‘ไผ่ ลิกค์’ พาหญิงถูกสามีลูกอัยการซ้อม จี้คดี สน.สุทธิสาร แจ้งความ 4 ครั้งไม่คืบ

‘ส.ส.ไผ่ ลิกค์’ พาผู้เสียหายเข้าติดตามคดี ปมถูกสามีลูกอดีตอัยการซ้อม บอกเป็นซึมเศร้าแต่ไม่เชื่อ นอกใจ ชวนทะเลาะ แจ้งความแล้ว 4 ครั้ง แต่คดีไม่คืบ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 เมษายน ที่ สน.สุทธิสาร นายไผ่ ลิกค์ หรือไผ่ วันพ้อยท์ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย พาตัว นางเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหายที่ปรากฏในคลิปวิดีโอว่าถูกสามีซึ่งเป็นลูกชายของอดีตอัยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชุติพนธ์ ตะกรุดทอง รองผกก.(สอบสวน)สน.สุทธิสาร เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเก่าที่เคยแจ้งความไว้ 4 ครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้า

นางเอเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ได้ทานยารักษาโรคซึมเศร้าที่เป็นยานอนหลับ ทำให้มีอาการมึนงง จากนั้นสามีก็เข้ามาชวนทะเลาะ และตามขึ้นมาทำร้ายร่างกายในห้องนอน ซึ่งมีลูกอายุ 5 ขวบอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ได้รับบาดเจ็บจมูกหัก เลือดกลบปาก มีรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง และแผลฉีกขาดบริเวณนิ้วนางข้างขวา จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ ส่วนตัวได้แต่งงานกับสามีมาแล้ว 5 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน โดยสามีเป็นนักกีฬาเทควันโดสายดำ

นางเอกล่าวว่า ช่วงแรกที่แต่งงานไม่มีการทำร้ายร่างกายกัน จนเมื่อปลายปี 2563 สามีเริ่มทำร้ายร่างกาย และมีปัญหานอกใจ จึงมีเรื่องทะเลาะกันจนตัดสินใจแยกออกจากบ้าน ก่อนแม่ของสามีให้ตนกลับมาดูแลลูกทั้ง 3 คน ในฐานะแม่ของลูก โดยแยกห้องนอนกันอยู่ แต่ก็ยังถูกทำร้ายร่างกายอีก ซึ่งลูกทั้ง 3 คนยังอยู่ในความดูแลของสามี ตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ส่วนหนึ่งเกิดจากการถูกทำร้ายจากสามี เพราะสามีไม่พอใจที่ไปรักษา และบอกว่าตนไม่ได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเพียงแต่คิดไปเอง นอกจากนี้ ตนยังถูกข่มขู่ไม่ให้ไปแจ้งความ และจะทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ซึ่งส่วนตัวก็ยังรู้สึกเป็นห่วงลูก เนื่องจากยังอยู่ในความดูแลของสามี

Advertisement

ด้านนายไผ่กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่อยากให้ผู้เสียหายเปิดเผยเรื่องมากกว่านี้ เพราะทราบว่าฝ่ายสามีมีการแจ้งความเกี่ยวกับทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงด้วยเช่นกัน ซึ่งมองว่าเป็นการป้องกันตัวของฝ่ายหญิง แต่หากดูจากคลิปวิดีโอก็จะเห็นได้ชัดว่าฝ่ายหญิงถูกทำร้ายร่างกายหนัก และอยากสอบถามพนักงานสอบสวนถึงเหตุที่เกิดขึ้นล่าสุด ที่มีการแจ้งให้ตำรวจไปในบ้านที่เกิดเหตุแต่ไม่ควบคุมตัวฝ่ายชายมาสอบสวน

ต่อมาเวลา 16.00 น. ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน นายไผ่ เปิดเผยว่า ในทางคดีขณะนี้ได้แจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายกับสามีของผู้เสียหาย ส่วนที่ผู้เสียหายต้องการหย่าขาดกับสามี พรรคจะช่วยรวบรวมหลักฐานและช่วยเหลือดูแลสิทธ์อย่างถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องความปลอดภัยของผู้เสียหายจะทำอย่างเต็มที่ แต่ไม่ปิดกั้นหากผู้เสียเปลี่ยนใจและอยากคืนดีกับสามี โดยตั้งแต่มีการเปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทางพรรคพร้อมช่วยเหลือทุกคนไม่ว่าเป็นเด็ก สตรีหรือคนชรา สามารถขอความช่วยเหลือเข้ามาได้ ทางพรรคจะช่วยเหลือให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียหายให้มากที่สุด ส่วนที่ผู้เสียหายมาแจ้งมาก่อนหน้านี้ ทราบว่าตำรวจยังไม่ดำเนินการอะไร และตนเองยังไม่ทราบว่าทำไมถึงไม่มีความคืบหน้า แต่จากวันนี้ก็พร้อมจะเริ่มกันใหม่

ขณะที่ นางเอ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่รู้เรื่องกฎหมาย ต้องปรึกษากับทางนายไผ่ ให้เข้ามาช่วยเหลือ ยอมรับว่าอยากเจอลูกมาก ตั้งแต่แยกมาก็ไม่กล้ากลับเข้าที่บ้านสามีเพราะกลัวจะถูกทำร้าย แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องเข้าไปเก็บของที่ห้องแต่ยังไม่ใช่ช่วงนี้ เพราะไม่อยากให้ลูกเห็นบาดแผลของตนเอง หลังจากนี้จะพยายามแก้ปัญหาแต่จะให้กระทบลูกให้น้อยที่สุด สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือการไม่ได้เจอกับลูก ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสามียังไม่เคยทำร้ายตบตีลูกเหมือนที่กระทำกับตนเอง

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image