ศาลสั่งจำคุกหัวหน้า รปภ.บุกขืนใจลูกบ้านในคอนโดฯ 10 ปี10 เดือน

“ประยุทธ” รองโฆษก อสส.เผยศาลสั่งจำคุกหัวหน้า รปภ.บุกขืนใจลูกบ้าน 10 ปี 10 เดือน หลัง อัยการอาญาธนฯยื่นฟ้องขอลงโทษสถานหนักไปเมื่อวาน

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา นายสิทธิชัย ธีรพรพาณิชย์ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 2 ได้มีคำสั่งฟ้อง ในคดีที่พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง
นายมนตรี ใหญ่กระโทก หัวหน้า รปภ. คอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนบุรีบางแค ก่อเหตุข่มขืนลูกบ้านในคอนโด โดยพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้อง 2 ข้อหาคือ 1.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ 2.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 โดยผิดกฎหมาย (ยาบ้า)

จากการตรวจสอบประวัตินายมนตรีทราบว่า ก่อนหน้านี้ไม่เกิน 5 ปี นายมนตรีเคยก่อเหตุกระทำชำเรา ผู้เสียหายรายอื่นมาก่อนเเล้ว ในขณะที่ยื่นฟ้อง นายสิทธิชัย พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 2 ได้ยื่นขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนัก พร้อมขอให้เพิ่มโทษตามกฎหมายเนื่องจากจำเลยกระทำผิดคดีนี้ซ้ำโดยระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี

ทราบว่าวันนี้ศาลนัดสอบคำให้การเเละจำเลยรับสารภาพ โดยวันนี้ศาลอาญาธนบุรีมีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยรวมเพิ่มโทษตามคำขอของอัยการเเล้ว 10 ปี 10 เดือน 20 วัน จำเลยให้การรับสารภาพคงจำคุก 5 ปี 5 เดือน 10 วัน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ที่ศาลอาญาธนบุรี ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีที่พนักงานอัยการ โจทก์ ยื่นฟ้อง นายมนตรี ใหญ่กระโทก จำเลย ความผิดฐาน ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยผู้นั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, บุกรุกในเวลากลางคืน, เสพยาติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

โดยพฤติการณ์กล่าวหาสรุปว่า เมื่อคืนวันที่ 3-4 ม.ค.65 จำเลยได้เสพยา แล้วบุกรุกเข้าไปในห้องของหญิง ผู้เสียหาย ในคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านบางแค และข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้กำลังประทุษร้ายด้วยการล็อคตัว กับมีกุญแจมือและเทปกาว 1 ม้วนที่แสดงให้ผู้เสียหายดูจนเกิดความกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ทำให้ผู้เสียหายอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เหตุเกิดที่แขวง-เขตบางแค กทม.

ซึ่งศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง และรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยคดีอาญาหมายเลขแดง 3637/2556 ของศาลจังหวัดสระแก้ว ที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษด้วย

Advertisement

ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคหนึ่ง, 365 (1)(2) ประกอบมาตรา 364 และความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด มาตรา 104, 162

การกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญาทมาตรา 91 ฐานข่มขืนกระทำชำเราและฐานบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายในเวลากลางคืน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานข่มขืนกระทำชำเราซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 8 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนจำคุก 2 เดือน

โดยเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 หนึ่งในสาม ฐานข่มขืนกระทำชำเราเป็นจำคุก 10 ปี 8 เดือน ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนเป็นจำคุก 2 เดือน 20 วัน

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ฐานข่มขืนกระทำชำเราคงจำคุก 5 ปี 4 เดือน ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนคงจําคุก 1 เดือน 10 วัน รวมจำคุกจำเลย 5 ปี 5 เดือน 10 วัน และให้ริบของกลางทั้งหมด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image