‘สิงห์ชัย’ อสส.เปิดสัมนา ชูธงต้องให้ความเคารพศักดิ์ศรีผู้เสียหาย เมื่อเข้ากระบวนการยุติธรรม

‘สิงห์ชัย’ อสส.เปิดสัมนาบทบาทอัยการในการดำเนินคดีค้ามนุษย์ฯ ชูธงต้องให้ความสำคัญดูแลคุ้มครองผู้เสียหายได้รับสิทธิครบถ้วน ได้รับเคารพศักดิ์ศรี เมื่อเข้ากระบวนการยุติธรรม ‘ณัฏฐพงศ์’ ขานรับ ยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่โรงแรมทีเคพาเลซแอนด์คอนเวนชั่น ถนนแจ้งวัฒนะ นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด เป็นประธานในพิธีเปิดสัมนาโครงการบทบาทของพนักงานอัยการในการดำเนินคดีค้ามนุษย์ : การประสานงานระหว่างพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวนร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมผู้เสียหายสำหรับการพิจารณาคดีค้ามนุษย์ในชั้นศาล โดยจะมีการจัดงานตั้งเเต่วันที่ 14-15 ธ.ค.นี้

ผู้เข้าร่วมการอบรมสัมมนาในครั้งนี้ ประกอบด้วย พนักงานอัยการผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ในส่วนกลางและต่างจังหวัดในพื้นที่ภาค 1, 2 เเละ3 และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ในส่วนกลางและต่างจังหวัด อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สถานคุ้มครองของรัฐและเอกชนนักสังคมสงเคราะห์, นักจิตวิทยาล่ามองค์กรนอกภาครัฐ เป็นต้น

นายณัฏฐพงศ์ สุวรรณพาณิชย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์ได้กล่าวรายงานต่ออัยการสูงสุดในฐานะประธานในพิธี ใจความสรุปว่า ในนามของสำนักงานคดีค้ามนุษย์สำนักงานอัยการสูงสุด ในวันนี้สืบเนื่องจากรายงานการค้ามนุษย์ประจำปี พ.ศ.2564 (TIP Report 2021) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีข้อเสนอแนะต่อการดำเนินงานของประเทศไทยในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบทบาทอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการที่สำคัญคือการประสานความร่วมมือระหว่างพนักงานอัยการกับองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเตรียมความพร้อมผู้เสียหายในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดความบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจของผู้เสียหายอีกทั้ง เพื่อทำให้ผู้เสียหายมีความพร้อมและเต็มใจให้การเป็นพยาน และรู้สึกมีส่วนร่วมในการแสวงหาความยุติธรรมให้กับตนเอง

ณัฏฐพงศ์ สุวรรณพาณิชย์ อธิบดีอัยการ

นายณัฏฐพงศ์กล่าวว่า สำนักงานคดีค้ามนุษย์จึงได้กำหนดจัดให้มีโครงการนี้ขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พนักงานอัยการได้ตระหนักถึงบทบาทในการดำเนินคดีค้ามนุษย์โดยใช้วิธีการยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลางและเพื่อเป็นเวทีให้เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้ กฎหมายได้แลกเปลี่ยนและหารือแนวทางในการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงองค์กรนอกภาครัฐ (NGOs) เพื่อขจัดปัญหาข้อท้าทายรวมทั้งทราบถึงบทบาทและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การเตรียมความพร้อมผู้เสียหายเพื่อให้การพยานในชั้นศาลเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ทำให้ผู้เสียหายเกิดความรู้สึกเหมือนตกเป็นผู้ถูกกระทำซ้ำ เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ซึ่งค่าใช้จ่ายในการจัดอบรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการอาเซียน-ออสเตรเลียเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (ASEAN-Australia Counter Trafficking)

Advertisement

นายสิงห์ชัยกล่าวว่า วันนี้ในฐานะที่เป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรอัยการ ขอยืนยันสำนักงานอัยการสูงสุดให้ความสำคัญกับการดำเนินคดีค้ามนุษย์เสมอไป ไม่เพียงเฉพาะมุ่งการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างถึงที่สุดหาก แต่ยังให้ความสำคัญกับการดูแลคุ้มครองให้ผู้เสียหายได้รับความคุ้มครองได้รับสิทธิต่างๆ ตามกฎหมายอย่างครบถ้วน ได้รับการดูแลและเคารพในศักดิ์ศรีเมื่อต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทั้งในฐานะเป็นผู้เสียหายและพยาน ดังนั้น โครงการนี้จึงเป็นสิ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสำนักงานอัยการสูงสุดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมโครงการในวันนี้ในการมาช่วยกันระดมความคิดเพื่อช่วยให้การเตรียมความพร้อมผู้เสียหายสำหรับการพิจารณาคดีค้ามนุษย์เป็นไปอย่างเหมาะสมโดยยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง

นายสิงห์ชัยกล่าวต่อว่า เชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันบนพื้นฐานของความเข้าใจร่วมกันและไว้วางใจกันจะช่วยทำให้ผู้เสียหายได้รับการคุ้มครอง และยินดีที่จะร่วมมือกับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษได้อย่างแท้จริง และผู้เสียหายได้รับการคุ้มครองและสิทธิตามที่กฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน

“การสัมนาครั้งนี้ขอให้ทุกท่านช่วยกันแสดงความเห็น นำเสนอข้อชี้แนะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่พวกเราตั้งใจทำร่วมกัน

Advertisement

“ขอขอบคุณโครงการอาเซียน-ออสเตรเลียเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (ASEAN-Australia Counter Trafficking) ที่ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดโครงการอันเป็นประโยชน์ยิ่งในครั้งนี้ ขอให้การอบรมสัมมนาในครั้งนี้ประสบความสำเร็จและบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ทุกประการ” อัยการสูงสุดกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image