เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 ตุลาคม ที่ กองบังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยว่า ในคดีนี้นั้นเกิดจากกรณีที่มีผู้เสียหายชาวอเมริกันที่เสียหายจากกรณีถูกนายหน้าชาวไต้หวันที่จำหน่ายถุงมือยางที่ไม่ได้มาตราฐานจากไทยโดยหลอกขายของที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตราฐานที่ตกลงกันไว้ซึ่งทางผู้เสียหายชาวอเมริกันก็พยายามขอเงินคืนเเต่ทางนายหน้าชาวไต้หวันไม่ยอมจนเกิดความพอใจจึงเดินทางมาที่ประเทศไทยเเล้วกระทำการอุ้มตัวนายหน้าชาวไต้หวันจนโดนดำเนินคดีในประเทศไทยเเต่ชาวอเมริกันรายนั้นไม่พอใจจึงตัดสินใจหลบหนีกลับสหรัฐอเมริกาพร้อมให้ข่าวกับทางสำนักงานข่าวซีเอ็นเอ็น ในเชิงว่าไทยเป็นเเหล่งผลิตสินค้าถุงมือยางที่ไม่ได้มาตราฐานรายใหญ่ของโลกในที่สุด
ซึ่งในประเด็นนี้ต้องเเบ่งเป็นสองคดีคือ
1.ชาวอเมริกันรายนี้เขาโดนคดีในเรื่องไปอุ้มชาวไต้หวันที่เป็นคู่ค้าของเขาซึ่งก็มีหลักฐานเป็นภาพกล้องวงจรปิดที่ปรากฏเป็นกลุ่มชาวต่างชาติชาวอเมริกัน เเละ อิสราเอล ร่วมกันอุ้มคนไต้หวันจากร้านอาหารเเถวทองหล่อ ซึ่งเขาโดนดำเนินคดีในกรณีนี้
2.ชาวอเมริกันผู้นี้ก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายเช่นกันจากการโดนหลอกลวงโดนหน้านายหน้าไต้หวันซึ่งในประเด็นนี้เขาสามารถไปเเจ้งความได้โดยตำรวจจะอำนวยความสะดวกในกรณีเต็มที่
พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นับตั้งเเต่เกิดกรณีการเเพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นก็เกิดการหลอกลวงทั้งในชีวิตจริงเเละออนไลน์มากมายในการฉ้อโกงเเละหลอกขายเครื่องมือทางการเเพทย์ซึ่งเกิดจากปริมาณอุปสงค์เเละอุปทานของสินค้าทางการเเพทย์นั้นไม่สมดุลกับความต้องการใช้ขอผู้คนซึ่งทั้งนี้พบว่ามิจฉาชีพมีทั้งชาวไทยเเละชาวต่างชาติ ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับมิจฉาชีพเหล่านี้ไปเยอะเเล้วเเละอยู่ระหว่างดำเนินคดีก็เยอะตั้งเเต่ ซึ่งขณะนี้เอง ทาง ผบ.ตร. ก็ได้กำชับให้ทางสอบสวนกลางให้เป็นตัวรวบรวมข้อมูลว่ามีกี่กลุ่มมีเเละมีใครบ้างเพื่อให้จับตัวมาดำเนินคดีต่อไป