ศาล มทบ.45 ออกหมายจับ “ซูกีมัน” มือบึ้มพังงาอีก 5 คดี

วันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.และหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีระเบิดและวางเพลิง 7 จังหวัดภาคใต้ พร้อมคณะพนักงานสอบสวน เดินทางไปยื่นขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม โดยศาลใช้เวลาไต่สวนร่วม 1 ชั่วโมงได้อนุมัติหมายจับนายซูกีมัน กูบารู อายุ 34 ปี ชาว จ.นราธิวาส เพิ่มอีก 5 หมายในความผิดฐาน “ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันพยายามวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และเป็นอั้งยี่” เนื่องจากมีหลักฐานพบว่า นายซูกีมัน เป็นผู้ก่อเหตุอีก 5 จุดในพื้นที่ จ.พังงา

พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า การขออนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 5 คดี มีความมั่นใจในพยานหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงพยานบุคคลเชื่อมโยงไปถึงตัวคนร้ายเพียงพอที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 45 อนุมัติเพิ่ม เพราะผู้ต้องหาได้ร่วมลงมือก่อเหตุต่างกรรมต่างวาระ อย่างไรก็ตามขณะนี้ศาลทหารฯได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ,นครศรีธรรมราช,พังงา,กระบี่ และตรัง รวมแล้ว 9 คน

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ในส่วนผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ ยังไม่สามารถออกหมายจับได้ เนื่องจากมีพยาน หลักฐานที่ไม่ชัดเจนเพียงพอ แต่มั่นใจว่าจะต้องตามจับกุมตัวมาลงโทษให้ได้ หลังจากที่ขออนุมัติหมายจับที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 45อนุมัติแล้วจะเดินทางยังมณฑลทหารบกที่ 43 นครศรีธรรมราช เพื่อขออนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 2 คดี

“ กรณีการข่าวให้ระวังเหตุความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน , กรุงเทพฯและปริมณฑลได้กำชับการปฎิบัติทุกพื้นที่ รวมทั้งให้มีการตรวจสอบรถยนต์เป้าหมายจนถึงขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวและยังไม่มีหลักฐานรถต้องสงสัยทั้ง 2 คัน เดินทางเข้ากรุงเทพฯอย่างใด แต่กำชับให้จุดตรวจมั่นคงเพิ่มความเข้มตรวจสอบ ส่วนพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จะมีงานประเพณีชักพระเป็นงานเทศกาลที่เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาและห้วงดังกล่าวมีคณะทูตานุทูต 21 ประเทศมาร่วมงานได้กำชับให้ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เพิ่มความเข้มงวดแผนรักษาความปลอดภัยระดับสูงและเฝ้าสังเกตรถยนต์เป้าหมายอย่างละเอียด ” พล.ต.อ.ศรีวหราห์  กล่าวว่า

Advertisement

ด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 45 ,ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจความมั่นคง 4 จุดในเส้นทางเข้าออก จ.สุราษฎร์ธานี ให้ปฎิบัติการเข้ม 24 ชั่วโมง โดยให้เน้นตรวจรถยนต์ต้องสัย 2 คัน คือรถเก๋งฮอนด้า รุ่นแอคอร์ท และรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน แบบ 2 ตอนทุกคันอย่างละเอียดโดยไม่เน้นว่าเป็นสีใด เนื่องจากเชื่อว่า ถ้ากลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์จริงจะมีการเปลี่ยนสีและตำหนิรถเรียบร้อยแล้ว และเน้นสืบสวนหาข่าวทุกพื้นที่พร้อมจัดทำเป้าหมายตรวจค้น

“ การรักษาความปลอดภัยคณะทูตฯที่มางานประเพณีชักพระและไปแหล่งท่องเที่ยวสำคัญใน จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 16-18 ต.ค.ต้องมีการเข้มงวดเป็นพิเศษ เนื่องจากมีทูตจากประเทศบาร์เรน และอิสราเอล ร่วมเดินทางมาด้วยจำเป็นต้องตั้งจุดสกัดถาวร 6 จุดในบริเวณงานและที่พัก โดยให้ตรวจเข้มทั้งตัวบุคคลและยานพาหนะพร้อมให้ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตั้งศูนย์ย่อยควบคุมสั่งการพร้อมชุดตรวจวัตถุระเบิด(อีโอดี.) 3 ชุด ประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัด , ตชด. 41 และตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมตรวจและป้องกันในช่วงงานซึ่งอาจไม่สะดวกจึงอยากขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย ”  พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image