เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง, พ.ต.ท.มหพล มีเสน รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง, พ.ต.ต.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส.สน.ดอนเมือง, ร.ต.อ.สมโชค คงตำหนิ, ร.ต.ต.ชูชาติ ฉาบทับทิม รอง สว.สส.สน.ดอนเมือง และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง ร่วมกันจับกุมตัวนายกฤษณะ อินทรรัตน์ อายุ 39 ปี พร้อมของกลาง โน๊ตบุ๊กเอซุส 1 เครื่อง ไอแพด มินิ 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้บริเวณชุมชนท่าอากาศยานด้านใต้ ซ.ช่างอากาศอุทิศ 13 แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากก่อนหน้าการจับกุม ช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. วานนี้ ผู้เสียหายซึ่งทำงานในสนามบินดอนเมือง ได้เข้าแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสนามบินว่ากระเป๋าสะพายซึ่งภายในมีโน๊ตบุ๊กเอซุส 1 เครื่อง ไอแพด มินิ 1 เครื่อง ได้หายไป โดยวางไว้บริเวณเก้าอี้จุดชมวิวฝั่งทิศเหนือ ภายในอาคารชั้น 4 สนามบินดอนเมือง แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ
จากการสอบถามผู้เสียหาย ระบุว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเข้าทำงานปกติ โดยวางกระเป๋าไว้บริเวณจุดดังกล่าว ก่อนจะลงไปทำงานที่ชั้นล่าง จนเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. พบว่ากระเป๋าได้หายไปแล้ว โดยจุดที่ตนวางกระเป๋าไว้ เป็นจุดที่ช่างประจำสนามบินให้เป็นจุดพัก โดยปกติไม่มีใครเข้าไปอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้สนามบินมีการปิดกั้นพื้นที่บางส่วนไว้ จึงทำให้ไม่มีใครผ่าน
ภายหลังผู้เสียหายได้เปิดแอปพลิเคชั่นไอคลาวด์ ของไอแพดเพื่อหาพิกัด และขอดูภาพคนร้ายภายในสนามบิน จนพบชายต้องสงสัย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ประสานกับผู้เสียหาย ติดตามสัญญาณจีพีเอส จนทราบว่าอยู่ภายในชุมชนท่าอากาศยานด้านใต้ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบตัวนายกฤษณะ ซึ่งตรงตามกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม โดยนายกฤษณะ ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง
นายกฤษณะกล่าวว่า ตนเองไม่มีงานทำตั้งแต่โควิด ที่เข้าไปก่อเหตุในสนามบิน เนื่องจากเห็นว่าใกล้บ้าน จึงเข้าไปเดินเล่น และมาเจอกระเป๋าวางไว้ที่เก้าอี้ ประกอบกับไม่มีใครอยู่บริเวณดังกล่าว จึงฉวยโอกาสหยิบกลับมาที่บ้าน และยอมรับว่า ที่ผ่านมายังเคยแอบเข้าไปในห้องน้ำหญิงเพื่อถ้ำมองมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดผู้เสียหายจับได้ จึงรีบเดินออกมา ยืนยันว่าเข้าไปแอบดูเท่านั้น ไม่ได้มีการบันทึกภาพแต่อย่างใด เนื่องจากตนเองไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในสนามบิน และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
