เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.กก.8 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ภคพล สุชล สวญ.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล., พ.ต.ต.ชยธร ถวิลเพชรสกุล สว.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางหลวง ร่วมกันจับกุม นางสาวสุวัชจนีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสตูล ที่ 127/2563 ลง 9 มิ.ย.2563 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
พฤติการณ์เเห่งคดี สืบเนื่องมาจากผู้ต้องหากับพวก มีพฤติกรรมเอาสร้อยทองปลอมไปจำนำไว้ตามร้านทองต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้เอกสารบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่นไปแสดงให้พนักงานร้านทองดู อีกทั้งยังมีการสวมผ้าคลุมหัว เพื่อตบตาพนักงาน ซึ่งสร้อยทองที่นำไปจำนำนั้น เป็นสร้อยทองที่มีทั้งส่วนที่เป็นทองปลอม และส่วนที่เป็นทองจริง โดยบริเวณตัวห่วงคล้องจะเป็นทองจริง ส่วนที่เป็นเส้นหรือตัวสร้อยจะเป็นทองปลอมทำมาจากเงินชุปทองคำ โดยผู้ต้องหาซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง จะทำหน้าที่จัดหาสร้อยทองปลอม มาใส่กับห่วงคล้องที่เป็นทองคำจริง แล้วนำไปให้พรรคพวกที่ร่วมขบวนการไปจำนำตามร้านทองต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ร้านทองจะตรวจสอบสร้อยทองเพียงเเค่บริเวณห่วงคล้อง จึงทำให้ถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกนำทองปลอมไปจำนำ (รวมมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท)
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากพบว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำบัตรประชาชนผู้อื่นไปใช้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของบัตร” อีกจำนวน 4 หมายจับ
โดยในวันที่ 24 ตุลาคม 2564 ตำรวจสอบสวนกลาง โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้ภายในซอย 10/13 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลุง จ.สตูล ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงขอฝากเตือนภัยสำหรับร้านทองที่จะรับจำนำทองกับลูกค้า ขอให้ท่านตรวจสอบสร้อยทองและเอกสารยืนยันตัวตนผู้ที่นำทองมาจำนำให้เเน่ใจเสียก่อน เนื่องจากยังมีร้านทองบางส่วนที่ตรวจสอบสร้อยทองเพียงแค่ตัวห่วงเท่านั้น ซึ่งภายหลังตัวสร้อยทองที่ท่านรับจำนำมาอาจจะเป็นทองปลอม ทำให้ได้รับความเสียหายได้
