ตำรวจบุกค้น 5 จุด ปราจีนบุรี ล่าตัว ‘สุนทร’ คาดไหวตัวทัน ชิงหนีออกนอกพื้นที่

ตำรวจบุกค้น 5 จุด ปราจีนบุรี ล่าตัว “สุนทร” นายก อบจ.ปราจีนบุรี พ่อ รมช.ศึกษาธิการ คาดไหวตัวทัน ชิงหนีออกนอกพื้นที่ไปไม่นาน

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.), ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 5 จุด ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อตามจับกุมตัว นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.33/2565 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ข้อหา “สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ รักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล” ซึ่งเป็นบิดาของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใน จ.ปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 150 ไร่ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการหลบหนี

โดยเป้าหมายสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ อยู่ที่บ้านเลขที่ 21/1 ถนนวัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี บ้านพักของนางกนกวรรณ บุตรสาว, บ้านเลขที่ 43 ถนนวัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี สำนักงานของนายสุนทร, โรงแรมบางปะกง เลขที่ 41 ถนนวัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และบ้านพักของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่ เบื้องต้นจากการเข้าตรวจค้นและตรวจสอบ ยังไม่พบตัวนายสุนทร คาดว่าไหวตัวทัน ชิงหลบหนีออกจากพื้นที่ไปได้ไม่นาน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบ้านพักของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี นั้น เป็นบ้านพักของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมคือ นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือ ส.จ.โต้ง อายุ 46 ปี ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งเคยมีส่วนเกี่ยวกับคดีอุกฉกรรจ์ในอดีตหลายคดี หลังแนวทางสืบสวนพบในอดีตทั้งนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี และนายชัยเมศร์ เคยคบหาสนิทสนมกัน รวมถึงตัวของนายชัยเมศร์นั้นก็ถือเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ รู้จักกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลอีกหลายเครือข่าย

Advertisement

จากการสอบถามบุคคลใกล้ชิด ส่วนใหญ่ให้การอ้างว่าไม่ได้พบเห็นหรือติดต่อกับนายสุนทรมานานกว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหน้าที่จะมีการออกหมายจับ แต่ทางเจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมกับกระจายกำลังลงพื้นที่ไล่สืบหาเบาะแสเพื่อแกะรอยติดตามตัวให้ได้ก่อนที่คดีดังกล่าวจะหมดอายุความลงในวันพรุ่งนี้ (13 มิถุนายน)

สำหรับคดีนี้มีอายุความ 20 ปี นับจากวันที่กระทำผิดในปี 2545 โดยนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เคยให้ข้อมูลว่า ป.ป.ช.เพิ่งได้รับสำนวนคดีจากตำรวจมาในปี 2563 ก็เร่งพิจารณามาโดยตลอด จนสรุปสำนวนชี้มูลความผิดได้ ขณะนี้พยายามประสานกับทางตำรวจเต็มที่เพื่อหาทางนำตัวนายสุนทรมารายงานตัวต่ออัยการให้ทันวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ก่อนคดีหมดอายุความ กรณีที่หมดอายุความไปจริง ป.ป.ช.จะพิจารณาดำเนินการถอดถอนนายสุนทรออกจากตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image