เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. กล่าวถึงมาตรการในการดูแลการชุมนุมช่วงวันแรงงาน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ยืนยันว่าในส่วนของการชุมนุมนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินขอให้ประชาชนดูในส่วนข้อกฎหมายให้ชัดเจน ยืนยันว่าสามารถเห็นต่างได้ แต่ไม่ควรใช้ความรุนแรง และขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ยืนยันว่าตำรวจจะควบคุมทั้งอารมณ์ และยุทธวิธี ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ซี่งตนได้กำชับให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างครบถ้วน
ส่วนกรณีของการจับกุม นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท โมกหลวงริมน้ำ ผู้ต้องหาคดีความผิดม. 112 ของ สน.สำราญราษฎร์ เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า เป็นการจับกุมตามหมายจับของศาล ซึ่งแสดงการจับกุมชัดเจน โดยมีมวลชนเดินทางไปที่ สน.สำราญราษฎร์ จำนวนหนึ่ง และเกิดการกระทบกระทั่งกัน อย่างไรก็ตาม หากได้รับความเสียหาย หรือได้รับผลกระทบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำผิด ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ ตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นักกิจกรรมรายหนึ่งถูกรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ เฉี่ยวชนระหว่างคุมตัว นายโสภณ นั้น ข้อเท็จจริงได้ปรากฎตามภาพถ่ายและภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีตำรวจ ว่ามีการกีดขวางรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างนำตัวผู้ต้องหาไปหรือไม่ หากทำการกีดขวาง ต้องดูพฤติกรรมของตนเอง แต่หากตำรวจกระทำความผิด ยืนยันว่าสามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีได้ โดยจะตั้งกรรมการสอบสวนให้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม จากที่ตนได้สังเกตเห็นพฤติกรรมของกลุ่มมวลชนเมื่อคืน พบว่ามีการขว้างปาสิ่งของ รวมถึงทุบ และกีดขวางรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ ยังไม่ได้ตัดประเด็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถูกแต่อย่างใด และทราบว่าได้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีอยู่แล้ว ซี่งจะได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงในเหตุการณ์
