ทนายเผย คดีรุกป่าปารีณา ผลของผู้กล้าที่ตายกลางสนามรบ เตรียมศึกษาการยื่นอุทธรณ์

แฟ้มภาพ

ทนายเผย คดีรุกป่าปารีณา ผลของผู้กล้าที่ตายกลางสนามรบ เตรียมศึกษาการยื่นอุทธรณ์

จากกรณีที่ศาลฎีกาพิพากษาให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พ้นจากตำแหน่งนับจากวันที่ 25 มี.ค.64 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตลอดไป มีผลให้ผู้คัดค้านไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ส.ว. ผู้บริหารท้องถิ่น และดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 วรรคสี่ และ พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 มาตรา 81, 87 และมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ข้อ 3 ข้อ 17 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง ทั้งนี้ คำพิพากษาให้มีผลทันที กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรีนั้น

เมื่อวันที่ 7 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปารีณาไม่ได้เดินทางมาศาล มีเพียง นายทิวา การกระสัง ทนายความของ น.ส.ปารีณา เป็นตัวแทนเดินทางมาฟังคำพิพากษา

นายทิวากล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ยอมรับผลของคำพิพากษา แต่ยืนยันว่า น.ส.ปารีณาไม่ได้บุกรุกที่ป่าสงวนตั้งแต่แรก แต่เป็นการรับที่ดินต่อจากบิดา โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดิน ส.ป.ก. เนื้อที่ 610 ไร่ ในปี 2555 และศาลชี้ให้เห็นว่า น.ส.ปารีณาไม่ใช่คนจน และไม่ใช่บุคคลที่เป็นชาวไร่ในการประกอบอาชีพ ดังนั้น การครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.จำนวนมากเป็นการทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน

นายทิวากล่าวว่า แม้ว่า น.ส.ปารีณาจะคืนที่ดินแล้วในปี 2562 ซึ่งตามหลัก น.ส.ปารีณาควรจะต้องมอบคืนเลยตั้งแต่ก่อนที่จะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น จึงถือว่ามีเจตนาที่จะครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ทำให้ประชาชนไม่สามารถได้รับการจัดสรรที่ดินในส่วนนี้ได้ ดังนั้น ศาลจึงพิจารณาว่าเข้าข่ายการผิดจริยธรรมร้ายแรง

Advertisement

“การตัดสินวันนี้ไม่สามารถทำให้ น.ส.ปารีณาเป็นนักการเมืองได้ ถือเป็นราษฎรแล้วต้องพักผ่อนไปอีก 10 ปี ส่วนที่ระบุว่ามีการตัดสิทธิทางการเมืองตลอดไปนั้น ต้องดูว่าคำว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคุณสมบัติอะไร เช่น เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติการเลือกตั้ง และหากถูกตัดสิทธิลง ส.ส. ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ แต่ทั้งนี้หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ น.ส.ปารีณาก็มีโอกาสกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ก็ได้ไปพักผ่อนเช่นเดียวกับนายสิระ เจนจาคะ

“อยากให้รู้ว่าที่ผ่านมา น.ส.ปารีณาโดนมาเยอะ นี่คือผลของผู้กล้าที่ตายกลางสนามรบ เป็นเรื่องปกติ แต่วีรบุรุษไม่เคยตายกลางสนามรบ ซึ่งนี่คือการเมืองไทย” นายทิวากล่าว

นายทิวากล่าวอีกว่า ภายหลังจากการฟังคำพิพากษา ตนไม่ได้พูดคุยกับ น.ส.ปารีณา แต่ น.ส.ปารีณาได้เตรียมการทำฟาร์มไก่ใหม่ ส่วนเรื่องของคดีก็ต้องดูว่าตามกฎหมายสามารถยื่นอุทธรณ์ไปยังที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาได้หรือไม่ หากทำได้ก็จะลองยื่นอุทธรณ์ดู ซึ่งในส่วนของคดีอาญาทางการเมืองทั่วไปสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ แต่ในกรณีผิดจริยธรรมเป็นการพิพากษาคดีแรก จึงต้องศึกษาดูข้อกฎหมายก่อนว่าจะใช้ระเบียบเดียวกันหรือไม่

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image