“บิ๊กต๊อก”ชี้ทุจริตเกิดจาก”ขรก.การเมือง-ประจำ”มากที่สุด ยกกรณีรุกที่ดินต้องมีการเอื้อประโยชน์

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 กันยายน ที่ศูนย์การประชุมอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจงการแก้ไขปัญหาการใช้จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และปาฐกถาพิเศษหัวข้อ การแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ ศอตช. ให้การต้อนรับ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัด, องค์การบริหารส่วนตำบล, เทศบาล, กรุงเทพฯ และเมืองพัทยา จำนวน 1,500 คน

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ทำงานร่วมกันกับองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นมาเกือบ1ปี เราเข้าใจดี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็เข้าใจดีว่าเป็นหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนเรื่องการทุจริตมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทุจริต แต่เป็นการร้องเรียน เราเลยสนใจและเข้ามาทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะให้ใช้นโยบายการปราบปรามอย่างเดียวในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคงไม่สำเร็จ เหมือนกับที่ตนแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติด ต้องเน้นไปในแนวทางการป้องกันด้วย ส่วนการทำงานเรื่องการตรวจสอบการทุจริตเป็นหน้าที่ขององค์กรอิสระ เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้เลยตามทฤษฎี นอกจากนี้ยังมีในกลุ่มของกระบวนการยุติธรรม มีทั้งชั้นการสืบสวนสอบสวน อัยการ และศาล เรื่องทั้งหมดจะไปจบลงที่ศาลยุติธรรม

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาการทุจริตไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจากงบประมาณเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการใช้อำนาจทางกฎหมายหรือเอื้อประโยชน์ให้มีการทุจริตด้วย เช่น บางคนใช้อำนาจหน้าที่ในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ เช่น เรื่องที่ดิน เพราะถ้าข้าราชการไม่เอื้อประโยชน์จะกล้าบุกรุกป่าหรือไม่ และเชื่อว่าไม่มีใครกล้าลงทุนบนพื้นฐานความเสี่ยง ธุรกิจท่องเที่ยวที่มีการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท จะเข้าไปบุกรุกป่าเพื่อก่อสร้าง หากไม่มีการเอื้อประโยชน์จากเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังพบว่าผู้ที่ทำให้เกิดการทุจริตมากที่สุด คือข้าราชการประจำและข้าราชการการเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเลวทุกคน ต้องยอมรับว่าเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้เกิดการทุจริต นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าหลังจากข้าราชการเกษียณ มักจะเข้าสู่วงจรการเมือง บางคนได้เป็นรัฐมนตรี เชื่อว่าเกิดจากการที่มีคอนเนคชั่น และการใช้อำนาจในการเอื้อประโยชน์ ดังนั้นเมื่อรัฐบาลเจอปัญหาอย่างนี้ เราจะแก้อย่างไร แต่ยอมรับว่าการทุจริตไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ 2-3 วันแล้วเสร็จ แต่ต้องทำให้เป็นวาระเร่งด่วน และต้องดำเนินการอย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่าประชาชนต้องการได้นักบริหารมาเป็นนักปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลไม่ให้เกิดการทุจริต จะมาอ้างปัญหาเศรษฐกิจโลกตกต่ำ และทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ เพราะคนไทยต้องการกินดีอยู่ดี กินอิ่มนอนหลับ เมื่อเข้ามาต้องแก้ไขปัญหาประเทศชาติ อย่าปฏิเสธการรับผิดชอบ ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกระทรวงมหาดไทย (ศปท.มท.) เป็นหน่วยหลักในการดูแลท้องถิ่น และยังเป็นหน่วยงานที่จะประสานระหว่างศอตช.กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกด้วย เราทำงานร่วมกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image