“สนธิ”ขึ้นศาล บอกนักรบต้องเสียสละ เผยชีวิตแดน7 สอนหนังสือ-ฎีกาเลื่อนตัดสินหมิ่น”ภูมิธรรม”

นายสนธิ ลิ้มทองกุล (ภาพจากแฟ้มคดี)

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 กันยายน ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรัฐมนตรีคมนาคม และอดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัทไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด ผู้ผลิตรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ , นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล กรรมการ บจก.ไทยเดย์ ,นายพชร สมุทวณิช กรรมการ บจก.ไทยเดย์ ,นายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ,นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ,บริษัทแมเนเจอร์ มีเดียร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และเว็บไซต์ผู้จัดการ , นายสุวัฒน์ ทองธนากุล กรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ , นายมรุชัช รัตนปรารมย์ กรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ ,นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ กรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ และนายวิรัตน์ แสงทองคำ กรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ เป็นจำเลยที่ 1 – 10 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

กรณีเมื่อที่ 25 พฤศจิกายน 2548 เวลากลางคืน นายสนธิ จำเลยที่ 5 และน.ส. สโรชา พรอุดมศักดิ์ ร่วมกันจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 10 ที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV มีเนื้อหาหมิ่นประมาทโจทก์ทำนองว่าเป็นอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ไม่เคารพระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งเกี่ยวข้องกับการจัดทำเว็บไซด์เนื้อหาพาดพิงสถาบันเบื้องสูง และบันทึกเป็นวีซีดีออกเผยแพร่ รวมทั้งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันฉบับเสาร์ – อาทิตย์ 26 -27 และ 28 พฤศจิกายน 2548 และเว็บไซด์ผู้จัดการ

คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาเมื่อวันที่ 29มีนาคม2550 ให้จำคุก นายสนธิ จำเลยที่ 5 เป็นเวลา2ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ส่วนจำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล พิพากษาให้ปรับ 200,000 บาท และให้โฆษณาคำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันเป็นเวลา 3 วัน โดยให้จำเลยที่ 1และ 5 เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด สำหรับจำเลยอื่นให้ยกฟ้อง

ต่อมานายภูมิธรรม โจทก์ ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 – 4 และ 6-10 ด้วย ส่วนบริษัทไทยเดย์ จำเลยที่ 1 และนายสนธิ จำเลยที่ 5 ยื่นอุทธรณ์ ว่าการจัดรายการของจำเลยที่5 ไม่มีเจตนาใส่ร้ายโจทก์ แต่เป็นไปเพื่อให้คำแนะนำและองค์ความรู้ต่อโจทก์ในฐานะที่เป็นคนรุ่นหลังและแก้ไขในสิ่งที่ได้กระทำผิดมา และอุทธรณ์ขอให้ศาลลดโทษและค่าปรับด้วย

Advertisement

ต่อมา วันที่ 11 กันยายน 2552 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษนายสนธิ จำเลยที่ 5 จากจำคุก2ปีเป็นจำคุก 6 เดือน ส่วนอุทธรณ์ของโจทก์ที่ให้ลงโทษจำเลยอื่นนั้นฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนให้ปรับ บริษัทไทยเดย์ฯ จำเลยที่ 1 จำนวน 200,000 บาท และให้ยกฟ้องจำเลยอื่น

วันนี้ทนายโจทก์ และนายสนธิ จำเลยที่ 5 เดินทางมาจากเรือนจำในชุดนักโทษ ส่วนจำเลยอื่นมาฟังคำพิพากษาตามนัด ยกเว้นจำเลยที่ 8 ที่ไม่มาศาล

เมื่อถึงเวลานัด ศาลมีคำสั่งให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไป โดยนายมรุชัช รัตนปรารมย์ จำเลยที่ 8 ไม่ได้มาศาล เนื่องจากตรวจสอบเเล้วทราบว่าหมายนัดฟังคำพิพากษาส่งไม่ถึงจำเลยที่ 8 จึงไม่สามารถอ่านคำพิพากษาในวันนี้ได้ ให้เลื่อนไปอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้ง ในวันที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 09.00 น.และให้ส่งหมายนัดให้จำเลยที่ 8 ใหม่อีกครั้ง

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้องพิจารณาคดี ก่อนฟังคำพิพากษา นายสนธิได้พูดคุยกับกลุ่มประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจว่า เป็นนักรบต้องเสียสละ ขอให้ทุกคนไม่ต้องกังวลเพราะเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คอยดูแลอยู่ เนื่องจากตนปฏิบัติตัวเป็นนักโทษที่ดี ไม่เคยสร้างปัญหา

นายสนธิ กล่าวถึงถึงชีวิตภายในเรือนจำว่า ทุกๆวันตอนเช้าหลังตื่นนอนจะเดินออกกำลังกายวันละกว่า 1 กิโลเมตร แกว่งแขน 2 พันครั้ง และรับประทานอาหารเช้าเวลา 09.00 น. ก่อนอ่านหนังสือ โดยปฏิบัติตามกิจกรรมไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ในแดน 7 หรือที่เรียกว่าแดนสีขาว ที่เป็นแดนคุมขังอยู่นั้นมีผู้ต้องขังกว่า 100 คนและตนเองมีโอกาสสอนหนังสือให้กับผู้ต้องขังด้วย พร้อมย้ำให้ทุกคนไม่ต้องกังวล

จากนั้น เวลาประมาณ 10.30 น.เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายสนธิขึ้นรถตู้กลับไปคุมขังยังเรือนจำกลางคลองเปรมต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image