ศุลกากรฮ่องกงได้ตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) น้ำหนักประมาณ 61 กิโลกรัม ซุกซ่อนในซองเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่ง พร้อมจับกุมผู้ต้องหาชาวฮ่องกง จำนวน 3 ราย
จากนั้นหน่วยปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าเรือสากลของอาเซียน (SITF) สืบสวนและตรวจสอบพบว่าสินค้ารายการนี้จัดส่งจากประเทศไทย โดยผู้ส่งคือ นายอลิจันโด ครูส (MR.ALIJANDRO CRUZ) สัญชาติจีน-ฮ่องกง ร่วมกับ น.ส.ทิวา ตรีนพ (แฟนสาวนาย CRUZ) และนายชัว ยิค แลม (MR.CHUA YIK LAM) สัญชาติจีน-ฮ่องกง (เพื่อนของนายอลิจันโด ขณะเข้าจับกุมเดินทางออกนอกประเทศ) ช่วยกันแพคและขนสินค้าดังกล่าวไปส่งที่บริษัทขนส่ง ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน และจนกระทั่งวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ศาลได้อนุมัติหมายจับทั้ง 3 ราย
 
เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวต่อว่า การจับกุมครั้งนี้นอกจากจะเป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามมาตรการสมคบแล้ว ยังดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คือ ปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด และเครือข่ายการค้ายาเสพติด จนนำไปสู่การขยายผลยึดทรัพย์สิน ในคดีนี้สามารถยึดทรัพย์สิน ได้แก่ 1.รถเก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อย่ามาฮ่า 3.รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน 4.รถจักรยานยนต์ 5.บัญชีธนาคารจำนวนหนึ่ง 6.นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ Rolex จำนวน 1 เรือน และ 7.ทองรูปพรรณจำนวนหนึ่ง
รวมทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 2 ล้านบาท โดยหลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน และของกลางทั้งหมดเข้าไปทำบันทึกตรวจยึดทรัพย์สิน บันทึกจับกุม และส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ต่อไป
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image