คุก 4 เดือน ‘ณัฐชนน ไพโรจน์’ คดีละเมิดอำนาจศาล ชี้กดดันกระทบความอิสระการพิจารณาพิพากษา

ศาลอาญาลงโทษจำคุก 4 เดือน ‘ณัฐชนน’ คดีละเมิดอำนาจศาล กรณีฮือหน้าบันไดศาล 29 เม.ย. ร้องปล่อย ‘เพนกวิน’-‘ชัยธวัช’ ชี้ร่วมมวลชนกดดันศาลให้ใช้ดุลพินิจไปตามความต้องการกระทบความเป็นอิสระการพิจารณาพิพากษา ต่อมาศาลปล่อยตัว ตีประกัน 5 หมื่นบาท

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งคดีละเมิดอำนาจศาลหมายเลขดำ ล.ศ.8/2564 ที่ ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลอาญา เป็นผู้กล่าวหา นายณัฐชนน ไพโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหา

กรณีเมื่อวันที่ 29 เม.ย.64 กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ชวนกันมาทำกิจกรรมยื่นจดหมายราชอยุติธรรม พร้อมทั้งยืนอ่านกลอนตุลาการภิวัติ ที่ศาลอาญา โดยมีกลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาบริเวณศาลรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณบันไดทางขึ้นหน้าศาล ซึ่งมีการใช้เครื่องขยายเสียงและตะโกนข้อความ ปล่อยเพื่อนเรา โดยระหว่างที่มีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในศาลอาญา ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้นศาลอาญา พูดผ่านเครื่องขยายเสียงข้อความว่า “ผมขอไม่นับว่าท่านจบที่ธรรมศาสตร์ที่เดียวกับผม เพราะท่านไม่เคยรักประชาชนเหมือนที่มหาลัยสอน คุณมันไร้กระดูกสันหลัง…ฯลฯ”

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตรงกันว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุมีการร่วมชุมนุมของกลุ่มมวลชนแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม บริเวณบันไดทางขึ้นหน้าศาลอาญา เพื่อยื่นจดหมายราชอยุติธรรม พร้อมทั้งยืนอ่านบทกลอนตุลาการภิวัติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องให้ศาลมีคำสั่งปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจำนวน 7 คน ซึ่งอยู่ในกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยมีผู้ถูกกล่าวหาร่วมชุมนุมอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นศาลอาญาและพูดผ่านเครื่องขยายเสียงว่า “ผมไม่นับว่าท่านจบธรรมศาสตร์ที่เดียวกับผม เพราะท่านไม่เคยรักประชาชนเหมือนที่มหาวิทยาลัยสอน คุณมันไร้กระดูกสันหลัง ถ้าคุณไร้กระดูกสันหลังคุณก็ไม่ได้ตั้งตรงเหมือนคนทั่วไป” และผู้ถูกกล่าวหายังได้ตะโกนว่า “ชนาธิปออกมารับจดหมาย” หลายครั้ง

Advertisement

ข้อเท็จจริงในส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหา เบิกความว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าผู้พิพากษาหลายท่านจบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นสถาบันเดียวกับผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมีคำขวัญว่า ฉันรักธรรมศาสตร์เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน ผู้ถูกกล่าวหาจึงมีความรู้สึกร่วมว่าในการประกันตัวของผู้ต้องหาในศาลชั้นต้นผู้ต้องหาควรได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์และควรได้รับการประกันตัว เมื่อมีกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมบางคนไม่ได้รับการประกันตัวในศาลผู้ถูกกล่าวหาจึงมีความรู้สึกว่าศาลไม่ได้ให้ความเป็นธรรม และผู้ถูกกล่าวหายังได้เบิกความตอบคำถามศาลเพิ่มเติมว่าที่ผู้ถูกกล่าวหาพูดว่า “คุณมันไร้กระดูกสันหลัง ถ้าคุณไร้กระดูกสันหลังคุณก็ไม่ได้ตั้งตรงเหมือนกับคนทั่วไป” คำว่ากระดูกสันหลังนั้น หมายถึงหลักการ และการที่ผู้ถูกกล่าวหากล่าวว่าศาลไม่ยุติธรรมในการให้ประกันตัวเพราะคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวนั้นศาลให้เหตุผลว่าเกรงว่าจำเลยจะไปกระทำความผิดอื่นซึ่งขัดกับหลักการที่กฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาซึ่งปรากฏอยู่ในหนังสือราชอยุติธรรม

ศาลเห็นว่าโดยเนื้อหาข้อความในการพูดของผู้ถูกกล่าวเป็นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับสิทธิการปล่อยชั่วคราวของผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ผู้ถูกกล่าวหามีความคิดเห็นต่างไปจากดุลพินิจของศาล ซึ่งเป็นสิทธิที่ผู้ถูกกล่าวหาสามารถคิดและแสดงความคิดเห็นดังกล่าวได้ แต่การที่ผู้ถูกกล่าวหาเข้าร่วมในการชุมนุมดังกล่าวและพูดตะโกนผ่านเครื่องขยายเสียงตามที่ปรากฏในแผ่นบันทึกเหตุการณ์ภาพเคลื่อนไหวด้วยพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ขู่ตะคอก เอะอะโวยวายร่วมกับผู้ชุมนุมอื่น อีกทั้งในขณะที่ผู้ร่วมชุมนุมอื่นใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวโจมตีการทำงานของศาลผู้ถูกกล่าวหายังส่งเสียงโห่ร้องและแสดงกิริยาสนับสนุนด้วยถ้อยคำที่ก้าวร้าวและยังร่วมตะโกนว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” พฤติกรรมดังกล่าวจึงมิใช่การแสดงความคิดเห็นเพียงอย่างเดียว แต่มีลักษณะเข้าร่วมกับมวลชนกดดันศาลให้ใช้ดุลพินิจไปตามความต้องการของตนกับพวก ไม่มีความเคารพความเห็นต่างของผู้อื่นดังเช่นผู้มีอารยะทางความคิดในแนวเสรีประชาธิปไตยพึงกระทำ และการกระทำดังกล่าวยังกระทบต่อความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 188 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้พิพากษาและตุลาการย่อมมีอิสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้เป็นไปโดยรวดเร็วเป็นธรรมและปราศจากอคติทั้งปวง” อันเป็นหลักประกันในความเป็นอิสระของผู้พิพากษาและตุลาการการกระทำของผู้ถูกกล่าวหา จึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ป.วิ.พ.) มาตรา 31 (1), 33 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 15 จึงมีคำสั่งให้ลงโทษจำคุกผู้ถูกกล่าวหาเป็นเวลา 4 เดือน ต่อมาศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีวงเงินประกัน 50,000 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image