แจงคำสั่งระดม ตร.หลายพันนายเข้ากรุง ยันไม่ได้ให้มาเลือกตั้งผู้ว่าฯ แต่มาดูแลความเรียบร้อย

ตร.แจงปมสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอเกี่ยวกับประเด็นการออกหนังสือคำสั่งให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย การจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร

เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ชี้แจงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหนังสือคำสั่งให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม กรุงเทพมหานครได้มีการประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ซึ่งตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ข้อ 51 เมื่อกรุงเทพมหานคร ประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ประสานกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อขอให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเจ้าพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำที่เลือกตั้งอย่างน้อยที่เลือกตั้งละ 2 คน ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครจึงได้มีหนังสือมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง

พ.ต.อ.กฤษณะระบุว่า เพื่อให้ภารกิจการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปกำกับดูแลพร้อมติดตามประเมินสถานการณ์ด้านการข่าวที่อาจส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง รวมถึงภารกิจการรักษาความสงบในพื้นที่ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาใช้บริการตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ อย่างเต็มความสามารถ ตามที่กรุงเทพมหานครได้ร้องขอกำลังในการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสนับสนุนภารกิจโดยต้องใช้กำลังในการรักษาความสงบเรียบร้อยก่อนวันเลือกตั้ง การรักษาความสงบเรียบร้อยในวันเลือกตั้ง โดยเฉพาะกำลังรักษาความปลอดภัยประจำที่เลือกตั้งซึ่งมีจำนวน 6,817 หน่วย และกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ปกติในวันเลือกตั้งซึ่งกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลไม่เพียงพอในการปฏิบัติภารกิจ เนื่องจากในหน่วยเลือกตั้งแต่ละหน่วยต้องมีเจ้าหน้าที่หลายส่วนที่ทำหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อสืบสวนหาข่าว เพื่อเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว รวมถึงเพื่อคอยจัดการการจราจร เป็นต้น จึงได้มีการร้องขอกำลังเพื่อสนับสนุนภารกิจดังกล่าวมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจนครบาลก็ร้องขอกำลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อคอยสนับสนุนภารกิจลักษณะดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

“ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่าจะนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเพื่อเลือกตั้งนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวมถึงบุคคลต้องห้ามที่ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้ และการจำกัดสิทธิทางการเมืองกรณีไม่ไปเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรด้วย ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไว้แล้ว

“จากคุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้งดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางมาจากพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยในการสนับสนุนกำลังในการปฏิบัติภารกิจหากขาดคุณสมบัติก็ไม่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานอยู่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล หากมิได้มีทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครก็ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ประชาชนจึงมั่นใจได้ว่าการเลือกตั้งจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเป็นไปตามระเบียบบังคับ พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว

Advertisement

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยให้ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปกำกับดูแล กำชับการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบมีการเตรียมความพร้อมและติดตามสถานการณ์ด้านการข่าว การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่หน่วยเลือกตั้งโดยแบ่งภารกิจเป็นก่อนเลือกตั้ง ขณะเลือกตั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งฯ และหากพบการกระทำความผิดก็จะเร่งรัดการสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image