รองโฆษกตร.ชี้เหตุระเบิดใกล้สถานีรถไฟยะลาหวังสร้างสถานการณ์ ส่วนบึ้มเสาไฟหลายจุดขอหมายจับ 2 ผู้ต้อง

เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณสถานีรถไฟยะลา เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น. วันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งทางวิทยุ ว่ามีเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง บริเวณหน้าสถานีรถไฟยะลา จากนั้นทางพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยความเสียหายเป็นหลุมขนาดเล็กจำนวนมาก และฝ้าเพดานของสถานีรถไฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าระเบิดที่ใช้ก่อเหตุ เป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกระป๋องสเปรย์ ทำให้เกิดเสียงดัง จึงคาดว่าเป็นการระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และนำไปประกอบการตรวจพิสูจน์ รวมถึงประกอบการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิดเสาไฟฟ้าหลายจุดในพื้นที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ทางพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว จำนวน 2 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ และขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้รับรายงานถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และได้สนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ ซึ่งในการสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นมูลเหตุจูงใจใดๆ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของทุกคนเป็นหลัก

รองโฆษก ตร. จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงคอยเป็นหูเป็นตาในการจดจำบุคคลและคอยสังเกตวัตถุต้องสงสัยที่อาจถูกวางทิ้งไว้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ หากพบเบาะแสใดๆ สามารถแจ้ง สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image