ยธ.แถลงผลสอบปม จนท.ที่ดินพังงาผูกคอดับในห้องขังดีเอสไอเสร็จแล้ว แต่เปิดเผยไม่ได้(คลิป)

กรรมการสอบข้อเท็จจริง ยธ.คดี จนท.ที่ดินพังงาผูกคอดับ แถลงผลสอบเสร็จแล้วแต่เปิดเผยไม่ได้ จะให้ พนง.สอบสวนประกอบสำนวนชันสูตร ไม่ขอลงรายละเอียด น้องชายธวัชชัยพอใจบางส่วนกับความเห็นแพทย์นิติเวช ระบุไม่ได้คิดอยากเอาผิดใครแค่อยากรู้ความจริง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ต.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเมือง ผู้ต้องหาใช้ถุงเท้าผูกคอเสียชีวิตที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และผศ.ดร.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าฝ่ายนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คณะกรรมการ ร่วมกันแถลงผลการสอบสวนข้อเท็จจริงหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายธวัชชัย โดยมีนายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของนายธวัชชัย เข้าร่วมฟังการแถลงด้วย ว่าคณะกรรมการได้ดำเนินการตรวจสอบในเรื่องของพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ โดยวัดพื้นฐานจากรายงานของทางนิติเวช รวมถึงรับข้อเท็จจริงและพยานจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ รายงานด้านการแพทย์ รวมถึงการตรวจเพิ่มเติมของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งจากการสืบสวนหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมการได้ข้อสรุปและมีความเห็นเป็นเอกฉันท์จากผู้เชี่ยวชาญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายวิศิษฎ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของผลการสืบสวนข้อเท็จจริง คณะกรรมการอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานที่จะต้องดำเนินการสองทางคือ 1.เนื่องจากการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายธวัชชัยยังอยู่ระหว่างการดำเนินงานของพนักงานสอบสวน และทาง สน.ทุ่งสองห้อง ได้มีหนังสือขอรายละเอียดของคณะกรรมการด้วย ซึ่งข้อสรุปและข้อค้นพบของคณะกรรมการก็จะดำเนินการส่งไปให้กับ สน.ทุ่งสองห้องโดยเร็ว ซึ่งเป็นพยานในลักษณะพยานของผู้เชี่ยวชาญ และ 2.นำรายงานเสนอต่อนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ ส่วนข้อสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร โดยที่เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เราก็จะเสนอข้อมูลทั้งหมดไปให้ สน.ทุ่งสองห้อง ประมวลผลในภาพรวมเพื่อดำเนินการทางคดีต่อไป

นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเมือง ผู้ต้องหาใช้ถุงเท้าผูกคอเสียชีวิตที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และผศ.ดร.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าฝ่ายนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คะกรรมการ ร่วมกันแถลงข่าว
นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเมือง ผู้ต้องหาใช้ถุงเท้าผูกคอเสียชีวิตที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และผศ.ดร.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าฝ่ายนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คณะกรรมการ ร่วมกันแถลงข่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ใช่หรือไม่ นายวิศิษฎ์กล่าวว่า เราไม่ได้ทำเรื่องการชันสูตรพลิกศพ เพราะการชันสูตรพลิกศพเป็นเรื่องของ สน.ทุ่งสองห้อง เราประมวลตามคำสั่งของกระทรวงยุติธรรม จึงขอเรียนว่าทางคณะกรรการได้ใช้ความสามารถของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มาร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย คือ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมทั้งได้เชิญแพทย์จากราชวิทยาลัยมาร่วมด้วย ซึ่งทั้งหมดเมื่อเราประมวลผล เราได้ข้อคิดเห็นหรือแนวทางแล้ว แต่ว่าในเรื่องนี้จะต้องส่งไปสำนวนการสอบสวนก่อน ดังนั้น ในวันนี้จึงจะไม่มีการเปิดเผยว่าคณะกรรมการค้นพบอย่างไร แต่ว่าการดำเนินการของคณะกรรมการได้เสร็จสิ้นแล้ว

Advertisement

“เราก็ประมวลหมด ข้อค้นพบต่างๆ ที่มีอยู่บนร่างกาย ข้อค้นพบที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรักษาและการส่งตัวดูแล รวมถึงข้อค้นพบเกี่ยวกับบาดแผลต่างๆ ว่าสอดคล้องรับได้กับเรื่องใดบ้าง ก็จะมีหลักฐานหลายทาง ซึ่งคณะกรรมการความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าแนวทางหรือข้อคิดเห็นมันควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งบางเรื่องเราก็ยังไม่ได้ชี้ขาดไปถึงจุดนั้น” นายวิศิษฎ์กล่าว และว่า ภายในสัปดาห์นี้เรากำลังทำรายงานทั้งหมดส่งให้ทางปลัดกระทรวงยุติธรรม และพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง

ถามต่อว่า การตรวจสอบของคณะกรรมการสามารถระบุได้หรือไม่ ว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดขึ้นจากการฆาตกรรมหรือใครทำให้เสียชีวิต อธิบดีกรมพินิจฯ กล่าวว่า ไปไม่ถึงขนาดนั้น แต่เป็นการพิสูจน์ว่าข้อค้นพบเป็นอย่างไร ซึ่งก็มีข้อคิดเห็นว่าสาเหตุที่ตับแตก ซี่โครงหัก เกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง ทั้งนี้ เราได้มีการทำตารางเวลาจากพยานหลักฐานว่ามันมีข้อพิจารณาบางอย่าง ก็จะมีการระบุเรื่องระยะเวลาด้วย ส่วนการที่พนักงานสอบสวนเมื่อได้รายงานของคณะกรรมการไปแล้วจะทำให้การดำเนินการรวดเร็วขึ้นหรือไม่นั้น ตนมองว่าเป็นความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ โดยปกติแล้วในการฟังข้อเท็จจริงทางด้านกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หลักฐานตรงนี้ก็มีหลักฐานสำคัญส่วนหนึ่งที่จะให้พนักงานสอบสวนทำงานได้ง่ายขึ้น

อธิบดีกรมพินิจฯ กล่าวถึงกรณีการทำซีทีสแกนศพนายธวัชชัยครั้งที่ 2 ว่าจากการทำซีทีสแกนในรอบที่ 2 นั้น เนื่องจากภาพที่ถ่ายบริเวณกระดูกกล่องเสียงไม่ชัด เพราะต้องดูว่ามันหักตรงไหนอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ได้ผลที่ชัดเจนแล้ว ส่วนรอยรัดบริเวณลำคอว่าสรุปแล้วเป็นเชือกหรือผ้านั้น ทุกอย่างอยู่ในสำนวนหมดแล้ว จึงขอไม่เปิดเผยรายละเอียด ทั้งนี้ เราได้ชี้แจงให้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตทราบผลการตรวจดำเนินการของคณะกรรมการแล้ว

Advertisement

“ผมได้รับคำสั่งมาว่าให้ตรวจสอบว่าสาเหตุการตายคืออะไร และมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และให้รายงานไปยังปลัดกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ กรณีของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น เราดูได้เบื้องต้นว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องในส่วนนั้นกี่คนบ้าง ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่มีคนเกี่ยวข้องอยู่หลายคนอยู่แล้วที่ดูแลสถานที่ และก็มีการชี้แจงไปในรายงานว่ามีใครอยู่บ้าง ซึ่งเป็นส่วนที่กระทรวงต้องไปประมวลต่อไป อีกทั้ง เนื่องจากคณะกรรมการส่วนใหญ่เป็นแพทย์ เราก็มุ่งเน้นการตรวจสอบไปด้านนิติเวชวิทยาเป็นหลัก” นายวิศิษฎ์กล่าว

S__22257673

นายชัยณรงค์กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เปิดเผยผลการตรวจสอบแต่เพียงวาจา ซึ่งไม่ได้ให้อ่านผลที่เป็นเอกสาร และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ทราบถึงผลการตรวจสอบทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ เท่าที่ได้รับทราบก็ยังมีส่วนที่ติดใจอยู่ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนทั้งหมด เพราะไม่ทราบรายละเอียดว่าใครทำให้ตายและตายอย่างไร แต่ก็เข้าใจคณะกรรมการที่มีความจำเป็นต้องไม่เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด ทั้งนี้ หากทุกอย่างมีความชัดเจนมีเหตุผลที่ทางวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายได้ก็พร้อมที่จะยอมรับ ส่วนในวันที่ 6 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปพบกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี และให้ปากคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวยังไม่มีกำหนดการที่จะฌาปนกิจนายธวัชชัยแต่อย่างใด

“ผมไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้เลย ผมไม่ได้คาดว่าอยากจะรู้ว่าใครทำให้เสียชีวิตหรืออะไร เพียงแต่ต้องการความกระจ่างเท่านั้น และก็ไม่ได้คิดว่าจะเอาคนนั้นผิดคนนี้ผิด ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย เพียงแต่ต้องการความจริงเท่านั้นเอง โดยที่ทุกคนทำในพื้นที่ฐานของการมีเหตุและผลมันก็กระจ่างออกมาได้” นายชัยณรงค์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image